“เป้ย ปานวาด” ตกใจคนแห่กดไลก์คลิป “น้องโปรด” บอก “ชมพู่ อารยา” สวยกว่าตน เผยกังวลไม่กล้าโพสต์คลิปอีกหวั่นไม่ถูกใจแฟนคลับ รับเป็นช่วงระทมลูกชอบคนอื่น โอดเกือบได้กลับมาเล่นละคร แต่พี่เลี้ยงลูกชายลาออกกะทันหัน ชี้ยังไม่ถึงเวลา
โพสต์คลิปวิดีโอเรียกรอยยิ้ม เป็นภาพที่ “เป้ย ปานวาด บุญยรัตกลิน” ถามลูกชาย “น้องโปรด” ว่าใครสวย ด้านลูกชายบอก “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” สวยจนทำให้คนแห่กดไลก์ไอจี และมีการแชร์คลิปดังกล่าวกระจาย ล่าสุดเป้ยได้ออกมาเผยความรู้สึกระบุไม่คิดว่าคลิปดังกล่าวจะโดนใจแฟนคลับ รับเป็นช่วงระทมลูกชายชอบคนอื่น
“คือจริงๆ โปรดเขาชอบชมผู้หญิงหลายคนนะคะ เพียงแต่ว่ากับชมพู่เนี่ยเขาได้เจอตอนที่ไปอัดรายการ 3แซ่บ ก็เลยจำได้ว่าคนไหนคือพี่กาละแมร์(พัชรศรี เบญจมาศ) พี่ม้า(อรนภา กฤษฎี) พี่ชมพู่ เพราะว่าก่อนไปทำงานเป้ยก็จะบอกเขาว่าเราจะไปเจอใคร เขาก็จะจำได้ว่าคนนี้คือชมพู่ แล้วคุณย่าเขาซื้อแผ่นคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด(ธงไชย แมคอินไตย์) มา แล้วมีชมพู่เป็นแขกรับเชิญ เขาก็จะจำได้ แล้วก็รอดูแต่พาร์ตชมพู่อย่างเดียว คือเหมือนเขาถูกชะตาจำว่าใบหน้านี้สวย ชมพู่ก็มีมาเมนต์ในไอจีว่าให้พันหนึ่ง(หัวเราะ) คือตัวเราชอบลงคลิปลูกอยู่แล้ว แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาตอบรับมาชื่นชอบขนาดนี้ มีคนแท็กไปให้ชมพู่เราก็เกรงใจ ตัวเราเราก็ติดตามไอจีชมพู่อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่กล้าแท็กเพราะเราเกรงใจ ปกติเวลาเราถามโปรด เขาก็จะบอกแม่สวยๆ แม่สวยกว่า แต่พอมาถึงตอนนี้ก็บอกว่าชมพู่สวยกว่า(หลังจากนั้นเป้ยหันไปถามลูกชายว่าระหว่างตนกับชมพู่ใครสวยกว่า น้องโปรดก็ยังยืนยันว่าชมพู่สวยกว่าจนเรียกเสียงฮา)”
รับไม่กล้าโพสต์คลิปหวั่นแฟนคลับไม่ชอบ หลังคลิปลูกชายบอกชอบชมพู่คนกดไลก์เพียบ บอกเป็นช่วงระทมลูกชอบคนอื่น
“คือจริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวว่าพอคลิปนี้ออกไปแล้วคนติดต่องานเข้ามาเยอะนะ แล้วตัวเราก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นข่าวขนาดนี้ ก็ดีใจแล้วก็งง โห คนกดไลก์เยอะขนาดนี้ คือเรายังคุยกับสามีเลยว่าที่รักไม่กล้าลงคลิปต่อไปแล้ว ถ้าลงคลิปต่อไปแล้วคนไม่ชอบจะทำยังไง(หัวเราะ) คือตัวเราเวลาเล่นกับลูกเราก็จะถ่ายเก็บไว้อยู่แล้ว นอกจากคลิปนี้ก็มีคลิปเดินจูงมือกับกระแต(ศุภักษร ไชยมงคล) คือเป็นช่วงที่แม่ระทมมากเลยนะคือ ก็ดีค่ะ จริงๆ เขาชอบใครอย่างญาติๆ กันเพื่อนสนิทกันเราโอเคไม่มีปัญหา แต่ก็บางทีจะบอกเขาว่าคนแปลกหน้าลูกอย่าไปนะลูก ลูกอย่าเดินจูงมือไปกับเขานะ ก็พยายามสอนเขา”
เมินถูกตั้งกระทู้แฉแม่ลูกอ่อนเปลี่ยนไปเรื่องเยอะ เช็กพฤติกรรมตัวเองแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น เผยมีบทบาทใหม่ ไม่สามารถทำให้ทุกคนเข้าใจได้
“ถ้าสมมติเป็นเราจริงๆ นะคะ คือบางทีพอเรามีครอบครัวมีลูกแล้วสิ่งสำคัญที่สุดก็คือครอบครัว คือเราไปได้นะ ทานข้าวหรืออะไรไปทำงาน ไปที่อื่นได้แต่ว่าเราก็ต้องรีบกลับมาดูแลลูก รีบกลับมาอยู่กับสามี เวลาไปทำงานที่เป็นอีเวนต์ช่วงหนึ่งถึงสองทุ่มเนี่ย เป้ยก็จะบอกทางงานก่อนแล้วว่าเป้ยขอเต็มที่ทุ่มครึ่งนะ ลูกนอน 2 ทุ่ม เราต้องกลับไปเล่านิทาน หน้าที่ของเป้ยก็คือต้องเอาน้องโปรดนอน ซึ่งคนอาจจะมองว่าเราเรื่องเยอะหรือเราเปลี่ยนไป คือเรามีหน้าที่เราต้องทำ เราไม่สามารถให้คนมาเข้าใจเราได้ทุกคน”
“เพื่อนๆ ทุกคนก็เข้าใจนะคะ แต่ก็มีแบบกัดๆ อย่างเมย์(พิชญ์นาฎ สาขากร) ก็จะบอกว่าเฮ้ย ทำไมโน่นนี่นั่น แต่ว่าสุดท้ายเข้าก็เข้าใจเป้ย ว่าเป้ยกลับไปอยู่กลับลูก บางทีเป้ยอยู่กับเขานานเกินไป เขาก็จะบอกกลับไปดูลูกได้แล้วเป็นแม่ประสาอะไร คือทุกคนเข้าใจแต่ว่าอาจจะแบบกัดๆ เล็กๆ น้อยๆ คือการให้เวลากับครอบครัวมันเป็นสิ่งที่เป้ยทำประจำอยู่แล้ว มันเป็นหน้าที่ของเป้ยอยู่แล้ว เวลาให้เพื่อนเราก็มีแบ่งบ้าง”
“ช่วงนี้พัฒนาการน้องโปรดก็รู้มากขึ้น ช่างถาม ช่างคุย ช่างเจรจา เราก็อยากใช้เวลาอยู่กับเขามากขึ้น ด้วยความที่เขาอยากรู้อยากเห็น แล้วเขามีคำถามเยอะแยะเราก็ต้องเป็นคนตอบ เพราะเราอยู่กับเขามากกว่าคุณพ่ออยู่แล้ว ก็เหมือนกับว่าถ้าเกิดเขารู้แล้วเขาได้รับคำตอบที่ดี พัฒนาการของเขาก็จะยิ่งดีขึ้นมา กับกระแสนี้เป้ยก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร คือมีเพื่อนส่งมาให้ดู เป้ยอ่านดูก็แบบใช่ฉันหรือเปล่า แต่ถ้าใช่ฉันก็ไม่เป็นไรนะ ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรอยู่ ไม่ได้มีเหตุผลที่เราจะต้องหยิ่งหรือจะเปลี่ยน แค่เพื่อนๆเข้าใจคนที่เรารักเข้าใจก็พอแล้ว”
โอดรับละครไปแล้วแต่พี่เลี้ยง “น้องโปรด” ลาออกกะทันหัน รับต้องแคนเซิลไปก่อน เชื่อยังไม่ถึงเวลากลับมาเล่นละคร
“คือจริงๆ มันเป็นก่อนหน้านี้ก็ตกลงอะไรกันเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าพี่เลี้ยงของน้องโปรดที่ดูแลกันมาตั้งแต่เด็กๆ เขาออก เราก็เลยมีความรู้สึกว่ามันอาจจะไม่ใช่จังหวะของเราที่จะได้เล่นก็ได้ เพราะอยู่ๆ ก็มาออกแล้วเราก็รู้สึกว่าคนใหม่ที่จะต้องมาดูแลน้องโปรดเนี่ยมันก็ต้องใช้เวลาศึกษาก่อน แล้วเป้ยก็ไม่รู้ว่าน้องโปรดจะเอาเขาไหม เพราะว่าเด็กคือถ้าไม่คุ้นเขาก็จะไม่เอา เราก็มีความกังวลว่าจะปล่อยได้ไหม ไว้ใจได้ไหม ก็ต้องใช้เวลา”
“ฉะนั้นจะให้เป้ยไปถ่ายละครโดยที่สมาธิหรือว่าใจอยู่กับลูกเราก็จะไม่มีสมาธิในการทำงานแน่นอน เป้ยก็เลยบอกพี่เขาไปว่า เป้ยขอโทษจริงๆ แล้วผู้ใหญ่ก็ดีมากๆ คือเข้าใจเรา เขาก็บอกว่าเรื่องหน้าก็ได้ ทั้งๆ ที่เราคิดกันเรื่องคิวเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ตอนนี้ก็ได้พี่เลี้ยงคนใหม่น้องโปรดแล้ว แต่ที่สุดแล้วมันก็อาจจะยังไม่ใช่จังหวะของเราคือขออยู่กับลูกไปก่อนแล้วกันเนาะ ถ้าเกิดมีจังหวะที่มีโอกาส มีบทดีเข้ามา ก็ขอดูบทอีกทีหนึ่ง เพราะว่าเดี๋ยวน้องโปรดก็จะไปเรียนเต็มวันแล้ว ก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที”
บอกเข้าใจสถานการณ์ถูกแคนเซิลงาน รับสะเทือนใจเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์
“ก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คือตัวเราได้ข่าวก็ยังตกใจพยายามรีบเช็กเพื่อนๆ ญาติๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วเราก็ฟังข่าวสาร รับรู้ข่าวสารตลอดเวลา ก็พยายามลงทวิตเตอร์ลงไอจีเกี่ยวกับการบริจาคเลือด เพราะเราคิดว่าสิ่งสำคัญตอนนั้นน่าจะเกี่ยวกับพวกเลือด แล้วก็เรื่องเด็กหลงทางเราก็รู้สึกสะเทือนใจ เราก็ไปทำงานแถวนั้นบ่อย ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น”
“คืออันตรายมันเกิดได้ตลอดไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่ ไปไหนก็อันตรายช่วงนี้ เมื่อวานสามีก็ถามใหญ่ถามตลอดเวลาคือมันมีสองงานที่ติดกัน เขาก็ถามตลอดงานเป็นยังไง งานแรกโอเคก็เลื่อนออกไป คือจริงๆ ก็มีลูกมาด้วย ถ้าเกิดลำพังเมียก็คงไม่ห่วงขนาดนี้(หัวเราะ) เรื่องแคนเซิลงานสถานการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตัวเราไม่ซีเรียสนะถ้าเกิดต้องยกเลิกหรืออะไรก็ตามแต่ เอาเรื่องสังคมเราก่อนดีกว่า คุณย่าก็ห่วงน้อง จะถามตลอดเลยว่างานที่ไหน จริงๆ ท่านก็อยากมาด้วย แต่เราไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว เราก็บอกไม่เป็นไรๆ งานอยู่ชั้นไหนอะไรยังไงก็จะบอกให้เขาฟัง”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม