“อี๊ด โปงลาง” ไม่ธรรมดา หายจากวงการไปเรียนต่อปริญญาโท ผันตัวทำธุรกิจทั้งขายครีมกันแดด น้ำมันสนเข็มแดงนำเข้าจากเกาหลี ข้าวแต๋นโปงลางลุยตลาดจีน แถมย่องกรีดตาสองชั้นที่เกาหลี รับซุ่มทำเพลงเกาหลีสังกัด “เรน” เตรียมปล่อยลงยูทิวบ์
ห่างหายจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่ สำหรับ “อี๊ด โปงลางสะออน” สมพงษ์ คุนาประถม หลังจากมีกระแสว่ามีปัญหากับต้นสังกัดเก่า และแยกทางเดินกับ “ลาล่า-ลูลู่” ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจในรายการคนดังนั่งเคลียร์ด้วยลุกส์ใหม่กรีดตาสองชั้น เผยแฮปปี้กับชีวิตที่ไร้สังกัด แม้งานน้อยลงแต่คุณภาพมากขึ้น ลั่นเตรียมทำงานเพลงภาษาเกาหลี ได้ค่ายเพลงสังกัด “เรน” ช่วยทำเพลงให้
“ตอนนี้ก็มีความสุขในแบบของธุรกิจดนตรี ตอนนี้เรามีโอกาสได้มาทำธุรกิจด้วย ช่วงที่หายไปผมไปเรียนต่อปริญญาโทจะจบแล้วอีกประมาณเดือนหนึ่งจะจบแล้ว ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี แล้วตอนนี้ก็ทำธุรกิจอยู่ 3-4 อย่าง ทำน้ำมันสนเข็มแดงนำเข้าจากประเทศเกาหลีแล้วก็ทำข้าวแต๋นโปงลางซึ่งจะเปิดตัววันที่ 20 พฤษภาคมที่เมืองทองธานีครับ แล้วก็ทำครีมกันแดดด้วยครับ เพิ่งทำได้สักพักผม รู้สึกมันเป็นงานที่ท้าทายและสนุกแล้วก็ได้เงินดีแต่ว่างานดนตรีงานเพลงของผม ผมก็ทำควบคู่กันไปด้วย ยังมีทัวร์คอนเสิร์ตแล้วก็ทัวร์ต่างประเทศกันอยู่ครับตอนนี้”
“เราก็ทัวร์เป็นวงโปงลางสะออนอยู่ครับ เราไปทัวร์ต่างประเทศ ที่เราไปๆมาๆ ในเรื่องของแนวดนตรีเราก็เน้นในเรื่องโชว์แล้วก็ดนตรีมากขึ้น ที่ผ่านมาเราไปโชว์ต่างประเทศเราจะใช้มุขตลกฮาๆ แต่ครั้งนี้ดนตรีเราจะโตขึ้นแล้วการแสดงเราจะเป็นแบบไทยๆ มากขึ้นอีสานมากขึ้นก็มีความสุขดี ไปทีไรก็เอาสินค้าเราไปด้วยครับ”
“ฟีดแบ็กที่เมืองนอกดีกว่าเดิมมากๆ ครับสมัยก่อนไปเราจะไปโชว์ให้คนไทยดูแต่ไปครั้งนี้แล้วที่จะไปอีกเราจะโชว์ให้ฝรั่งมากขึ้นเน้นแบบนี้มากขึ้นก็เลยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีครับ แต่ถ้าในเมืองไทยโชว์มันน้อยลงจริงๆ เพราะเมื่อก่อนเราอยู่บริษัท บริษัทก็จะมีเครือข่ายมีการตลาดมีคนขายงานให้เยอะพอเราไม่ได้อยู่อยู่บริษัทเราก็ยังค่อยๆ เดินอยู่ งานอาจจะไม่เยอะเท่ากับอยู่บริษัท จำนวนงานน้อยลงแต่เราก็เน้นคุณภาพมากขึ้น”
