ความน่าสนใจอย่างหนึ่งจากหนังที่เข้าฉายในช่วงสามสี่เดือนมานี้ และเป็นที่ได้รับการกล่าวถึงค่อนข้างมาก นั่นคือประเด็นเกี่ยวกับสถานะและบทบาทของหญิงในหนังเหล่านั้น เพราะแม้กระทั่งหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง ดิ อะเวนเจอร์ส ภาคสองที่เพิ่งเข้าฉายไวๆ นี้ ก็ยังไม่วายจะถูกยกไปขึ้นเขียงแล้วสับๆๆ ว่าหนังเรื่องดังกล่าว ทำให้บทบาทของผู้หญิงดูย่อยยับเหลือเกิน เฉพาะอย่างยิ่ง บทของแบล็ก วิโดว์ หรือนาตาชา โรมานอฟ ฮีโร่ตัวแม่นั้น แทบไม่มีอะไรให้เหลือความโสภาในบทบาท เพราะต่อให้มองในรูปของไม้ประดับที่สวยงามเพียงหนึ่งเดียวของทีมฮีโร่ แบล็ก วิโดว์ ก็ไม่มีความเย้ายวนใจเหมือนภาคก่อนๆ ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตัวดารานักแสดงอย่างสการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ไม่ “สดใหม่” เหมือนดังเดิม หากแต่เป็นวิธีถ่ายทอดของหนังที่ไม่สามารถโชว์ความมีเสน่ห์ของเธอได้ ขณะเดียวกัน ยิ่งเมื่อมองผ่านสายตาของนักสิทธิสตรีหรือเฟมินิสต์ คนเหล่านั้นก็พากันเห็นว่า บทของนาตาชาคือภาพแทนที่สะท้อนถึงผู้หญิงในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และมีสถานะเป็นเหมือนแค่ตัวประกอบ...ซึ่งก็ว่ากันไปนะครับ แต่โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า หนังแบบดิ อะเวนเจอร์ส มันก็เป็นหนังที่เอาใจผู้ชายอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ยิ่งต้นฉบับการ์ตูน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้น ก็ไม่แปลกอะไร หากผู้ชายจะครอบครองความเด่นบดบังผู้หญิงบ้าง
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กๆ น้อยๆ เพราะอันที่จริง เมื่อสะกดรอยตามหนังที่เข้าฉายเรื่อยมาตั้งแต่ต้นปี ก็จะพบว่ามีหนังหลายเรื่องเลยทีเดียวที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้หญิง ลองนึกๆ ดู โดยเฉพาะหนังที่ผมเองเคยเขียนถึง ก็ไล่มาตั้งแต่หนังการ์ตูนจากค่ายจิบลิอย่าง When Marnie was There มาจนถึง Pitch Perfect 2 หรือแม้กระทั่งหนังแอ็กชั่นมันดุเดือดที่เพิ่งลงโรงอย่าง Mad Max นี่พูดกันอย่างไม่อ้อมค้อม มันก็คือหนังเฟมินิสต์ที่เชิดชูบทบาทสถานะของผู้หญิงให้เด่นขึ้นมา ผ่านเรื่องราวของหญิงซึ่งปฏิเสธที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่...นอกเหนือไปจากนี้ เมื่อฟังข่าวจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งล่าสุด ก็ดูจะมีหนังเรื่องหนึ่งซึ่งมีประเด็นผู้หญิงๆ อยู่เด่นชัดมาก นั่นคือ The Assassin ที่ส่งให้ผู้กำกับ “โหวเสี่ยวเชี่ยน” ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม องค์ประกอบภาพบนโปสเตอร์ไปจนถึงเรื่องย่อๆ พูดถึงหญิงสาวซึ่งถูกลักพาตัวไปฝึกเป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็กๆ ก็พอคาดเดาได้เล็กๆ ว่าหนังน่าจะมีความเป็นผู้หญิงอยู่สูง
