โดย : บอน บอระเพ็ด (pinn109@hotmail.com)
ค่ายเพลง“ใบชาซอง” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “บรรณ สุวรรณโณ”(หรือชื่อเดิม บรรณ สุวรรณโณชิน) แม้จะเป็นค่ายเพลงเล็กๆ ค่ายเพลงนอกกระแส แต่ว่ากลับขยันส่งผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานในรูปแบบ“ซีดีอัลบั้มเต็ม” ที่แม้บรรดาค่ายเพลงใหญ่ๆจะไม่ค่อยกล้าส่งอัลบั้มเต็มออกมา แต่ว่าค่ายเพลงนี้“กล้า”
โดยล่าสุดค่ายใบชาซองได้ส่งอัลบั้ม“สิบเสียงสวย”ออกมาที่สร้างความท้าทายไม่น้อย เพราะแรกเริ่มเดิมที บรรณได้มีความคิดที่จะทำอัลบั้มชุดนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แต่หลังจากถามไถ่เพื่อนๆ ได้คำตอบว่า “เพลงผู้หญิงไม่ขายหรอก”เขาจึงเปลี่ยนใจพักแนวคิดนี้ไว้ โดยได้นำเพลง“รักยุคไฮเทค” ที่วางแผนให้เป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มรวมเพลงผู้หญิงมาสานต่อให้แม่“สวีทนุช”ร้องในอัลบั้มชุด “ต้นฉบับเสียงหวาน” (2551) ผลงานอัลบั้มชุดแรกของแม่สวีทนุช ซึ่งเป็นเพลงนอกกระแสที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
จากนั้นเมื่อได้ฤกษ์งามยามดี(อีกครั้ง) บรรณได้ปัดฝุ่นโปรเจกต์เพลงผู้หญิงนำมาสร้างสรรค์ใหม่ภายใต้ชื่อ “สิบเสียงสวย” ที่มีทั้งบทเพลงที่แต่งใหม่และเพลงเก่าที่นำมาเรียบเรียงใหม่รวม 9 เพลง(+ แทรคพิเศษ) ให้ผู้หญิงเสียงดี 10 คนขับร้องในสไตล์ของตัวเอง
เริ่มกันด้วยผู้อาวุโสแม่ “สวีทนุช” กับเพลง “ทาสเทคโนโลยี” ที่เป็นดังภาคต่อของรักยุคไฮเทค เพลงนี้ขึ้นต้นมาด้วยกลิ่นอายสโลวบลูส์ แม่สวีทนุชมารำพึงรำพันด้วยน้ำเสียงอ้อยสร้อยถึงการตกเป็นทาสเทคโนโลยี ทั้ง มือถือ คอมพิวเตอร์ Gadget อุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียอย่างงอมแงม
เพลงนี้บรรณเลือกให้แม่สวีทนุชร้อง ซึ่งถือว่าได้อารมณ์ที่ขัดแย้ง(Contras)ไม่น้อย เพราะปกติผู้สูงวัยจะห่างไกล ไม่สันทัดกับเทคโนโลยี แต่แม่สวีทนุชในเพลงนี้ถึงขั้นตกเป็นทาสเทคโนโลยีเลยทีเดียว นับเป็นการสะท้อนวิถีแห่งยุคสมัยออกมาได้เป็นอย่างดี
“มีแต่คุณ” บทเพลงที่ขับขานโดย “โอ๋ ชุติมา”(ชุติมา แก้วเนียม) อีกหนึ่งสาวเสียงสวยที่เคยฝากฝีมือไว้ในอัลบั้ม(เดี่ยว)“นิทานความรัก”และอัลบั้ม(รวม)“เฟื่องอารมณ์”
เพลงนี้มาในอารมณ์หวานใส เสียงของโอ๋นุ่มหวานละมุน เนื้อหาน่ารักอบอุ่นพูดถึงความรักที่อิ่มเอมหัวใจของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีแต่คุณ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่เหมาะต่อการเปิดในงานแต่งงานมาก
“ในแสงเทียน” ขับร้องโดย “บี๋ คณาคำ”(คณาคำ อภิรดี) มาในน้ำเสียงนุ่มทุ้มห้าวติดกลิ่นบลูส์นิดๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ กับบทเพลงสำเนียงบลูส์ในอารมณ์ย้อนยุค เนื้อหาเปรียบเทียนเป็นดังตัวแทนของความรัก ซึ่งจะต้องถูกไฟเผาจนละลาย แต่ก็ยินยอมให้ไปเผาไปเรื่อยๆ เป็นบทเพลงที่แฝงปรัชญาอยู่ในตัว เพลงนี้พี่บี๋ร้องได้อย่างหงอยเศร้าถึงอารมณ์
“รักฉันนั้นเพื่อเธอ” บรรณนำเพลงเก่า เพลงเก่ง เพลงดังของวงพิงค์แพนเตอร์ มาให้ “ฝัน เหมือนฝัน”(เหมือนฝัน มนูญผล) นักร้องสาวเสียงสวยจากอัลบั้ม two for tea มาเป็นผู้ขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ ในสไตล์สวิงแจ๊ซ ไพเราะ ละมุน มีเสียงแซกโซโฟน ฝีปาก อ.วิลเลี่ยม(กฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ) อิมโพรไวส์เป่าคลอเคลียไปตลอด
ต่อกันด้วย“เป็นหนึ่ง” ที่ขับร้องโดย “ปุ้ม สิริมา”(สิริมา สังข์ทอง) กับน้ำเสียงฟังแล้วชวนให้นึกถึงรุ่นพี่อย่าง“วิยะดา โกมารกุล ณ นคร” ไม่น้อย เพลงเป็นหนึ่งมาในอารมณ์เศร้าผิดหวัง แต่ก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี น้ำเสียงแฝงความกร้าวในอารมณ์ตัดพ้อของคนที่เคยเป็นหนึ่ง แต่ต้องมากลายเป็นหนึ่งของคนช้ำใจจากการถูกทอดทิ้ง
“คนชั่วคราว” เพลงนี้เป็นการดูโอกันระหว่าง “เพชร-เพลง”(เพชร-พชรพรรณ สุทธนนท์,เพลง-แพรวรรณ สุทธนนท์) สองพี่น้องเสียงสวยที่มาสลับกันร้องนำและประสานเสียงได้อย่างกลมกลืนรื่นไหล ฟังเพลินกับซาวนด์ดนตรีที่น่าฟังไปกับไลน์เครื่องสายสวยๆ ที่มาช่วยเติมสีสันและความอลังการในบางช่วงของตัวเพลง
“ดั่งไฟสุมทรวง” ถ่ายทอดโดย “กุ๊ก อรสุรางค์”(อรสุรางค์ อุดจัง) นักร้องสาวเสียงสวยที่เพิ่งฝากน้ำเสียงอันยอดเยี่ยมไว้กับอัลบั้มลูกทุ่งไฮไฟ 2(ลูกทุ่งไฮไฟ 3D)
ดั่งไฟสุมทรวง มาในทางสวิงแจ๊ซช้าๆ ซาวนด์ออกกลิ่นเพลงลูกกรุง แต่น้ำเสียงของน้องกุ๊กนั้นผสมผสานระหว่างความเป็นลูกกรุงกับลูกเอื้อนและลีลาแบบลูกทุ่งตามสไตล์ถนัดของเธอ เนื้อหาเพลงนี้ออกแนวอิโรติก ออดอ้อนและเต็มไปด้วยมารยาหญิงที่บรรณเขียนถ่ายทอดออกมาได้อย่งเห็นภาพ และเลือกคนร้องได้ถูกคน ถูกจริตของเพลงเป็นอย่างยิ่ง เพราะน้องกุ๊กร้องถ่ายทอดได้อย่างเซ็กซี่ ออดอ้อน แฝงไปด้วยจริตมารยาหญิงที่เข้าถึงอารมณ์เอามากๆ ซึ่งผมยกให้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงไฮไลท์ของอัลบั้มชุดนี้
“ชีวิตนี้เพื่อเธอ” โดย “หมิง ธัญญพัทธ์”(ธัญญพัทธ์ ปิติโรจน์วดีกุล) นักร้องสาวเสียงสวยจากอัลบั้ม two for tea ที่มาในแนวโซลช้าๆกับเสียงร้องในแบบสมัยนิยม มีความเป็นเอกลักษณ์ในน้ำเสียง
มาถึงเพลงร้องเพลงสุดท้าย “ธรรมชาติขาดเธอ” ขับร้องโดย “พิว โชติรส”(โชติรส วิบูลย์ลาภ) มือเพอร์คัสชั่นหญิงที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทย กับดนตรีในแบบอะคูสติกใสๆ ที่เติมใส่มาด้วย เสียงนก เสียงสัตว์อวลกลิ่นอายธรรมชาติ โดยมีเสียงเพอร์คัสชั่นจากฝีมือของพิวมาร่วมเติมสีสันอีกทางหนึ่ง
มาปิดท้ายกันในแทรค “บรรเลงเสียงสวย” เพลงบรรเลงสั้นๆ ดนตรีล่องลอยมาปิดท้ายอัลบั้มสิบเสียงสวย อัลบั้มที่ดึงมนต์เสน่ห์แห่งพลังน้ำเสียงสวยๆมีคุณภาพของผู้หญิง 10 คน มานำเสนอถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งแจ๊ซ,ลูกกรุง,โซล,บลูส์,สวิงแจ๊ซ,อะคูสติก และป็อบร่วมสมัย โดยเป็นการผสมผสานระหว่างเพลงใหม่-เก่า กับเนื้อหา เนื้อร้องที่น่าฟังไม่จำเจ พร้อมๆกับมีภาคดนตรีอันทรงเสน่ห์เป็นตัวหนุนส่งให้งานเพลงโดยรวมน่าฟังยิ่งขึ้น
นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มทางเลือกอันแตกต่างของยุคสมัยที่ค่ายใบชาซองยังคงขยันทำออกมาอย่างต่อเนื่อง
ค่ายเพลง“ใบชาซอง” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “บรรณ สุวรรณโณ”(หรือชื่อเดิม บรรณ สุวรรณโณชิน) แม้จะเป็นค่ายเพลงเล็กๆ ค่ายเพลงนอกกระแส แต่ว่ากลับขยันส่งผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานในรูปแบบ“ซีดีอัลบั้มเต็ม” ที่แม้บรรดาค่ายเพลงใหญ่ๆจะไม่ค่อยกล้าส่งอัลบั้มเต็มออกมา แต่ว่าค่ายเพลงนี้“กล้า”
โดยล่าสุดค่ายใบชาซองได้ส่งอัลบั้ม“สิบเสียงสวย”ออกมาที่สร้างความท้าทายไม่น้อย เพราะแรกเริ่มเดิมที บรรณได้มีความคิดที่จะทำอัลบั้มชุดนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แต่หลังจากถามไถ่เพื่อนๆ ได้คำตอบว่า “เพลงผู้หญิงไม่ขายหรอก”เขาจึงเปลี่ยนใจพักแนวคิดนี้ไว้ โดยได้นำเพลง“รักยุคไฮเทค” ที่วางแผนให้เป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มรวมเพลงผู้หญิงมาสานต่อให้แม่“สวีทนุช”ร้องในอัลบั้มชุด “ต้นฉบับเสียงหวาน” (2551) ผลงานอัลบั้มชุดแรกของแม่สวีทนุช ซึ่งเป็นเพลงนอกกระแสที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
จากนั้นเมื่อได้ฤกษ์งามยามดี(อีกครั้ง) บรรณได้ปัดฝุ่นโปรเจกต์เพลงผู้หญิงนำมาสร้างสรรค์ใหม่ภายใต้ชื่อ “สิบเสียงสวย” ที่มีทั้งบทเพลงที่แต่งใหม่และเพลงเก่าที่นำมาเรียบเรียงใหม่รวม 9 เพลง(+ แทรคพิเศษ) ให้ผู้หญิงเสียงดี 10 คนขับร้องในสไตล์ของตัวเอง
เริ่มกันด้วยผู้อาวุโสแม่ “สวีทนุช” กับเพลง “ทาสเทคโนโลยี” ที่เป็นดังภาคต่อของรักยุคไฮเทค เพลงนี้ขึ้นต้นมาด้วยกลิ่นอายสโลวบลูส์ แม่สวีทนุชมารำพึงรำพันด้วยน้ำเสียงอ้อยสร้อยถึงการตกเป็นทาสเทคโนโลยี ทั้ง มือถือ คอมพิวเตอร์ Gadget อุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียอย่างงอมแงม
เพลงนี้บรรณเลือกให้แม่สวีทนุชร้อง ซึ่งถือว่าได้อารมณ์ที่ขัดแย้ง(Contras)ไม่น้อย เพราะปกติผู้สูงวัยจะห่างไกล ไม่สันทัดกับเทคโนโลยี แต่แม่สวีทนุชในเพลงนี้ถึงขั้นตกเป็นทาสเทคโนโลยีเลยทีเดียว นับเป็นการสะท้อนวิถีแห่งยุคสมัยออกมาได้เป็นอย่างดี
“มีแต่คุณ” บทเพลงที่ขับขานโดย “โอ๋ ชุติมา”(ชุติมา แก้วเนียม) อีกหนึ่งสาวเสียงสวยที่เคยฝากฝีมือไว้ในอัลบั้ม(เดี่ยว)“นิทานความรัก”และอัลบั้ม(รวม)“เฟื่องอารมณ์”
เพลงนี้มาในอารมณ์หวานใส เสียงของโอ๋นุ่มหวานละมุน เนื้อหาน่ารักอบอุ่นพูดถึงความรักที่อิ่มเอมหัวใจของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีแต่คุณ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่เหมาะต่อการเปิดในงานแต่งงานมาก
“ในแสงเทียน” ขับร้องโดย “บี๋ คณาคำ”(คณาคำ อภิรดี) มาในน้ำเสียงนุ่มทุ้มห้าวติดกลิ่นบลูส์นิดๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ กับบทเพลงสำเนียงบลูส์ในอารมณ์ย้อนยุค เนื้อหาเปรียบเทียนเป็นดังตัวแทนของความรัก ซึ่งจะต้องถูกไฟเผาจนละลาย แต่ก็ยินยอมให้ไปเผาไปเรื่อยๆ เป็นบทเพลงที่แฝงปรัชญาอยู่ในตัว เพลงนี้พี่บี๋ร้องได้อย่างหงอยเศร้าถึงอารมณ์
“รักฉันนั้นเพื่อเธอ” บรรณนำเพลงเก่า เพลงเก่ง เพลงดังของวงพิงค์แพนเตอร์ มาให้ “ฝัน เหมือนฝัน”(เหมือนฝัน มนูญผล) นักร้องสาวเสียงสวยจากอัลบั้ม two for tea มาเป็นผู้ขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ ในสไตล์สวิงแจ๊ซ ไพเราะ ละมุน มีเสียงแซกโซโฟน ฝีปาก อ.วิลเลี่ยม(กฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ) อิมโพรไวส์เป่าคลอเคลียไปตลอด
ต่อกันด้วย“เป็นหนึ่ง” ที่ขับร้องโดย “ปุ้ม สิริมา”(สิริมา สังข์ทอง) กับน้ำเสียงฟังแล้วชวนให้นึกถึงรุ่นพี่อย่าง“วิยะดา โกมารกุล ณ นคร” ไม่น้อย เพลงเป็นหนึ่งมาในอารมณ์เศร้าผิดหวัง แต่ก็มีความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี น้ำเสียงแฝงความกร้าวในอารมณ์ตัดพ้อของคนที่เคยเป็นหนึ่ง แต่ต้องมากลายเป็นหนึ่งของคนช้ำใจจากการถูกทอดทิ้ง
“คนชั่วคราว” เพลงนี้เป็นการดูโอกันระหว่าง “เพชร-เพลง”(เพชร-พชรพรรณ สุทธนนท์,เพลง-แพรวรรณ สุทธนนท์) สองพี่น้องเสียงสวยที่มาสลับกันร้องนำและประสานเสียงได้อย่างกลมกลืนรื่นไหล ฟังเพลินกับซาวนด์ดนตรีที่น่าฟังไปกับไลน์เครื่องสายสวยๆ ที่มาช่วยเติมสีสันและความอลังการในบางช่วงของตัวเพลง
“ดั่งไฟสุมทรวง” ถ่ายทอดโดย “กุ๊ก อรสุรางค์”(อรสุรางค์ อุดจัง) นักร้องสาวเสียงสวยที่เพิ่งฝากน้ำเสียงอันยอดเยี่ยมไว้กับอัลบั้มลูกทุ่งไฮไฟ 2(ลูกทุ่งไฮไฟ 3D)
ดั่งไฟสุมทรวง มาในทางสวิงแจ๊ซช้าๆ ซาวนด์ออกกลิ่นเพลงลูกกรุง แต่น้ำเสียงของน้องกุ๊กนั้นผสมผสานระหว่างความเป็นลูกกรุงกับลูกเอื้อนและลีลาแบบลูกทุ่งตามสไตล์ถนัดของเธอ เนื้อหาเพลงนี้ออกแนวอิโรติก ออดอ้อนและเต็มไปด้วยมารยาหญิงที่บรรณเขียนถ่ายทอดออกมาได้อย่งเห็นภาพ และเลือกคนร้องได้ถูกคน ถูกจริตของเพลงเป็นอย่างยิ่ง เพราะน้องกุ๊กร้องถ่ายทอดได้อย่างเซ็กซี่ ออดอ้อน แฝงไปด้วยจริตมารยาหญิงที่เข้าถึงอารมณ์เอามากๆ ซึ่งผมยกให้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงไฮไลท์ของอัลบั้มชุดนี้
“ชีวิตนี้เพื่อเธอ” โดย “หมิง ธัญญพัทธ์”(ธัญญพัทธ์ ปิติโรจน์วดีกุล) นักร้องสาวเสียงสวยจากอัลบั้ม two for tea ที่มาในแนวโซลช้าๆกับเสียงร้องในแบบสมัยนิยม มีความเป็นเอกลักษณ์ในน้ำเสียง
มาถึงเพลงร้องเพลงสุดท้าย “ธรรมชาติขาดเธอ” ขับร้องโดย “พิว โชติรส”(โชติรส วิบูลย์ลาภ) มือเพอร์คัสชั่นหญิงที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทย กับดนตรีในแบบอะคูสติกใสๆ ที่เติมใส่มาด้วย เสียงนก เสียงสัตว์อวลกลิ่นอายธรรมชาติ โดยมีเสียงเพอร์คัสชั่นจากฝีมือของพิวมาร่วมเติมสีสันอีกทางหนึ่ง
มาปิดท้ายกันในแทรค “บรรเลงเสียงสวย” เพลงบรรเลงสั้นๆ ดนตรีล่องลอยมาปิดท้ายอัลบั้มสิบเสียงสวย อัลบั้มที่ดึงมนต์เสน่ห์แห่งพลังน้ำเสียงสวยๆมีคุณภาพของผู้หญิง 10 คน มานำเสนอถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งแจ๊ซ,ลูกกรุง,โซล,บลูส์,สวิงแจ๊ซ,อะคูสติก และป็อบร่วมสมัย โดยเป็นการผสมผสานระหว่างเพลงใหม่-เก่า กับเนื้อหา เนื้อร้องที่น่าฟังไม่จำเจ พร้อมๆกับมีภาคดนตรีอันทรงเสน่ห์เป็นตัวหนุนส่งให้งานเพลงโดยรวมน่าฟังยิ่งขึ้น
นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มทางเลือกอันแตกต่างของยุคสมัยที่ค่ายใบชาซองยังคงขยันทำออกมาอย่างต่อเนื่อง