xs
xsm
sm
md
lg

เลิฟไม่ฟิน จิ้นไม่ออก “มาโกโตะ” ทวงค่าตัวข้ามประเทศ หนังเจ๊ง นายทุนหนี ดารา-ผู้กำกับ โดนทั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรียกว่าทั้งจิ้น ทั้งฟินกันไม่ออกจริงๆ แทบจะกลายเป็นความบาดหมางระหว่างประเทศเลยก็ว่าได้ เมื่อจู่ๆ "มาโกโตะ โคชินากะ" (Makoto Koshinaka) นักร้องนำวงลูซิเฟอร์ (Aucifer)) ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ @MAKOTOKOSHINAKA เพื่อทวงถามถึงค่าตัวที่เคยมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง "เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย" (Fin Sugoi) ซึ่งเข้าฉายเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2557 ความว่า

"ถึงคนไทยทุกคนครับ ขออนุญาตโพสต์ข้อความอย่างเป็นทางการต้นสังกัดของผมนะครับ"

พร้อมกันนั้น ก็มีการแนบข้อความระบุว่า

"กรุณาจ่ายเงินค่าตัวในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “Fin Sugoi” ตามสัญญาด้วยครับ"

และแน่นอนว่าเมื่อข้อความดังกล่าวถูกขยายความต่อในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างใหญ่โตและคนที่หนีไม่พ้นที่จะต้องโดนหางเลขในกรณีนี้ ก็คือ “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ในฐานะที่เป็นผู้กำกับ ที่ตกเป็นจำเลย โดนกล่าวหาว่าโกงค่าตัวนักแสดงในเรื่องนี้

แต่ไปๆ มาๆ ไม่เพียงแต่มาโกโตะเท่านั้น แต่นักแสดงร่วมคนอื่นๆ ทั้งเต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ , สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข , ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา , บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ แม้กระทั่งคนทำเพลงประกอบภาพยนตร์ต่างก็ไม่ได้รับค่าตัว หรือได้ค่าตัวจากหนังเรื่องนี้ไม่ครบเช่นเดียวกัน

ก่อนที่ในเวลาต่อมากอล์ฟจะมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

“ดิฉันไม่ได้โกงใคร ดิฉันเป็นผู้เสียหายค่ะ"

เมื่อสืบสาวราวเรื่องไปมา ก็ปรากฏข้อมูลว่า กระทั่งกอล์ฟเอง ก็ยังได้รับค่าตัวในฐานะผู้กำกับไม่ครบเหมือนกัน ยังขาดอยู่ราวๆ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าตัวในฐานะผู้กำกับ รวมถึงค่าตัวทีมงาน ค่ากล้อง ค่าไฟ เพราะบริษัทของกอล์ฟเข้ามาในฐานะรับจ้างผลิต

ทั้งที่เมื่อคราวมีข่าวโครงการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายคนมองว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ เพราะเล่นข่าวว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท ฟินโปรเจกต์ จำกัด (ประเทศไทย) และบริษัท เคโปรเจ็คท์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ที่เป็นต้นสังกัดปัจจุบันของ
มาโกโตะ แถมรายชื่อนักแสดงที่ไล่เรียงมา ก็ทำให้หน้าหนังเรื่องนี้แลดูน่าสนใจ ซึ่งรายนามนักแสดง และการร่วมมือกันข้ามประเทศนี่เอง ที่ทำให้กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน มองเห็นถึงอนาคตความสำเร็จของหนัง จึงตกปากรับงานในฐานะผู้กำกับ

ถ้ายังไม่พูดถึงความสำเร็จในเรื่องรายได้ หรือเสียงชื่นชม แต่ตัดทอนเฉพาะในเรื่องการฟอร์มทีมงาน และนักแสดง ก็ถือว่าฟินโปรเจกต์ แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการภาพยนตร์ แต่คอนเน็คชันก็เรียกว่าไม่ธรรมดา ถึงขนาดดึงตัวมาโกโตะมาลงจอได้ และแน่นอนว่านายทุนอย่างฟินโปรเจกต์ก็ต้องมองโลกสวย ว่าทุกอย่างจะราบรื่นสวยงามเหมือนที่วาดหวังไว้

แต่เอาเข้าจริงๆ มาโกโตะก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเนื้อหาของหนังโดนวิพากษ์วิจารณ์จนยับ ว่าไม่โดนใจคนดู กระทั่งในระหว่างหนังเข้าโปรแกรม ยังถึงขนาดต้องให้นักแสดงไปชูป้ายอ้อนวอนให้คนมาดูหนัง แต่กระนั้นรายได้ ก็ถือว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า จากการเปิดเผยของผู้กำกับ บอกว่าลงทุนไปร่วม 10 ล้าน แต่ได้รายได้กลับมาแค่ 5 ล้านเศษ ซึ่งในจำนวน 5 ล้านเศษนี้ ยังจะต้องมาแบ่งสันปันส่วนกับโรงภาพยนตร์อีก เหลือเข้ากระเป๋านายทุนจริงๆ ไม่เท่าไหร่ พูดง่ายๆ ว่าขาดทุนป่นนี้ จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าตัวบรรดานักแสดง และผู้กำกับได้ ซ้ำร้ายในบรรดานายทุนด้วยกันเอง ยังมีปัญหาการโกงกันภายในอีกด้วย

หลังจากที่เป็นข่าวคราวครึกโครม กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน และบี๋-สวิช ในฐานะผู้เสียหาย ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 2 โดยบี๋บอกว่าค่าตัวที่ตกลงกันไว้ที่ 250,000 บาทนั้น ยังไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว เคยได้รับเช็คมาแล้ว แต่พอนำไปขึ้นเงิน กลับกลายเป็นเช็คเด้งถึง 3 ครั้ง 3 ครา

“เรามาทราบเรื่องทีหลังว่ามันมีการผิดข้อกำหนดสัญญากัน ทะเลาะกันเองภายในหุ้นส่วน ทีแรกผมก็นึกว่าผมโดน
คนเดียว แต่มาทราบจากทางคุณกอล์ฟเองในวันปิดกล้อง ได้คุยกัน แล้วก็จากหุ้นส่วนแล้วก็นักแสดงอีกหลายท่านก็โดนหุ้นส่วนคนที่ 1 โกงไป หนีไป แล้วก็โยนความผิดมาให้หุ้นส่วนคนที่ 2 หลังจากนั้นหุ้นส่วนคนที่ 2 ก็พยายามดำเนินให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ฉาย แล้วก็ได้มาขออนุญาตกับพวกเรานักแสดงทั้งหมดว่านำฉายนะ แล้วก็ทำสัญญากับพวกเราส่วนหนึ่งว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่พวกเรา ค่าแสดงทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย 7% ตามกฎหมาย ก็มีรายชื่อต่าง ๆ มาให้เราเรียบร้อย แต่หนังจะเข้าฉายวันที่ 25 กันยายน 2557 เงินจะจ่ายทั้งหมดกุมภาพันธ์ ปี 2558 พอถึงตรงนี้เราก็โอเค”

แต่พอถึงกำหนดก็ไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ โดยทางหุ้นส่วนคนที่ 2 อ้างว่าหนังขาดทุน ส่วนเรื่องฟ้องร้องนั้น บี๋บอกว่าอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ แต่ก็ยังหวังว่าจะได้รับเงินในส่วนที่ควรจะได้จนครบ

“ตรงนี้เป็นหน้าที่ของกระบวนการที่เราต้องดำเนินคดีกับเขาอยู่แล้ว เราขอทวงความเป็นธรรมกลับมาเถอะ เพราะว่าคุณมาทำอย่างนี้เราเดือดร้อน วงการบันเทิงไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะมาทำมาหากิน มาโกง มาหลอกลวง หลอกให้ทุกคนมาทำงานให้คุณฟรี แล้วคุณก็หนีไปโดยที่ไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

ถามว่าคาดหวังไหม ตราบใดที่มีลมหายใจเราก็คาดหวัง เราทำอะไรแล้วแต่ แต่หวังว่างานที่เราได้ทำไปทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็คงจะได้ก็คิดว่าอยากจะให้คู่กรณีมาเคลียร์เงินซะ ว่าเป็นยังไง ความเดือดร้อน มันเดือดร้อนกันจริง ๆ ถ้าเราทำงานเราไปเปิดร้านอาหารแล้วเราเจ๊งด้วยตัวเราเอง เรายินดีที่จะรับผิดตรงนั้นด้วยตัวเราเอง แต่ถ้าเราโดนเบี้ยว โดนโกง โดนปัดความรับผิดชอบ มันเหมือนเราโดนปล้น”

งามไส้จริงๆ ประเด็นของเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องหนังขาดทุนแล้วเชิดค่าตัวนักแสดง แต่ยังส่งผลให้ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเสียหายต่อสายตาของคนทั่วโลก หลังจากนี้นักแสดงต่างประเทศคนไหนจะหาญกล้ามาร่วมงานในบ้านเราอีก งานนี้ชื่อเสียงของประเทศยับเยินจนไม่เหลือชิ้นดี
แค่ปลาเน่าตัวเดียว ทำให้เหม็นไปทั้งข้อง !!

ล้อมกรอบ
เรื่องย่อ”เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย”

เพราะความอยาก ‘ฟิน’ ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อใดโอกาสมาถึง เป็นต้องขอ ‘ฟิน’ ดูสักที!......

ใครจะไปคิดว่าติ่งตัวแม่อย่าง หนูนา (สายป่าน-อภิญญา) ที่มีความฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้ฟินกับหนุ่มเจ-ร็อกนามกระเดื่อง มาโกโตะ (มาโกโตะ โคชินากะ) นักร้องนำแห่งวง TRICK จะได้ฟินสุโค่ยสมใจอยาก แต่กว่าที่ฝันจะเป็นจริงก็ไม่เรื่องง่าย เมื่อเสือโคร่ง (เต๋า-เศรษฐพงศ์) แฟนหนุ่มนักกีฬายูโดออกอาการหึงหวงหนูนาที่ติ่งจนลืมแฟน จนอยากจะจับมาโกโตะทุ่มให้ฟินสักที มีเพียงน้องชายสุดเนิร์ดอย่างสิงห์น้อย (ภีม-ภาคิน) ที่คอยดูแลปลอบใจเสือโคร่งอยู่ไม่ห่าง ทางด้านหนูนาเองลึกๆ ก็รู้สึกผิดที่ตัวเองติ่งจนเกินขอบเขต แต่ทำยังไงได้เมื่อความฝันที่จะฟินกับมาโกโตะนั้นแรงกล้ากว่าสิ่งใด

เมื่อมาโกโตะและวง TRICK มาแถลงข่าวเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เพื่อมาตามหานางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ หนูนาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ฟินกับมาโกโตะ โดยมีหมูแฮม (ติ๊นา-ศุภนาฏ) และ ไก่โต้ง (กาย-นวพล) สองเพื่อนซี้คอยช่วยเหลือจนฝันของหนูนาเป็นจริงในที่สุด หารู้ไม่ว่าที่หมูแฮมทำไปก็เพราะแอบชอบหนูนา จึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้เธอได้ฟินอย่างมีความสุข ตรงข้ามกับเสือโคร่งที่ไม่เข้าใจหนูนาเลยสักนิด ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่หนูนาได้ฟินกับมาโกโตะสมใจอยากแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ เธอจะหมกมุ่นกับความฝันจนลืมความเป็นจริงไปหรือเปล่า หมูแฮมจะจัดการความรู้สึกตัวเองได้หรือไม่ เสือโคร่งจะเข้าใจหนูนาไหม และใครกันแน่คือตัวจริงที่ทำให้หนูนาได้ฟินสุโค่ย!

ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 286 25 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2558

















กำลังโหลดความคิดเห็น