รับแฮปปี้กับชีวิตไร้สังกัด ได้พบปะนักธุรกิจ เผยรูปแบบการดูแลลูกน้องในวงโปงลางเปลี่ยนไป
“ตอนที่อยู่กับบริษัทมันก็ดีอยู่กับโปงลางที่เป็นวงมันก็ดีหมด คือมันก็ดีในแบบคนละอย่างแต่ตอนนี้เราก็ดีในอีกแบบเราเป็นนักธุรกิจไปด้วยได้เจอผู้คนมากขึ้นเราไปติดต่องานเอง ไปต่างประเทศเองไปคุยงานเองมันก็รู้สึกว่ามันเห็นมุมมองในเรื่องการทำงานมากขึ้นครับ ผมก็คุยเองหมด อย่างข้าวแต๋นผมก็ไปจีนเองนะ ผมไปเรียนต่อโทที่ไทยแต่ไปดูงานที่จีนก็พบปะกับนักธุรกิจจีนเราก็ได้รับออเดอร์ข้าวแต๋นเราก็รู้สึกว่ามันน่าจะไปได้ดี เรารับออเดอร์เข้ามาเราก็จะส่งต่างประเทศอย่างเดียวครับ”
“ถามว่ารายได้พอเลี้ยงดูลูกน้องไหม ตอนนี้รูปแบบในการปกครองลูกน้องเราเปลี่ยนไป แต่ก่อนเราจะให้เขามาอยู่กับเราให้เงินเดือนเขาเลยพองานมันน้อยเราก็ต้องรับผิดชอบเงินเดือนเขาหมด แต่ตอนนี้เราจะให้น้องๆ ที่มาอยู่กับเราเขาบริหารตัวเองเป็นเขามีไปรับงานอื่นของเขาได้หมดแต่พอเวลามีงานเราเขาก็มารับงานเป็นจ๊อบๆ ไป เราไม่อยากมาผูกมัดตัวเองทั้งน้องทั้งเราให้อยู่ด้วยกัน คือมันดีทั้งสองฝ่ายเดี๋ยวนี้เราก็เลยรู้สึกว่าเราทำงานเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก่อนอาจจะเป็นพี่ๆ น้องๆ แต่ครั้งนี้ทุกคนดูแลรับผิดชอบตัวเองก็เลยรู้สึกว่าเป็นมืออาชีพมากขึ้น ให้อิสระลูกน้องด้วย คือทุกคนมีหน้าที่ รับงานจากที่อื่นได้ด้วย เขาก็มีธุรกิจของเขาด้วยแต่เวลามีงานเราก็เรียกกันมารวมกัน เหมือนกับว่าเมื่อก่อนเราก็ดูน้องทุกอย่างเวลาไปงานทั้งเงินเดือนทั้งค่าอะไรทุกอย่าง แต่กลับมาครั้งนี้เราให้สิทธิ์ทุกคนได้ทำงานได้ออกความคิดเห็นตอนนี้เรื่องงานโชว์งานดนตรีเราช่วยกันออกความคิดก็เลยเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอนนี้เปิดรับงานไปทัวร์ต่างประเทศในประเทศก็เริ่มจะรับงานมากขึ้น”
ยันยังไม่เฟดตัวจากวงการ งานเพลงไม่ทิ้งแน่นอน แต่ขอมุ่งมั่นทำธุรกิจให้ได้ดีก่อน
“ที่ต้องมีธุรกิจขึ้นมาคือผมคิดว่าอย่างครีมกันแดดวันหนึ่งผมเปิดไปเห็นไอจีแล้วมีคนฝากร้าน ผมก็เลยถามแฟน แฟนก็บอกเขาขายครีมผมก็เลยศึกษาอยู่พักหนึ่งประมาณปีก็เลยได้ทำครีมกันแดดขึ้นมา ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินว่าจะได้อะไรเท่าไหร่ แต่พอผลตามมามันเลยเกิดเป็นธุรกิจขึ้นมา ตอนแรกไม่ได้คิดจะทำเป็นธุรกิจ เราทำแต่ดนตรีเราก็เกิดมาในเรื่องของดนตรีพอเป็นธุรกิจขึ้นมาผมก็เลยมองว่ามันเป็นลู่ทางเฉยๆ”
“ผมว่าธุรกิจรายได้เยอะกว่าเพราะว่ามันมีหลายตัวมันก็เลยกลายเป็นว่ามันทำให้เรามีความสุขด้วย ได้เห็นงานใหม่ๆ ว่าธุรกิจดี แต่ถ้าเรื่องของงานโชว์งานบันเทิงเข้ามามันเป็นความสุขคนละอย่างกัน ก็ยังไม่เฟดตัวครับ ถ้าทำธุรกิจได้ดีงานเพลงเราก็ไม่ทิ้งอยู่แล้วครับเพราะตอนนี้เราก็ซ้อมอยู่ทุกวันก็ไปงานกันอยู่เรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่เรารักเรื่องเสริมก็คือเรื่องของธุรกิจอยู่แล้วครับ”
“เรื่องงานกับอาร์เอสผมคาดงานไม่ได้ครับ ถ้างานเราดีมันเหมาะกับนโยบายบริษัท ถ้าเขาจะดูแลมันก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้เราก็ซ้อมในสิ่งที่เราอยากให้ผลงานเราดีก่อน เหมือนช่วงแรกๆ ที่เข้า RS เราก็สร้างผลงานให้ดี อาร์เอสเล็งเห็นก็เลยนำมาทำงานต่อผมก็มีความรู้สึกว่าผมจะต้องเริ่มเดินให้มันมีงานเข้ามาก่อน ทำให้ตัวเองมีผลงานก่อนต้องมีคนมาติดต่อเราอยู่แล้วครับ ก็มาคุยอยู่นะครับ พี่เณรก็ให้การบ้านมาทำ มันก็เป็นสิ่งดีเราก็ทำการบ้านไปแต่ไม่แน่ว่าอนาคตยังไง เขาก็ให้งานทำเป็นโปรเจ็กต์ในแบบอีสาน เราก็ทำการบ้านกับน้องๆ แล้วเราก็ใช้โปรเจ็กต์นี้ในการทัวร์คอนเสิร์ต”
ยันไร้ปัญหา “ลาล่า-ลูลู่” ถ้ามีงานดีๆ ตรงกันยังร่วมงานกันได้เหมือนเดิม
“ผมกับน้องนี่ไม่มีอะไรกันครับไม่มีปัญหา คือถ้ามีโปรเจ็กต์งานดีๆ ที่มันตรงกันอยากให้น้องมาร่วมงานหรือเจ้าภาพจ้างอยากให้ไปด้วยกันมันก็ไปได้หมดครับ เราก็โทร.หาน้องอยู่ไม่ได้ทะเลาะกันแค่มันเปลี่ยนสถานะที่แต่ก่อนน้องอยู่กับเรา เราอยู่กับบริษัทในการปกครองมันเปลี่ยนสถานะไปแต่ตอนนี้น้องก็มีผู้ปกครองเป็นบริษัท”
“ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร (พูดอีสาน) โทร.หากันอยู่ครับ ผมก็โทร.หาน้องเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้วมั้ง ก็ดูในทีวีนะครับ ก็ดูผลงานเขา แต่น้อยใจทำไมเขาไปอ่านข่าวมันไม่เข้ากับมัน มันพูดไม่ชัด (หัวเราะ) พูดเล่นเฉยๆ ครับ”
รับย่องกรีดตาสองชั้นที่เกาหลี ไม่ธรรมดาทำเพลงเกาหลีค่ายเพลงเดียวกับ “เรน”
“คือหมอดูให้ผมไปทำแล้วผมรู้สึกว่าผมตาปรือเวลาผมสัมภาษณ์ ไปทำที่โรงพยาบาลที่เกาหลีครับ ผมไปทำเกาหลีเพราะผมเดินทางไปเรื่องธุรกิจนี่แหละ ประกอบกับบริษัทที่ทำสนเข็มแดงนำเข้า เขาแนะนำให้ผมไปทำแล้วผมไปทำเพลงที่เกาหลีด้วยแต่เดี๋ยวค่อยเปิดเผยให้ฟังเพลงเสร็จแล้วเป็นเพลงเกาหลีด้วย คืออยากทำผมอยากรู้ว่าทำไมธุรกิจเกาหลีเพลงบันเทิงเขามันก้าวหน้าจังเลยผมก็ใช้โอกาสที่ผมไปนำเข้าสมุนไพรจากเกาหลีให้ติดต่อบริษัทเพลงให้ผมหน่อยเขาก็ติดต่อให้บริษัทเดียวกันที่ทำเพลงให้กับเรนผมไปอยู่ที่นั่นกับนักดนตรีเป็นเดือนประมาณ 3-4 เดือน ส่วนตาเพิ่งกลับไปทำใหม่ ไม่ได้เสริมโหงวเฮ้งนะครับ”
“ตอนนี้ยังไม่หายเลยครับแต่ก็เป็นงบของบริษัทที่เขาทำให้เพราะเรานำเข้าสินค้าจากเขา อย่างอื่นคงไม่หรอกครับ หน้าเราไม่ใช่อย่างนั้นแต่ว่าแค่ตาสองชั้นแค่ดูให้มีชั้นขึ้นมาหน่อยเป็นทัศนคติจากเพื่อนที่อยู่เกาหลีให้ทำ ตอนนี้ร้องเพลงภาษาเกาหลีได้แต่ยังพูดเกาหลีไม่ได้ ส่วนเรื่องเพลงไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ผมแค่อยากทำอยากร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เกาหลี”
“ชื่อเพลงเซ็กซี่บอย ความหมายก็คือเข้าไปเที่ยวในผับเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากให้คุณหันมาดูผมบ้างผมเป็นเซ็กซี่บอยคนเดียวในผับ ก็เข้าห้องอัดที่โน่นเลยครับ โปรดิวเซอร์ที่เกาหลีไปอยู่ห้องอัดที่เกาหลีเลยไปทำทุกอย่างที่เกาหลีหมดเลย เขาทำเพลงไม่เหมือนบ้านเรานะ ผมก็นั่งเรียนภาษาเกาหลีหลายวันกว่าจะได้ อัดทีละท่อนเพลงดนตรีก็คุยกันทางเมล์ ผมทำเสร็จแล้ว แต่ผมไม่รู้จะเอาไปออกทางไหน กลัวคนไทยจะฟังไม่รู้เรื่องตอนแรกอยากทำเอ็มวียกขบวนนางรำของโปงลางไปถ่ายที่โน่นแต่ตอนนี้เริ่มจะไม่มีเงินแล้วครับ (หัวเราะ)”
ลั่นทำเพลงเกาหลีเน้นสนุก มิวสิกไม่เลิศหรู เตรียมปล่อยลงยูทิวบ์
“คือเดินทางไปหาของไปต่างประเทศที่เราไป ไปจีนเราก็ไปไปศึกษาในเรื่องของเพลงแล้วก็เอามาปรับปรุงใช้กับงานของเรา ฟีดแบ็กโปรดิวเซอร์เกาหลีเขาก็คงจะว่าผมร้องสำเนียงมันไม่ได้เหมือนเกาหลีหรอกแต่เขาก็เห็นความพยายามเขาก็ชอบ กำลังทำดาวน์โหลดลงยูทิวบ์ ทำกันเองสนุกๆ แต่มิวสิกวิดีโออาจไม่เลิศหรูอลังการแบบที่คิดเอาไว้ เราซื้อลิขสิทธิ์ของเราเองเราจ้างเขาทำแต่ที่โน่นเขาดีอย่างเขาจะให้ลิขสิทธิ์ของเราร้องคนเดียวถ้าเอาไปทำอย่างอื่นเอาไปเผยแพร่ทำธุรกิจอีกเราก็ต้องจ่ายเขาเพิ่มอีก”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
