"ทุเรศมาก..." สารภาพครับว่านี่เป็นความรู้สึกแว้บแรกของผมหลังจากที่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุดเกี่ยวกับการส่งเสริมการทำธุรกิจธุรกิจขนาดย่อม (SME) ของธนาคารแห่งหนึ่ง
รายละเอียดของภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้เริ่มจากที่มีชายสองคนกำลังจะแข่งตีแบดมินตัน แต่ก่อนที่การแข่งจะเริ่มขึ้น ปรากฏว่าที่ฝั่งของชายคนหนึ่งได้มีนักแบดมินตันหลายต่อลายคนทั้งหญิงและชายพากันวิ่งกรูเฮโลเข้ามาจนแน่นสนามและเบียดเสียดดันเน็ตจนเสาที่ขึงไว้ข้างหนึ่งพังล้มลง
แต่ถึงแม้จะวุ่นวายขนาดจนดูไม่น่าจะแข่งได้ ทว่าทางกรรมการก็ยังจะให้ชายอีกฝั่งหนึ่งเสิร์ฟลูก โดยมีเสียงโฆษกบรรยายขึ้นมาว่า "ในโลกของธุรกิจไม่มีกติกา Connection เยอะก็ได้เปรียบ ทำธุรกิจอย่าเสียเปรียบ"
ก่อนที่โฆษณาชิ้นนี้จะจบลงด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า FACE THE REALITY (เผชิญหน้ากับความเป็นจริง)
มองกันแบบผิวเผินสิ่งที่โฆษณาชิ้นนี้ต้องการจะสื่อก็คงจะเปรียบได้กับว่าในการทำธุรกิจนั้นหากคนที่ทำเป็นผู้ที่มี Connection รู้จักคนเยอะก็ย่อมที่จะได้เปรียบคู่แข่งนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากมองแบบพิเคราะห์ไปยังการใช้คำพูดที่ว่า "ในโลกของธุรกิจไม่มีกติกา" ตลอดจนภาพและเนื้อหาต่างๆ ที่สื่อออกมานั้น ใช่หรือไม่ว่าโฆษณาชิ้นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการกำลังส่งเสริมให้คนเราทำอะไรก็ได้ขอแค่เพียงให้ตนเองได้เปรียบและเอาชนะคู่แข่งขันคนอื่นๆ ก็เป็นพอใช่หรือไม่?
ไม่ใช่ผมที่รู้สึกเช่นนี้ครับ แม้แต่ในแฟนเพจธุรกิจชื่อดังอย่าง "แกะดำทำธุรกิจ blacksheep" ทางแอดนมินเพจยังได้หยิบโฆษณาชิ้นที่ว่านี้มาพูดถึงเช่นกันโดยระบุว่าเป็นเป็นโฆษณาที่แย่มากๆ พร้อมตำหนิไปยังผู้ผลิตโฆษณาและเจ้าของโฆษณาว่าปล่อยโฆษณาที่ไม่มีความรับผิดชอบเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร ซึ่งก็ปรากฏว่าได้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นด้วยมากมาย
ขอยกตัวอย่างบทวิจารณ์ในเพจดังกล่าวมาให้อ่านกันดังนี้นะครับ
...
"เป็นเรื่องเหลือเชื่อครับ วินาทีนี้ยังมีคนทำโฆษณาแย่ ๆ อย่างนี้ในยุคที่คนไทยตื่นตัวกันในเรื่องความถูกผิดชั่วดี
ธนาคารสีเขียวทำหนังโฆษณาเป็นการแข่งแบดมินตันระหว่างคนสองคน หลังจากนั้นนักแบดอีกคนมีผู้คนวิ่งออกมาเสริมทีมของตัวเอง คนที่วิ่งออกมามากจนกระทั่งทำให้เสาของตาข่ายล้มลง
เสียงของโฆษกพูดว่า "ในโลกของธุรกิจไม่มีกติกา Connection เยอะก็ได้เปรียบ ทำธุรกิจอย่าเสียเปรียบ"
หนังจบลงด้วย super เขียนว่า "เผชิญหน้ากับความเป็นจริง"
ความหมายของหนังเรื่องนี้ ผมเข้าใจเป็นอื่นไม่ได้เลย
ในโลกของการแข่งขัน ไม่มีกติกา เพราะฉนั้นคุณทำอะไรผิดก็ได้ไม่เป็นไร ความสำคัญของการทำมาค้าขายคือต้องเอาเปรียบคู่ต่อสู้ด้วยวิธีการอะไรก็ได้
ทำไมผมบอกว่าทำผิดอะไรก็ได้ ภาพมันก็สื่อออกมาโต้งโต้งว่าเสาของตาข่ายมันล้มลง แล้วกรรมการยังขานต่อว่า "ให้ serve เลย"
แล้วยังใจกล้าใช้คำว่า "Connection" ซึ่งคำคำนี้เป็นคำที่มีความหมายในทางลบ
คนทำหนังโฆษณาอาจจะบอกว่า ผมคิดลึกเกินไป เขาไม่ได้ตั้งใจสื่ออย่างนั้น
ผมไม่ได้คิดลึกครับ เนื้อหาของหนังมันสื่ออย่างโจ๋งครึ่ม จะให้ผมคิดเป็นอื่นได้อย่างไร
ผมต้องตำหนิคนสองคน คนแรกคือบริษัทโฆษณาที่ขาดความรับผิดชอบทำหนังอย่างนี้ออกมาได้อย่างไร ที่บริษัทเขาไม่ได้สอนเรื่องจรรยาบรรณในการทำโฆษณาหรือครับ
คนที่สอง ต้องตำหนิมากกว่าคนแรก คนตัวลูกค้าที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ คุณอนุมัติหนังโฆษณานี้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรหรือครับ
จะบอกให้เอาบุญ ทางธนาคารรีบถอนโฆษณานี้ออกก่อนที่เรื่องราวมันจะใหญ่โตไปมากกว่านี้
Shame on both of you.
