“นุกนิก ตีสิบ” เผยประสบการณ์เฉียดตาย คิดสั้นกินยาฆ่าตัวตายประชดความจน น้ำตาคลอยกมือพนมอยากกราบเท้าขอโทษแม่ วูบเดียวเกือบเปลี่ยนทั้งชีวิต
เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวว่านักแสดงสาวประเภทสองซึ่งกำลังจะมีผลงานภาพยนตร์ เทยทอมเกย์ ป่วนเมือง “นุกนิก ตีสิบ” คิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เหตุทุกอย่างถาโถมเข้ามาจนจิตใจรับไม่ไหว ทั้งภาระทางการเงินที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดใจกับรายการ “ข่าวช่อง 2” ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ว่าครอบครัวของตนยากจน ที่ผ่านมาทำงานไม่เคยเกี่ยงเงินมากเงินน้อย หวังให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ คือ บทเรียนราคาแสนแพง พร้อมกราบขอโทษ “พ่อ - แม่” จากนี้ไปจะไม่คิดหนีปัญหาด้วยวิธีนี้อีก
“ปัญหามันมีทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางออกทางไหน นุกนิกเป็นลูกคนที่ 2 มีพี่น้อง 2 คน พี่สาวเพิ่งเสียไปปีที่แล้ว เมื่อก่อนหนูเป็นครูสอนนาฏศิลป์ ข้าราชการเนาะ เงินเดือนมันน้อย พอพี่สาวเสียทุกสิ่งทุกอย่างมันมาตกอยู่ที่หนูหมดเลย ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าคอนโด ค่ากินค่าอยู่ทุกอย่างเป็นหนูหมด”
“เราเป็นเหมือนเสาหลักครอบครัว แล้ววันนั้นทั้งค่าโน่นค่านี่มันโถมมาหาเรา เราคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก จะไปปรึกษาใครเรื่องเงินเรื่องทอง หนูบอกตรง ๆ หนูยืมพี่แสนหนึ่งพี่จะให้หนูยืมไหม ปัญหาของใคร ใครก็ช่วยกันไม่ได้ อารมณ์ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงใคร คิดแค่ว่าถ้าเราตายไปแล้วปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างจบ คิดแค่นี้ ไม่ได้คิดว่าพ่อแม่ต้องมารับผิดชอบภาระต่อเรา มันเป็นช่วงวูบหนึ่งเท่านั้นหนูคิดอย่างนี้”
“วันนั้นใกล้ ๆ จะสิ้นเดือน ค่ารถ ค่าโน่นค่านี่มา เราหมุนเงินไม่ทัน คิดแหละว่าจะไปยืมใคร หนูไม่กล้าบอกตรง ๆ เป็นคนหน้าด้านไม่ค่อยกล้ายืมเงินใคร ไม่มีก็คือไม่กินไม่แ-กมันเลย ประมาณนั้น คือ อดไม่ต้องให้ใครรู้ พ่อแม่เราก็จะไม่รู้ เมื่อก่อนตอนพี่สาวหนูอยู่ก็พอเจียดใช้ได้ เมื่อก่อนพ่อแม่ก็ส่งให้สบาย ๆ แต่พอพี่สาวเสียทุกอย่างก็ดร็อปลงหมดเลย หนูต้องหาเอง ตระเวนหาหมดทุกอย่าง ร้องเพลงวันละ 200 - 300 หนูไปหมดเลยนะ ไม่เคยเกี่ยงเงินน้อย ไปหมดเลย งานวัดงานวา งานฉลอง บุญบ้านใหม่ หนูไปหมด ไม่เคยเกี่ยง”
เผยกินยาฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายคิดได้ รีบโทรศัพท์บอกยามให้เข้ามาช่วย
“นุกนิกอยู่ต่างจังหวัดมาก่อน คราวนี้ก็เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ภาระมันก็ยิ่งเยอะเนาะ เราก็คิดอยู่ว่าทำยังไงให้ได้เงินมาส่ง มาจุนเจือครอบครัว ให้พ่อให้แม่ได้สบาย แต่หนูไม่คิดขายรถนะ ถ้าภาระตรงนี้หนูทำมันขึ้นมาแล้วทำไม่ได้หนูจะไม่ทำ คือตอนนั้นในความคิดของหนู หนูไม่คิดอะไรเลย อยากตายอย่างเดียว อยากหนีปัญหา ตายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจบประมาณนั้น”
“บอกตรง ๆ นะตอนแรกคิดจะผูกคอตาย คือ รู้แหละว่าถ้าผูกคอตายสมมติมันไม่ตายขึ้นมามันทรมาน เครียดมาก หนูไม่กล้าโทร.หาแม่ ไม่กล้าบอกปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง หนูรับผิดชอบคนเดียวทุกอย่าง ไม่เคยบอกญาติพี่น้อง ไม่เคยบอกเพื่อนให้ฟังเลย เป็นแบบนี้ ก็เลยตัดสินใจกินยาดีกว่า ยาพาราแต่ไม่รู้กินเยอะขนาดไหน ใส่มือเป็นกำก็ยัดใส่ปากเลย”
“เราก็รู้สึกว่าเราไปนอนดีกว่า เก๋ ๆ สบาย ๆ แต่พอไปสักพักรู้สึกมันทรมาน มันออกร้อน ร้อนแบบ... มันบอกไม่ถูก แล้วคราวนี้ก็ประมาณว่ากูจะตายไม่ได้นะ ถ้ากูตายไปแล้ว พ่อกับแม่กูจะอยู่ยังไง ระหว่างที่เรานอนอยู่มันก็ฉุกขึ้นมาในหัว แว้บหนึ่งพ่อกับแม่ ถ้านุกนิกตายไปพ่อกับแม่จะอยู่ยังไง ประเด็นสำคัญคือเพิ่งจะเสียพี่สาวไปด้วย ก็เลยคิดขึ้นมาได้ ไม่ไหวนะ เราหนีปัญหาไม่ได้นะ พ่อกับแม่ต้องรับผิดชอบภาระทุกสิ่งทุกอย่างแทนเรา ก็เลยโทร.หายาม พาหนูไปโรงพยาบาลหน่อย ยามก็ถามว่าห้องไหน ตอนนั้นเราเบลอแล้ว บอกเขาชั้น 5 เขาก็ขึ้นมาก็เคาะหา แต่หนูไม่ได้ตอบ เขาก็ไม่กล้าเปิดห้องเพราะเขาเป็นยาม สักครู่หนึ่งเราก็บอกเขาว่าอยู่ห้องนี้ มันอึกอักพูดอะไรไม่ถูก มันแน่นอกมันทำอะไรไม่ถูก ยาม 2 คน ตอนแรกมาคนหนึ่งยกไม่ไหว ยามเท่าหน้าแข่งหนูเองค่ะ (หัวเราะ) ยามมา 2 คน หามลงลิฟต์เรียกแท็กซี่แล้วก็ไปส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นคิดว่าเรารอดตายแล้ว”
น้ำตาคลอยากกราบเท้าขอโทษแม่ เผยวูบเดียวอาจเปลี่ยนทั้งชีวิต
“มันเป็นอะไรแค่วูบเดียว วูบเดียวชีวิตเราเปลี่ยนเลยนะคะหนูบอกตรง ๆ โชคดีที่หนูคิด หนูมีพ่อมีแม่ที่คอยดูแลเราอยู่ เราก็ต้องดูแลท่าน หนูคิดผิดมาก ๆ ที่ฆ่าตัวตาย ตอนแรกหนูจะไม่บอกพ่อแม่นะ แต่มีคนไปบอกแม่ตอนที่แม่สวดมนต์อยู่ที่วัด แม่ก็ตกใจ โทร. มาหาหนูก็ไม่ได้รับ เพราะโทรศัพท์อยู่ที่ห้อง ก็ได้คุยกับแม่อีกวันหนึ่งค่ะ โทร.ไปหาเพื่อน ก็จะบอกเพื่อนแหละว่าไม่ต้องบอกพ่อกับแม่นะ กลัวแกเป็นห่วงมาก ไม่รู้หรอกว่าเขารู้แล้ว”
“พอได้คุยกับแม่ แม่ก็บอกว่าลูกแม่เหลือลูกคนเดียว แกบอกว่าหัวใจแกจะหล่นจากขวัญ (จะขาดใจ) สงสารแก หนูสงสารแม่ หนูอยากกราบเท้าแม่ (พนมมือน้ำตาคลอ) กับพ่อ ถ้าหนูมีโอกาสหนูจะพูดกับแกเลยว่าพ่อแม่คือหนูไม่ตั้งใจ นุกนิกทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพ่อกับแม่ ไม่ได้เพื่อตัวเองเลยทุกวันนี้ที่เข้ามากรุงเทพฯ คือ อยากหาเงิน อยากหารายได้ให้พ่อกับแม่ได้มีความสุขเท่าเทียมกับคนอื่นเขา เพราะว่าหนูเป็นคนจน หนูไม่ได้มือเงินมากมายอะไรเลย หนูอยากโด่งดัง มีชื่อเสียง หนูทำทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงเงินน้อยเงินมาก”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