อันที่จริง เรื่องผู้หญิงในภาพยนตร์ ก็ไม่ได้จะเพิ่งมาตื่นตัวหรือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องตื่นเต้นอะไรนัก เนื่องจากตลอดระยะทางอันยาวนานของภาพยนตร์ ก็มีผู้กำกับหลายต่อหลายคนหยิบยกเอาประเด็นความเป็นหญิงมานำเสนออยู่ไม่ขาดชนิดที่นับกันไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งก็นับเป็นความหลากหลายในการพูดถึงบทบาทและสถานะของหญิงในแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องชีวิต การทำงาน ไปจนกระทั่งความสัมพันธ์ หรือแม้แต่สังคม การเมือง เช่นเดียวกับหนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราเรื่องนี้ที่เล่นกับความเชื่อว่า โลกบางใบนั้น “สงวนไว้” เฉพาะสำหรับผู้ชาย นั่นก็คือการเป็นสายลับ... เราจะไม่ขยับไปสู่ความจริงทางประวัติศาสตร์กันนะครับ หากแต่จะจับเอาเฉพาะที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ เพราะถ้าไปไล่เรียงประวัติศาสตร์กันจริงๆ มีผู้หญิงที่ทำงานด้านจารชนหรือเป็นสายลับมาเยอะมาก และเรื่องราวของสายลับหญิงหลายคนก็ถูกนำมาทำเป็นหนังแล้วไม่น้อยเรื่อง อย่างเช่นเรื่องของ “มาตา ฮารี” (Mata Hari) หรือ 5 สาวฝรั่งเศสในเรื่อง Female Agents ที่ปลอมเป็นสายลับแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
อันดับแรกสุดที่ผมเห็นว่าหนังเรื่องนี้มีส่วนอย่างแรงในการทลายกำแพงมายาประการลงได้อย่างงดงาม คือการเล่นกับตัวละครนางเอก หญิงที่เป็นตัวเด่นในหนังเรื่องนี้ หลุดไปจากกรอบที่เคยเชื่อและทำกันมาโดยตลอดในภาพยนตร์ เราจะเห็นว่านางเอกส่วนมากมักจะต้องเป็นพวกหน้าตาดีๆ ที่สำคัญคือดูผอมๆ สวยๆ ตามแบบฉบับที่นิยมกัน แต่ “เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่” สายลับตัวแม่ในหนังเรื่องนี้ กลับไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาดีตามแบบฉบับนางเอกที่เคยเป็น ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นหญิงรูปร่างอ้วนเสียอีกด้วย พูดถึงเมลิสซ่านี่ นับเป็นนักแสดงฝีมือดีคนหนึ่งนะครับ ที่ผ่านมา เคยเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบมาแล้วจากเรื่อง The Bridesmaid อีกทั้งล่าสุดปีนี้ ชื่อของเธอยังได้รับการจารึกอยู่ใน “ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม” ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติอย่างหนึ่งสำหรับอาชีพนักแสดง
เมลิสซ่าในหนังเรื่องนี้ คือความโดดเด่นอย่างถึงที่สุด เธอรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสายลับอย่างซีไอเอ ทำงานประจำอยู่ในออฟฟิศ กระทั่งหน่วยงานถึงจุดวิกฤติเมื่อรายชื่อของสายลับภาคสนามถูกผู้ร้ายเปิดโปงจนสิ้นแล้ว เมลิสซ่าจึงอาสาที่จะลงภาคสนามเพื่อติดตามสืบว่าอาวุธร้ายที่พวกผู้ร้ายกำลังซื้อขายกัน (นู้ค) นั้นอยู่ที่ใด พร้อมๆ กับการอาสานี้ ตัวละครอย่างเจสัน สเตแธม ก็เข้ามาแจมอย่างได้จังหวะ และในฐานะที่เป็นสายลับภาคสนาม สเตแธมก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะดูแคลนแม่สาวร่างอวบของเราด้วยถ้อยคำต่างๆ นานาที่ไม่เพียงจะตอกย้ำว่า หญิงอ้วนๆ แบบเธอจะทำงานสายลับอย่างไรได้ หากแต่บทของสเตแธมยังเปิดแง้ม(อ)คติออกมาให้เห็นเด่นชัดว่า งานจารชนนั้นเหมาะแต่เพียงสำหรับผู้ชาย ผมชอบบทของสเตแธมที่สุดแสนจะคุยโวโอ้อวดเสียเต็มประดาในการปฏิบัติภารกิจที่โม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตและการเสียสละอะไรมากมาย บทนี้ล้อไปถึงภารกิจของสายลับในหนังที่ผ่านๆ มาที่เรามักจะได้เห็น อย่างเช่น การโหนเครื่องบิน ปีนตึก วิ่งหนีลูกกระสุน ฟัดปากกับผู้ร้ายที่รุมกันเป็นหมาหมู่ ฯลฯ ทั้งหมดนั้น เมื่อออกจากปากของจอมโวอย่างสเตแธม ฟังแล้วชวนตลกมากกว่าจะรู้สึกซูฮกในความทุ่มเท เพราะไม่เพียงจะเว่อวังอลังเหลือ มันยังมีท่าทีข่มคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด และคนที่ถูกข่มก็คือ สาวร่างอวบของเราอย่าง “ซูซาน คูเปอร์” ซึ่งรับบทโดยเมลิสซ่า
ว่ากันอย่างสัตย์ซื่อ นี่คือหนังที่หนุนส่งนักแสดงอย่างถึงที่สุด บทหนังฉลาดและแพรวพราวด้วยอารมณ์ขัน ลูกล่อลูกชนสูงมาก แม้จะเป็นหนังตลก แต่การดำเนินเรื่องราวกลับมีชั้นเชิงสูงมาก และที่สำคัญก็คือ ให้ความสำคัญกับตัวละครของตัวเอง เรียกว่าตัวเด่นๆ ทุกตัวล้วนแล้วแต่มีความน่าจดจำในบทบาทของตัวเอง ไล่ไปตั้งแต่ จู๊ด ลอว์ สายลับภาคสนามซึ่งซูซานร่วมงานด้วย ตลกหน้าหล่อและหน้าตายในแบบของเขา บวกกับมุกตลกแบบที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นมุก แต่กลับเรียกรอยยิ้มหรือไม่ก็เสียงหัวเราะให้กับเราได้ตลอด, เจสัน สเตแธม สายลับรุ่นใหญ่ที่มาพร้อมกับประวัติศาสตร์ขี้โม้ของตนเอง สเตแธมในช่วงหลังๆ ใช้พลังไปกับการเล่นหนังแอ็กชั่นค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับสปายเรื่องนี้ เขาเหมือนกลับไปสู่บทแบบแจ้งเกิดให้แก่เขาอย่างจริงจังอีกครั้งอย่างเรื่อง lock stock and two smoking barrels มันทั้งตลกร้ายและกวนประสาทอย่างถึงที่สุด, นอกจากนี้ ตัวละครอื่นๆ ก็ล้วนแต่ได้รับการแบ่งปันให้มีฉากสำคัญๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเพื่อนซี้ของซูซาน อย่างแนนซี่ (มิแรนด้า ฮาร์ท) ที่ออกฉากครั้งใดก็มีมุกตลกพ่วงมาด้วยตลอด, ดาวร้ายสุดเซ็กซี่อย่างเรน่า (โรส เบิร์น) ที่แม้จะร้ายก็ร้ายแบบฮาๆ
ส่วนเมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ นั้นคือความดีงามสูงสุดของงานชิ้นนี้...ในรายการชวนคิดชวนคุยทางแมเนเจอร์เรดิโอ 97.75 ถามผมว่า เหมือนหนังมันจะมาในสไตล์ซ้ำๆ หรือเปล่า ก็ตอบได้เลยว่า มันจะมีความฮาแบบที่คุณคาดไม่ถึง ใครได้ดูหนังสายลับอังกฤษที่ฉายเมื่อต้นๆ ปี อย่างเรื่อง Kingsman: The Secret Service นั่นว่าตลกแล้ว อันนี้ก็จะตลกไปอีกแบบและพูดสั้นๆ ว่า “ตลกมาก” ด้วย โดยเฉพาะเมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ ซึ่งมาพร้อมกับความฮาอย่างถึงที่สุด บทหนังให้เกียรติแก่เธอ ด้วยการใส่มุกตลกที่หลักแหลมให้เธอเล่น อีกทั้งยังทำให้ภาพของผู้หญิงที่ “อยู่นอกสายตา” โดดเด่นขึ้นมาและกลายเป็นขวัญใจของคนดูผู้ชมได้ด้วยความฉลาดเฉลียวและมีน้ำจิตน้ำใจของเธอ ข้อเปรียบเทียบที่เราจะได้เห็นเด่นชัดระหว่างสายลับพวกผู้ชายที่มักจะบอกว่าตัวเองอุทิศชีวิตให้แก่ภารกิจหน้าที่เป็นเรื่องใหญ่แล้วก็คุยโวโอ้อวดกันเป็นวรรคเป็นเวร แต่สำหรับซูซาน เธอกลับสารภาพอย่างหมดใจว่าทุกอย่างที่ทำ นั้นเพราะมีความรักเป็นเครื่องนำทาง จี๊ดในใจกันไปตามๆ...
2558 กำลังจะเดินทางเข้าถึงครึ่งปี มีหนังที่ฉายในวงกว้างเรื่องสองเรื่องที่ผมกล้าแนะนำอย่างเต็มปากเต็มคำสำหรับการตีตั๋วเข้าไปชม หนึ่งนั้นคือ Fast 7 อีกหนึ่งนั้นคือ Mad Max และนาทีนี้ ก็มีเรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่งซึ่งไม่มีอะไรจะกล่าวมากไปกว่าคำว่า “สนุกมาก ตลกมาก ไปดูกันเถอะครับ!”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |