“บุ๋ม ปนัดดา” ร้องกองปราบปราม ลั่นเอาผิด “กะเทยโซดา” ให้ถึงที่สุด ใครเกี่ยวข้องต้องโดนดีด้วย เจ็บจี๊ดหลังฮันนีมูนเจอหมายศาลส่งถึงบ้าน ฟ้องกลับทั้งคดีแพ่งและอาญา จวกผิดแล้วไม่สำนึกต้องจัดการให้หนัก
หลังจากกรณีที่ออกมาเป็นแกนนำแฉสาวประเภทสอง “กะเทยโซดา” ที่ใช้ชื่อ “พิชญาพร ตันเจริญ” แอบอ้างเป็นประธานโครงการเรามีเราของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ หลอกคนสมทบทุนทำบุญกว่าหลายล้านบาท อีกทั้งยังอ้างชื่อ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เป็นที่ปรึกษาอาวุโส โดยภายหลังบุ๋มและคนในวงการจับมือกันเปิดโปงความจริง อีกฝ่ายได้ดำเนินการฟ้องบุ๋มและพวก เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท กระทั่งล่าสุดช่วงบ่ายของวันนี้ (11 มีนาคม 2558) บุ๋มได้นำทีมผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวพร้อมหลักฐานเข้าร้องกองปราบปราม ลั่นขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ใครที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายจะต้องโดนดีด้วย
“หนักใจมากกว่าค่ะ จริงๆ แล้วอย่างที่บอกที่ช่วยสังคมไม่ได้ต้องการมีเรื่อง ยืนยันเลย แต่เหมือนจะมีเรื่องตลอด แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าเขาไม่หยุดพฤติกรรมไม่สำนึกผิด จริงๆ แล้วสังคมเราต้องการการให้อภัยคนที่ทำผิด แต่เมื่อไม่สำนึกผิดมาระรานแจ้งความคนนั้น โทร.ไปขู่คนนี้แล้วมีการฟ้องสื่อด้วยเนี่ยมันไม่ถูกต้อง ก็เลยออกมาขอความช่วยเหลือว่าคดีเล็กๆ น้อยๆ ที่แต่ละคนไปฟ้องแต่ละพื้นที่เนี่ยมันต้องถามกฎหมายเราก็คิดว่าเออนะเป็นคดีเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอสามารถชำระหนี้ได้ แต่ผลปรากฏว่าไม่หยุดแล้วแถมมีการฟ้องพวกเรา 6 คน 10 ล้านบาท”
“เขาฟ้อง 6 คนแต่พอดีเราโดนชื่อหัวคนเดียว มันก็เลยทำให้เราเอะใจว่าเธอเอาเงินมาจากไหนสองแสน เพราะเธอออกสื่อรายการแจ็คการีน 2 รอบ ซึ่งจริงๆ แล้วบุ๋มเองอยากขอวิงวอนสื่อว่าการให้เขาออกสื่อก็ตาม คุณต้องรับผิดชอบต่อข้อมูลนั้นไม่ใช่ว่าจะถือว่าเป็นพิธีกรเป็นรายการทีวีแล้วจะสัมภาษณ์ใครแล้วจะไม่มีส่วนรับผิดชอบคุณต้องรับผิดชอบข้อมูลที่ออกสู่ประชาชนด้วย เมื่อคุณเชื่อว่าเขาพูดจริงคุณรับผิดชอบตรงนั้นได้ไหม ไม่ใช่ว่าพรรคพวกกันรู้จักกันแล้วคุณให้เขามานั่งพูดด่าชาวบ้าน แล้วอย่างนี้เหรอคือความถูกต้อง อันนี้ขอถามนะคะว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือเปล่าเพราะหลอกลวงคนได้เยอะขนาดนี้คนเดียวไม่น่าจะทำได้ ต้องมีคนช่วย ล่าสุดก็ลากน้องนักข่าวคนหนึ่งมานั่งคุยเพราะเธอเป็นคนส่งข่าวดากานดาบ่อยมาก เกี่ยวข้องไหมแค่ไหน ณ ตอนนี้เมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้วขออนุญาตสื่อมวลชนที่เป็นพวกดากานดา บางท่าน บุ๋มขอส่งชื่อให้ตำรวจค่ะ บุ๋มหยุดไม่ได้แล้วค่ะ เพราะคุณทำงานให้เขา คุณรับเงินเขา แล้วเงินนั้นมาจากเงินบริจาคประชาชน มันคือฉ้อโกงประชาชนค่ะ คดีฉ้อโกงประชาชนคุกอย่างเดียวค่ะ”
เผยเจ็บจี๊ด หลังกลับจากฮันนีมูนเจอหมายศาล เชื่ออีกฝ่ายทำเป็นขบวนการ
“มาขนาดนี้แล้วนะจากปลายปี ธันวาคมที่ผ่านมาอุตส่าห์มีงานดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตทั้งงานแต่งงานรับปริญญายังมาทำเราอย่างนี้มาเจอหมายศาล ฮันนีมูนเสร็จมาเจอหมายศาล มันจี๊ดมาก (หัวเราะ) เพิ่งได้รับหลังจากฮันนีมูน แล้วศาลบอกว่ามาบ้านไม่เจอ จะเจอได้ยังไงอยู่สวิตเซอร์แลนด์ค่ะ”
“บุ๋มมีหลักฐานที่เธอมีการประชาสัมพันธ์เบอร์บัญชีอย่างไร แต่เบอร์บัญชีอื่นที่ให้สำหรับสปอนเซอร์โอนเงินให้อย่างไร เทปรายการที่เธอไปออกขอบคุณนะคะที่ไปออกรายการแล้วเป็นเทปมัดตัวเธอว่าที่แอบอ้างว่าหนูมีบัญชีเดียว มี 4 บัญชีค่ะ ไม่อยากจะพูด มี 4 บัญชีรวมถึงเสียงแอบอ้างเบื้องสูง ถึงบอกว่านี่คือขบวนการจริงๆเดี๋ยวเปิดดูได้ วันนี้ฟ้องเพียบค่ะ หลายคดี”
“ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ล่าสุดเธอแอบไปหา พิชญาพร ตันเจริญ เธอไปพูดจนนางมึน ไปเคลียร์กันเองที่โรงพัก แค่อยากจะบอกว่าขอโทษนะคะ คดีเอาบัตรประชาชนปลอมมาใช้เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนรูปได้ขนาดนั้นยอมความไม่ได้ค่ะ คุณจะไปตกลงต่อรองอะไรในการที่คุณจะเอาบัตรชาชนใครสักคนหนึ่งไปใช้ในการประกวดกะเทยอันนั้นเป็นเรื่องอดีตดิฉันไม่ยุ่งค่ะ คุณจะแปลงเพศมากี่รอบดิฉันไม่ยุ่ง แต่ไม่ใช่เอาชื่อมาใช้กับสถาบันมะเร็งนี่คือหลอกลวงประชาชน พยายามสร้างตัวละครขึ้นมาหลายๆ ตัว เห็นชื่อลิสต์ที่ให้แล้วใช่ไหม ลดา ดากานดา ญารินดา ลีลาวดี จะไม่จำแล้วแต่เท่าที่รู้คือถ้ามาเอาเงินหลอกลวงประชาชนแบบนี้ก็ต้องเจอกัน แต่จะบอกว่าการสู้เรื่องทางสังคมการสู้เพื่อประชาชนมันเหนื่อยนะ เจออะไรอย่างนี้บุ๋มก็เหนื่อยใจ ช่วยส่งงานให้ด้วยนะ ไม่รู้จะโดนยังไงบ้างแต่ก็สู้ และก็เชื่อว่าศาลคงจะไม่ยอมรับเพราะว่าหลักฐานของเขาอ่อนเกิน อันนี้ให้ทนายให้อัยการเช็กหมดแล้ว เดี๋ยวจะมีการจัดการกับอัยการว่ารับเรื่องนี้ได้ยังไง”
ลั่นขออาสาลากอีกฝ่ายเข้าคุก ถ้าไม่หยุดจะเป็นฝ่ายหยุดเอง ไม่ปล่อยคนชั่วให้ลอยนวลแน่นอน
“ตอนแรกศาลยอมรับอาจจะอยากแกล้งเพื่อสองแสนมั้ง เบื้องหลังมีบุคคลบันเทิงแล้วก็มีคลิปเสียงค่ะ แต่ตอนนี้ขอมอบให้ทางตำรวจแล้ว คุณผิดใจกับพี่นุ้กเค้าแต่คุณมาทำหนูทำไม หนูไม่เคยทำอะไรคุณเลย นี่คือสิ่งที่เจ็บ เราโดนใช้เป็นเครื่องมือคุณสนุกคุณมีตังค์คุณทำได้ แต่คุณมาทำร้ายกันอย่างนี้ บุ๋มก็จะดึงคุณให้เข้าคุกให้ได้ ถามว่าเคยคุยไหม เคยคุยกันซะที่ไหน คุยกันหน้าฉากนี้น้องบุ๋ม ชวนมาทำงาน”
“หลังจากวันนี้ขอความเป็นธรรมค่ะ สู้มาขนาดนี้แล้วเนี่ยปกป้องสถาบันมะเร็งแอ่นอกรับแทนให้ทุกอย่าง ทางกองปราบช่วยดูแลพวกเราด้วย มันไม่ใช่บุ๋มคนเดียวแล้วตอนนี้คือเนื่องจากข้อหามันยิบย่อยช่วยรวบที่เดียวแล้วเอาเข้าคุกทีได้ไหม ตอนนี้ยังมีการโทร.ไปขู่น้องคนนั้นแจ้งความสื่อคนนี้มันคืออะไร มันคือไม่เลิกใช่ไหม ถ้าจะอย่างนี้ควรจะหยุดค่ะ”
“ตอนนี้คนในวงการไม่มีใครเป็นเหยื่อเขาแล้วค่ะ หลังจากที่แถลงข่าวทุกอย่าง แต่ด้วยนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ก็จะเงียบๆ ไปจะได้ไม่มีเรื่อง แต่คนประเภทนี้บางทียอมไม่ได้นะคะเขาไม่หยุด แต่คนบางคนเขาหยุดแล้วสำนึกผิดอันนี้ให้อภัยได้แต่นี่ไม่ใช่ไงมาทำอย่างนี้ ตอนนี้มีคนมาหาเราเยอะมากค่ะ เดี๋ยวจะมาแจ้งความกับตำรวจด้วย เย็นนี้จะมาเพิ่มอีกหลายคน พยานหลักฐานพยานบุคคลเราแน่นค่ะ พยานบุคคลยิ่งแน่นเลยมีทั้งชื่อเบอร์โทร.เวลานัดให้ตำรวจอีกต่างหากไม่ต่ำกว่า 20 คนค่ะ นี่คือหลอกลวงประชาชนขั้นยิ่งใหญ่ยังไม่รวมคนที่เคยโอนเงินบริจาคนะ ดังนั้นขอประกาศ ใครที่เคยโอนเงินเข้าโครงการเรามีเรา จะบาทเดียวก็ตามสามารถมาบอกได้มาแจ้งความได้นะคะ ว่าเคยโดนหลอกไปแล้ว อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลค่ะ”
ยันเดินหน้าลุยเต็มที่ ฟ้องกลับทั้งคดีอาญาและแพ่ง
“ความเสียหาย 10 ล้านแล้วเนี่ย อันนี้เริ่มต้นไม่อยากจะคิดเรื่องอื่นแล้ว แต่ค่าเสียหายคือชื่อเสียงมากกว่าค่ะเพราะการทำงานเพื่อการกุศลไม่ใช่มาโดนหลอกลวงอย่างนี้ อันนี้คือความเสียหายทางความรู้สึกมากกว่า แล้วก็ความรู้สึกของสื่อมวลชนด้วยเพราะว่า เฮ้ย…สื่อมวลชนเดี๋ยวเราต้องมานั่งคุยกันนะ การทำข่าวบางทีคุณต้องพิจารณาข้อความที่ออกให้ประชาชน ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามขอความจริง ความเป็นธรรมและความถูกต้องอยู่ในสังคมบ้างเถอะ อย่าเอาแต่เงิน”
“บุ๋มเชื่อว่าวันนี้เขาดูอยู่แน่นอน อยากจะบอกว่ามอบตัวนะคะ แล้วก็อันนี้คุณคิดดีๆ ว่าคุณจะเอาจริงๆ เปล่าเพราะอันนี้บุ๋มฟ้องอาญาคุณกลับ ถ้าคุณถอนหรืออะไรก็ตามหรือจะล้มคดีบุ๋มยังให้อภัย อุ้ย…นี่ฉันใจดีไปไหม (หัวเราะ) บุ๋มฟ้องอาญาค่ะ แต่เขามาฟ้องแบบนี้ก็เลยต้องล่อแพ่งด้วย ทั้งแพ่งทั้งอาญา คือมันหยุดไม่ได้แล้วค่ะ มาทำกับเราแบบนี้ก็ต้องเจอกัน ยังไงก็ขอให้ประชาชนคนที่เคยบริจาคยังไงช่วยมาบอกกันด้วยแล้วกันว่ามีใครบ้าง”
เผยฮันนีมูนชาร์จแบตเต็มที่ ไม่คิดว่าจะกลับมาเจอหมายศาล
“อย่าเรียกว่าทริปฮันนีมูนเลยค่ะ เรียกว่าทริปผจญภัยดีกว่าตื่นตีห้าไปเล่นสโนบอร์ด สกี พาราไกลดิ่ง ไม่ได้แบบชิลๆเดินจูงมือสองคนน้อยมาก บุ๋มน้อยคงไม่มี มีแต่ตาบ้านั่น (หัวเราะ) สนุกแหกปากอยู่กลางหน้าผา กลัวความสูง ก็ไม่คิดว่ากลับมาจะเจอหมายศาลอย่างนี้นะ เพียงแต่ว่าก็ดีค่ะได้ไปพักผ่อนได้ไปเจอะเจอประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วก็ตอนนี้เดี๋ยวคงได้ไปทำงานที่สวิตเซอร์แลนด์เพิ่มเติม เพราะเขาเหมือนจะให้เป็นทูตท่องเที่ยว เราก็ช่วยสังคมต่อไปค่ะ องค์กรทำดีจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ 7 เมษายนนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ยังไงเรียนเชิญทุกคนด้วย”