xs
xsm
sm
md
lg

“Muse” ชุดใหม่ “Drones” งานเพลงที่ยังคง“โดน”/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
3 หนุ่ม วงมิวส์
แม้จะมีสมาชิกเพียง 3 พะหน่อ แต่ว่าวง “Muse”(มิวส์) นั้นได้ชื่อว่าเป็นวงดนตรีที่แสดงสดได้สุดสะเด่า เจ๋งที่สุด ดีที่สุดวงหนึ่งแห่งยุคนี้ พ.ศ.นี้ และเป็นข่าวดีว่าวงมิวส์จะมาเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยในวันที่ 23 ก.ย. 58 นี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี ใครที่เป็นแฟนเพลงวงมิวส์ อยากดูวงแสดงสดดีที่สุดในโลก อยากดูไลฟ์โชว์เจ๋งๆ งานนี้ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

มิวส์เป็นวงโพรเกรสซีฟร็อกจากเมืองผู้ดี ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งวงตั้งแต่ต้นปี ค.ศ.1990 โดย 3 เพื่อนเกลอ ได้แก่ แมทธิว เบลลามี (Matthew Bellamy) : ร้องนำ กีตาร์ เปียโน คีย์บอร์ด ซินธิไซเซอร์,คริส โวลสเตนโฮล์ม (Chris Wolstenholme) : เบส คีย์บอร์ด ฮาร์โมนิก้า และ โดมินิค ฮาวาร์ด (Dominic Howard) กลอง เพอร์คัสชั่น

ก่อนจะมาใช้ชื่อวงมิวส์ 3 หนุ่มกลุ่มนี้ได้ใช้ชื่ออื่นมาก่อนไม่ว่าจะเป็น Gothic Plague, Fixed Penalty, และ Rocket Baby Dolls เป็นต้น แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ชื่อ Muse

จากนั้นพวกเขาส่งอัลบั้มแรกออกมาคือ “Showbiz”(1999) ที่มีเพลงดังอย่าง “Sunburn” และ “Unintended” ซึ่งเพียงอัลบั้มแรกก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชม และสามารถแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวแบบไม่ต้องไปอำเภอ

แล้ววงมิวส์ก็ก้าวเดินอย่างองอาจกับแนวทางเฉพาะตัวในรูปแบบโพรเกรสซีฟร็อกกับดนตรีอันหลากหลายที่นำมาผสมผสานกันกลายเป็นซาวนด์เอกลักษณ์ของวงมิวส์ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น อัลเทอร์เนทีฟ,คลาสสิก,อีเล็คทรอนิก้า, เฮฟวี่เมทัล,นูเมทัล รวมไปถึงการนำโอเปร่าร็อกอิทธิพลจากวง“ควีน”(Queen) ยอดวงโอเปร่าร็อกชื่อก้องโลกมาผสมผสานในยุคหลังๆ
ปกอัลบั้มโดรน
วันนี้วงมิวส์กลับมาอีกครั้งกับงานเพลงชุดใหม่ “Drones”(2015) ในสังกัด “Warner Music” กับผลงานสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 7 โดยที่สมาชิก 3 เพื่อนเกลอที่ร่วมหัวจมท้ายมาตั้งแต่ชุดแรกยังคงอยู่เหมือนเดิม ขณะที่ผู้มาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์นั้นก็คือ “มัทท์ แลงจ์” ผู้อยู่เบื้องหลังอัลบั้มดังๆของวงร็อกแถวหน้าหลายวง ไม่ว่าจะเป็น AC/DC, เดอะ คาร์ส, หรือ เดฟ เลพพาร์ด

โดรน อากาศยานเล็กไร้คนขับ นวัตกรรมยุคใหม่ ซึ่งในวงการช่างภาพกำลังเป็นที่นิยมกับการถ่ายภาพมุมสูงผ่านโดรน แต่ในแวดวงการเมืองระดับประเทศนี่เป็นอุปกรณ์สอดแนมชั้นดี ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มชุดนี้ที่เน้นไปทางการเมือง เกี่ยวพันกับการโจรกรรมข้อมูล การสอดแนม การแฮ็คข้อมูล ซึ่งมีหลายเพลงพาดพิงไปถึง “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น” และ วิกีลีกส์ จอมแฉระดับโลกที่ชอบนำข้อมูลลับ(เฉพาะ)ของหลายประเทศมาเปิดเผยจนเคยถูกไล่ล่าเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก

ปกของอัลบั้มนี้ก็สื่อให้เห็นถึงมนุษย์ทั่วไปกำลังถูกมนุษย์หัวไม้ผู้มีอำนาจบังคับชักใยให้ดินทางในทิศทางเดียวกัน และเบื้องหลังผู้มีอำนาจนั้นก็มีมือใหญ่ยักษ์ของผู้มีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่าบังคับกุมบังเหียนเขาอีกที แล้วไอ้มือใหญ่นี่แหละคือตัวแสบที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก

ขณะที่ในปกในก็มีรูปประกอบความคิดของแต่ละเพลงกำกับไล่ไปตั้งแต่เพลงเปิดตัว “Dead Inside” เพลงร็อกโจ๊ะๆ ที่มาในแนวอิเลคทรอนิคร็อกร่วมสมัย ดนตรีฟังสบายแต่เนื้อหาไม่สบายไปด้วย เพราะคร่ำครวญถึงภายในอันตายด้านเปราะบางของพวกเขา
ภาพประกอบเพลง Psycho
จากนั้นเป็นแทรคที่สอง “Drill Sergeant” กับเสียงพูดสับสนโยงเข้าสู่เพลง “Psycho” เพลงร็อกมันๆมาในทางเฮฟวี่เมทัลมีริฟฟ์กีตาร์เสียงแน่นเป็นโครงสร้างหลักของเพลง พร้อมกับมีเสียงพูดอันสับสนที่ต่อเนื่องจากแทรคที่สองเข้ามาผสมสื่อถึงคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม

ถัดมาเป็น “Mercy” มีเสียงเปียโนพริ้วพรายเล่นนำมา เพลงนี้เป็นป็อบร็อกท่วงทำนองติดหู ดนตรีเท่เป็นตัวตนของวงมิวส์

ส่วน “Reapers” ขึ้นต้นมาด้วยโซโลกีตาร์ลูกอาเปจิโอ แหม...พี่เบลลามีพวกเล่นอย่างกับกีตาร์ฮีโร่ ดนตรีอยู่ในโครงสร้างของเฮฟวี่เมทัลมีลูกริฟฟ์เป็นตัวเดินเรื่อง แต่ก็ใส่สีสันของซาวดน์อิเทคทรอนิคสมัยใหม่เข้ามา กีตาร์โชว์ฝีมือได้โฉบเฉี่ยวทีเดียว

The Handler” อีกหนึ่งเพลงที่ตัดเป็นซิงเกิ้ลออกมา เป็นร็อกมันๆซาวนด์ดนตรีอลังการทีเดียว พี่เบลลามียังคงโชว์ฝีมือนำทางดนตรีคลาสสิกมาผสมอย่างกับพวกกีตาร์ฮีโร่(อีกแล้ว)

แล้วก็เป็นแทรคเสียงพูดใน “JFK” นำส่งเข้าสู่เพลง “Defector” ร็อกดุๆกับเสียงประสานในทางโอเปร่าคล้ายวงควีน
ภาพประกอบเพลง Drones
ต่อมาเป็น “Revolt” กับเพลงเท่ๆ มีการสลับ 2 พาร์ทหลักปานกลาง-เร็ว ในตัวเพลงกับเมโลดี้ฟังติดหูง่าย ส่วน “Aftermath” มากับความไพเราะ เนิบช้า ล่องลอย แต่ฟังมีพลัง ก่อนจะต่ออารมณ์กันด้วย “The Globalist” กับบทเพลงความยาว 10.07 นาที ขึ้นต้นมาด้วยคีย์บอร์ดซาวนด์ล่องลอย มีเสียงสไลด์กีตาร์หวานๆชวนให้นึกถึงสุดยอดวงพร็อกร็อกอย่าง “พิงก์ ฟลอยด์”(Pink Floyd) พอสมควร

แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่กลิ่นเท่านั้น เพราะมิวส์ได้นำเสนอความเป็นตัวตนของพวกเขาผ่านดนตรีที่หวานพลิ้ว เสียงเปียโนไพเราะจับใจ ขณะที่ช่วงกลางเพลงนั้นสลับอารมณ์ด้วย ดนตรีดุๆจากเสียงกีตาร์โซโลดิบหยาบ แล้วนำกลับมาสู่ความหวานไพเราะเพราะพริ้งอีกครั้ง เป็นดังมหากาพย์อันลุ่มลึกละเมียดละไม ซึ่งผมยกให้เป็นบทเพลงสุดยอดของอัลบั้มเลยทีเดียว

มาถึง“Drones” บทเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม เป็นเพลงประสานเสียงแนวเพลงสวดที่มาแบบนุ่มเนิบ ส่งท้ายอัลบั้มชุดนี้ที่ภาคดนตรียังคงมีความหลากหลาย
มิวส์ วงที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวงที่แสดงสดดีที่สุดในโลกแห่งยุคนี้ พ.ศ.นี้
ขณะที่ส่วนที่เด่นขึ้นมาก็เห็นจะเป็นซาวนด์ที่หนักดุกร้าวขึ้นแบบเฮฟวี่เมทัลที่ปรากฏในหลายเพลง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามของท่วงทำนอง และการผสมความต่างเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกลืน น่าฟัง ผ่านฝีมือทีมเวิร์คของสามประสานอันแน่นปึ้ก

นับได้ว่าชุด“โดรน” เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้ว “โดน”ไม่น้อย กับงานเพลงเนื้อหาเข้มข้น ภาคดนตรีมีเสน่ห์สวยงาม ฟังล้ำ และมีความชัดเจนในแนวทางของตัวเอง ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่วงมิวส์ยังคงสร้างสรรค์ผลงานดนตรีมีคุณภาพเหมือนเช่นเคย

*****************************************
แกะกล่อง

ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Sweet Love

อัลบั้มพิเศษจาก Warner Music กับ 32 บทเพลงรักคัดสรรชั้นดีจากในอดีต ที่ยังคงความหวานซึ้งในระดับคลาสสิกมาจนถึงทุกวันนี้ กับแพกเกจ 2 ซีดีคู่ แผ่นละ 16 เพลง ประกอบด้วยเพลงน่าสนใจ อาทิ “Hard To Say I’M Sorry”(ชิคาโก), “Masterpiece”(แอตแลนติก สตาร์), “Smoke Gets In Your Eyes”(แพตตี้ ออสติน), “Could It Be Right”(เอิร์ธ วินด์ แอนด์ ไฟร์), “I Don’t Have The Heart”(เจมส์ อินแกรม) เป็นต้น ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มรวมเพลงรักที่ฟังทีไรก็ยังไพเราะ และช่วยเติมความหวานในหัวใจได้ไม่น้อยเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น