ศรีสะเกษ - ตร.สภ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ ตามรวบหนุ่มก่อสร้างฆ่ารัดคอครูสาวชิงทองครึ่งสลึงแล้วลากศพไปผูกคอกับเหล็กดัดของหน้าต่างอำพรางคดีเหมือนฆ่าตัวตาย อ้างเหตุเมายาบ้าหนัก เผยเป็นเพื่อนบ้านสนิทผู้ตาย เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมศึกษา และเป็นคนงานรับจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้ตายด้วย
วันนี้ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุ น.ส.วิไลวรรณ พงษ์วัน ครูสาววัย 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ข้าราชการครูสอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเขต อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ใช้สายไฟฟ้าผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ญาติพี่น้องไม่เชื่อเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากสภาพศพนั่งพับเพียบคอพับติดหน้าต่าง และมีรอยรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวชสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ ซึ่งญาติพี่น้องได้นำศพของ น.ส.วิไลวรรณ ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ที่ สภ.ขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเก ษ พ.ต.ต.สุเทน ดวงพิมพ์ พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ร้อยเวรเจ้าคดีเปิดเผยว่า จากการสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.ขุขันธ์ พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ หน.งาน สอบสวน สภ.ขุขันธ์ พ.ต.ท.ชัยเดช แก้วมหาวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.ขุขันธ์ ยืนยันชัดเจนว่า เป็นการเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมแล้วอำพรางให้เหมือนการผูกคอตาย
โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธนงค์ชัย ทองมนต์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 199 หมู่ 3 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับผู้ตาย เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา และเป็นคนงานก่อสร้างที่รับจ้างสร้างบ้านให้แก่ผู้ตายด้วย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้วได้หลบหนีไปรับจ้างทำงานก่อสร้างอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ
ต่อมา พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.ขุขันธ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ขุขันธ์ ไปติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ อ.วังหิน ตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 343/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
จากการสอบสวน นายธนงค์ชัย ทองมนต์ อายุ 30 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำของวันที่ 9 ส.ค. ได้เสพยาบ้า จำนวน 2 เม็ด และกำลังมีอาการเมายาบ้าอย่างหนัก พอเวลาประมาณ 20.00 น ได้เห็น น.ส.วิไลวรรณ เพิ่งกลับมาจาก จ.อุบลราชธานี เนื่องจากไปหาซื้อวัสดุมาสร้างบ้าน กำลังเดินลงจากรถจะเข้าไปในบ้าน ตนนั่งอยู่ที่บ้านซึ่งห่างจากบ้านของผู้ตายออกไปประมาณ 50 เมตร ได้รีบเดินเข้ามาหาผู้ตาย และรีบดันตัวของผู้ตายเข้าไปในบ้าน จากนั้นได้บังคับให้ผู้ตายบอกว่ามีทรัพย์สินเงินทองอยู่ที่ใด และขอรหัสบัตรเอทีเอ็มด้วย แต่ผู้ตายไม่ยอมบอกเนื่องจากตนเมายาบ้าอย่างหนักจึงเกิดอาการโกรธแค้นที่ไม่ได้เงิน ได้ใช้สายไฟฟ้าสีดำที่ถือมาด้วยรัดคอของ น.ส.วิไลวรรณ จนทำให้ น.ส.วิไลวรรณ ขาดใจตายคาที่
ก่อนนำร่างของผู้ตายไปผูกติดกับเหล็กดัดของหน้าต่างเพื่ออำพรางให้เหมือนกับว่า น.ส.วิไลวรรณ ผูกคอตัวเองตาย และรูดเอาแหวนทองคำหนักครึ่งสลึงที่อยู่ในนิ้วมือของผู้ตายไปด้วย พร้อมทั้งรื้อค้นหาทรัพย์สินภายในบ้านแต่ไม่มีทรัพย์สินของมีค่าใดๆ เลย จากนั้นได้กลับไปนอนอยู่ที่บ้านตนเองทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอรุ่งเช้าของวันที่ 10 ส.ค.58 จึงได้นั่งรถโดยสารเข้าไปที่ตัว จ.ศรีสะเกษ และได้นำเอาแหวนทองคำครึ่งสลึงไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ได้เงินมาจำนวน 2,050 บาท และได้นำเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ อีกทั้งจะนำเอาเงินที่เหลือไปไถ่รถจักรยานยนต์ที่จำนำเอาไว้ที่ช่องสะงำด้วย ต่อมา ได้ไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.วังหิน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากที่เมายาบ้าแล้วไปฆ่าชิงทรัพย์เพื่อนสาวของตัวเองที่เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่เป็นเด็ก และบ้านอยู่ใกล้กันด้วย
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเพื่อตระเตรียมหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอื่น นำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่บริเวณบ้านของผู้ตายซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า มีบรรดาเพื่อนบ้าน และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวต่างพากันมาดูที่เกิดเหตุ อีกทั้งทราบข่าวว่า มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วจึงพากันมารอดูว่าจะมีการมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเวลาใด และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่เนื่องจากมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก และหวั่นว่าจะเกิดเหตุไม่ปกติจึงได้รีบนำตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ขุขันธ์ ต่อไป
ส่วนบรรยากาศงานศพของ น.ส.วิไลวรรณ ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีญาติพี่น้องมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมจำนวนมาก โดยญาติกำหนดพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.วิไลวรรณ ในวันที่ 16 ส.ค.นี้