...
ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าครีเอทีฟโฆษณาชิ้นนี้คิดอะไรอยู่? แต่าถ้าเกิดเจ้าตัวมีความคิดตามที่สื่อผ่านโฆษณาออกมาจริงๆ ก็ต้องบอกว่าน่ากลัวมากมาย
ในความรู้สึกของผม อันที่จริงคำว่า "Connection" อาจจะไม่ได้หมายความในทางลบเสมอไป และผมก็ยอมรับด้วยว่าในโลกแห่งความเป็นจริงการที่คนบางคนมีคอนเนคชัน รู้จักคนเยอะๆ นั้น เวลาจะทำอะไรในบางโอกาสก็ย่อมที่จะสะดวกหรือว่าได้เปรียบกว่าคนที่เขาไม่มีคอนเนคชันจริงๆ
แต่กระนั้นก็เพราะเช่นนี้มิใช่หรือที่บ้านเรา สังคมเราถึงต้องมีกฏหมาย มีระเบียบ มีกติกาต่างๆ เข้ามากำกับเพื่อให้ทุกๆ คนยืนอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน หากเป็นสนามแข่งขันก็เพื่อไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบ-เสียเปรียบ
ไม่เว้นแม้แต่ในโลกธุรกิจที่ผมเชื่อว่ามันย่อมต้องมีกฏกติกาของมันบังคับกำกับอยู่
ถ้าไม่มี แล้วงั้นในโฆษณาคุณจะมีตัวคนที่เป็นกรรมการไว้ทำซากอะไร
โฆษณาชิ้นนี้ทำให้ผมนึกไปถึงข่าวกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นจับอดีตนายตำรวจไทยที่พกปืน(เถื่อน)หลังเดินทางเพื่อไปเที่ยวและดูงานเกี่ยวกับการกำจัดขยะพร้อมกับข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่นโดยมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ออกเงินค่าใช้จ่ายให้
นี่ใช่มั้ยคือการสร้างคอนเนคชันของบริษัทเอกชนอย่างที่โฆษณาต้องการให้เป็น
พ่อค้าสองคนเปิดร้านขายของชำคนละฝั่งถนน คนหนึ่งขายไม่ดีนัก พ่อค้าคนดังกล่าวเอาเรื่องนี้ไปบ่นให้นักเลงใหญ่ที่เป็นเพื่อนกันฟัง นักเลงใหญ่อาสาจะช่วย ก่อนพาพวกทำทีแกล้งเมาไประรานหาเรื่องรุมกระทืบพ่อค้าคนที่ขายดี นักเลงใหญ่กับพวกถูกจับในข้อหาเมาสุราทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย ขณะที่อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักขายของไม่ได้นานเป็นปี ถามว่านักเลงใหญ่คือหนึ่งในคอนเนคชันทางธุรกิจของพ่อค้าคนที่ว่าใช่หรือไม่?
ฟังดูอาจจะเป็นตัวอย่างที่เวอร์ แต่ผมคิดเช่นนี้จริงๆ หลังดูโฆษณาชิ้นที่ว่า
วันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. ผมเข้าไปดูใน youtube ปรากฏว่าที่แชนแนลรวมโฆษณาของธนาคาร ได้มีคนเข้ามาดูคลิปโฆษณาชิ้นนี้ที่มีการโพสต์มาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. ไปแล้วกว่า1 ล้าน 6 แสนกว่าวิว
แต่ที่น่าสังเกตก็คือในคลิปของโฆษณาชิ้นนี้ได้ปิดช่องที่ให้ผู้ที่ต้องการจะแสดงความเห็นไว้ครับ ผิดกับคลิปโฆษณาตัวอื่นๆ ของธนาคารที่เปิดให้สามารถแสดงความคิดเห็นได้
ที่สำคัญล่าสุดหลังคลิกลิงค์เพื่อเข้าไปดู ปรากฏว่ากลายเป็นแบบตามภาพด้านล่างไปแล้ว
ผมเองไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องคอมฯ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่สงสัยว่ากระแสตอบรับต่อโฆษณาชิ้นนี้น่าจะดีทีเดียวถึงได้เป็นเช่นนี้...
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |