คุ้มค่าสมการรอคอยมาอย่างยาวนานทีเดียวสำหรับคอนเสิร์ต The Script Live In Bangkok 2015 ที่ระเบิดความมันส์กันไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ.อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี งานนี้สมใจแฟนคลับเมื่อมีการโผล่ทักทายแฟนๆแบบเซอร์ไพร์สทั่วฮอลล์ แถมเล่นโชว์แบบสุดมันส์สนุกตั้งแต่ต้นจนจบเลยก็ว่าได้
หลังจากที่ The Script วงทรีโอชื่อดังจากไอร์แลนด์ที่ประกอบด้วย แดนนี โอ โดโนฮิว (Danny O’Donoghue) นักร้องนำ, มาร์ค ชีฮาน (Mark Sheehan) มือกีตาร์ และเกลน พาวเวอร์ (Glen Power) มือกลอง พวกเขาได้กลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดวงหนึ่งในระดับโลก โดยทุกอัลบั้มของพวกเขาเปิดตัวเป็นอันดับ 1 บนชาร์ตอังกฤษ (UK Chart) และไอร์แลนด์ (Ireland Chart) และยังขึ้นชื่อว่าเป็นวงที่เล่นสดได้สนุกที่สุดวงหนึ่งด้วย
โดยความนิยมของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมีหลากหลายเพลงที่โด่งดังอย่างมากในเมิองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซิงเกิล Hall of Fame จากอัลบั้ม #3 ซึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะนำมาโชว์ให้ได้ฟังกัน ส่วนแสงสีเสียงแม้ไม่ได้มาแบบอลังการงานสร้าง แต่ก็ไม่น้อยหน้าวงอื่นๆที่แสงสีเสียงจัดมาโชว์เพิ่มอรรถรสและเพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้บทเพลงแต่ละเพลงได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นวงเล่นสดได้สนุกที่สุดวงหนึ่ง แดนนี และ มาร์ค ก็จัดร้องสดให้แบบเสียงไม่มีตกเลย
ในส่วนของการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็เริ่มงานตรงเวลาทีเดียว โดยพอถึงเวลา 21.00น. ไฟในฮอลล์ก็ดับลงทันที พร้อมกับการเคลียร์พื้นที่ด้านล่างเวที สร้างความแตกตื่นแก่บรรดาแฟนเพลงที่ซื้อบัตรยืนโซนด้านหลัง เพราะทันทีที่วีทีอาร์บนเวทีฉายภาพในห้องแต่งตัวและเดินออกจากหลังเวทีของ 3หนุ่ม The Script ก็ปรากฏว่ามีการตั้งขบวนธงที่ด้ามธงติดไฟแอลอีดีเรืองแสงสีเขียวโบกไปมาเรียงแถว โดยมี 3หนุ่มเดินอยู่ในขบวนธง ทักทายแฟนคลับออกมาจากประตูทางเข้าคอนเสิร์ตด้านหลัง จนกระทั่งถึงด้านหน้าเวที ก่อนที่บรรดาผู้ถือธงจะกระจายตัวไปรอบฮอลล์ ยืนโบกสะบัดธงทำให้ในฮอลล์เต็มไปด้วยแสงสีเขียวเพื่อเปิดตัวเพลง Paint The Town Green ก่อนเป็นเพลงแรก โดยแค่เพลงแรกแฟนๆทั้งฮอลล์ก็พร้อมใจกันกระโดดอย่างสนุกสนาน ก่อนจะตามมาด้วยเพลง Hail, Rain orSunshine และ Breakeven ที่ร้องกันดังลั่นสนั่นฮอลล์ ก่อนจะตามมาด้วยThe End Where I Begin และ Before The Worst
จากนั้นในฮอลล์กลับมากระหึ่มอีกครั้งจากการร่วมกันร้องเพลง Superheroes ผลงานฮิตติดหูจากอัลบั้มชุดที่ 4 อย่าง No Sound Without Silence ซึ่งเป็นเพลงที่ขึ้นติดอันดับหนึ่งในหลายๆชาร์ตเลยทีเดียว ก่อนจะได้ฟัง มาร์ค ซีฮาน มือกีตาร์มาร่วมแร๊ปโชว์กันต่อใน We Cry ส่วนอีกเพลงที่แฟนๆร้องกันได้อย่างพร้อมเพรียงคือ If You Could See Me Now ผลงานเพลงจากอัลบั้มชุดที่ 3 ของพวกเขา ก่อนจะพาซิงเกิลใหม่ Man On A Wire จากอัลยั้มล่าสุดมาร้องให้แฟนๆร้องตามกันกระหึ่มฮอลล์เช่นกัน
ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างของคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังอยู่ตรงเพลง Nothing ที่แดนนี นักร้องนำขอให้แฟนๆพากันกดโทรศัพท์หาแฟนเก่า ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ของแฟนเพลงสาวด้านหน้าที่กดโทรหาหนุ่มคนรักเก่าไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยงานนี้แดนนี ทักทาย ชนัย ก่อนจะบอกให้แฟนๆทั้งฮอลล์ส่งเสียงทักทายเขา พร้อมกล่าวกับชนัยว่า 'แฟนเก่าของคุณอยากให้คุณฟังเพลงนี้' แล้วก็จัดการร้องเพลงใส่หูโทรศัพท์
จากนั้นแดนนี ก็พาเพื่อนๆมาใส่ชุดมวยไทย เพื่อร่วมถ่ายรูปกับแฟนๆทั้งฮอลล์ก่อนจะเข้าสู่เพลง Good Old Days พอเพลงจบลงไฟในฮอลล์ก็มืดลงอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้ง 3 หนุ่มก็โผล่มาอยู่เวทีย่อยที่ตั้งอยู่ด้านหลังฮอลล์ เรียกได้ว่าคนที่ซื้อบัตรยืนโซนด้านหลังและผู้ชมบนสแตนด์ด้านหลังฟินกันไปตามๆกัน โดยมาในเพลงช้าๆกับลีลาการดีดเปียโนไม้ของแดนนี และการเกลากีตาร์อคูสติกของ มาร์ค กับเพลง Never Seen Anything "Quite Like You" จากนั้นไฟในฮอลล์ก็เปิดสว่างขึ้นทั้งฮอลล์ เพื่อให้แดนนีได้ทักทายกับแฟนๆของเขาทั้งในคอนเสิร์ตรวมถึงแฟนๆในโลกโซเชียล ก่อนจะตามมาด้วยเพลง Man Who Can't Be Moved ซึ่งเป็นอีกเพลงที่แฟนๆร้องกันลั่นฮอลล์โดยเริ่มต้นที่จังหวะอคูสติกช้าๆ ก่อนที่ช่วงท้ายมาร์คจะเปลี่ยนจากกีตาร์โปร่งเป็นกีตาร์ไฟฟ้าเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนจบเพลง
จากนั้นมาร์ค ยังทำหน้าที่โซโลอินโทรเพลง You Won't Feel a Thing แบบฉายเดี่ยวต่อไป ในขณะที่แดนนี และ เกลน วิ่งกลับไปขึ้นเวทีด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนไป เกลน ยังได้แจกไม้กลองให้กับแฟนๆโซนด้านหลังด้วย ส่วนด้านหน้าเวทีพอแดนนีเริ่มร้อง มาร์คก็อำลาสเตจด้านหลังวิ่งกลับไปเพื่อขึ้นเวทีด้านหน้าตามเพื่อนๆทันทีเช่นกัน พร้อมกับที่แดนนีโชว์เล่นกีตาร์ในเพลง Six Degrees of Seperation และ It's Not Right For You ก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์พร้อมโบกมือลาแฟนๆไป
แต่แฟนๆไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆหากไม่ได้ฟังเพลงฮิตอย่าง Hall of Fame จึงตะโกนร้องโอ่ โอ โอ้ว พร้อมปรบมือเข้าจังหวะอังกอร์ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอินโทรลเพลง You Won't Feel a Things ขึ้น บรรดาคนดูบนสแตนด์ชั้น 2 ต่างกรี๊ดกระหึ่มตามๆกัน เมื่อแดนนี ทำแฟนเซอร์วิสสุดฤทธิ์ด้วยการโผล่มาหาแฟนๆให้ได้ใกล้ชิดถึงที่ พร้อมกับกล้องวิดีโอในมือเพื่อถ่ายเซลฟีร่วมกับแฟนๆ งานนี้ทำเอาคนที่นั่งโซนชั้นสองนั่งกันไม่ติด ถือโอกาสโอบกอดแนบชิดกันถ้วนหน้า ฟินกันแบบสุดๆ ก่อนที่เขาจะกลับลงไปต่อบนเวทีด้านล่างกับเพลงFor The First Time และ No Good In Good Bye ซึ่งในเพลงหลังนี้แฟนๆยังได้ทำโปรเจ็คท์ชูกระดาษที่มีข้อความว่า Say Goodbye to Say Hi Again ด้วย
และสุดท้ายกับเพลงที่ไม่ร้องให้ฟังไม่ได้อย่าง Hall of Fame เพลงฮิตอันดับหนึ่งทั่วโลกกับยอดวิว YouTubeมากกว่าร้อยล้านวิวก็มาโชว์ปิดท้าย โดยแดนนีได้ขอให้แฟนๆในฮอลล์พร้อมใจกันเปิดแฟลชจากโทรศัพท์เปลี่ยนฮอลล์ให้เป็นคลื่นของดวงดาว ส่องแสงระยิบระยับสว่างจ้าไปทั้งฮอลล์ พร้อมกับที่หน้าเวทีกระดาษกลิตเตอร์ก็ถูกพ่นโปรยออกมาทั่วฮอลล์พร้อมกับการยิงพลุสายรุ้งสีทองปิดท้ายอย่างสวยงาม โดยพวกเขาได้กล่าวขอบคุณและกล่าวลาแฟนๆไปพร้อมกับภาพประทับใจที่ทำเอาหลายๆคนลืมไม่ลงกับคอนเสิร์ตสุดยอดแฟนเซอร์วิสของหนุ่มๆThe Script ครั้งนี้เลยทีเดียว
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
