คอนเสิร์ตหล่อมากมาก กับสัญญาณบอกเหตุ เขตปลอด “เอ-ศุภชัย” และ อาร์เอส

..... หล่อมากมาก.....
สมชื่อคอนเสิร์ต และสมใจบรรดาติ่งพลพรรคคนรัก 12 พระเอก-นักร้อง ไล่มาตั้งแต่
บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
หมาก-ปริญ สุภารัตน์
เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข
เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์
อาเล็ก-ธีระเดช เมธาวรายุทธ
สน-ยุกต์ ส่งไพศาล
เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
ฮั่น เดอะ สตาร์ -อิสริยะ ภัทรมานพ
แกงส้ม เดอะ สตาร์ - ธนทัต ชัยอรรถ
กั้ง เดอะ สตาร์ - วรกร ศิริสรณ์
ต่อ ฮอร์โมน - ธนภพ ลีรัตนขจร
และหล่อรุ่นใหญ่ อย่าง ปีเตอร์-คอร์ป ไดเรนดัล

ที่มารวมกันเฉพาะกิจบนเวที “คอนเสิร์ตหล่อมากมาก” ซึ่งเพิ่งเปิดการแสดงไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ท่ามกลางเหล่าสาวกทั้งแฟนคลับช่อง 3 , แฟนคลับเดอะ สตาร์ ,แฟนคลับฮอร์โมน , แฟนภาพยนตร์ มากันเพียบ

งานนี้แม้จะดูเหมือนจะมีการแบ่งฝั่งระหว่างหล่อมากมาก ที่เป็นนักร้องมืออาชีพ กับหล่อมากมาก ที่มีดีกรีเป็นพระเอก แต่เรื่องการร้อง การเต้น เรียกว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะมาในแบบหมู่มวล ในเพลง “เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ” หรือโชว์พิเศษของแต่ละหนุ่ม ที่ใครมีความสามารถอะไรมาโชว์ ก็ขนกันมาแบบจัดเต็ม

ก่อนจะมีการจับกลุ่มเป็นบอยแบนด์บ้าง ดูโอบ้าง เรียกเสียงกรี๊ดกันสนั่นลั่นฮอลล์ แต่ทีเด็ดอยู่ตรงการประชันบทบาทในละครชุดพิเศษ ระหว่างเทพบุตรจุฑาเทพ (เกรท-ชายใหญ่, เจมส์ -ชายภัทร, สน-ชายเล็ก, อาเล็ก –ชายพีร์) กับแก๊งฮอร์โมน (ต่อ-ไผ่, เต๋อ-หน่อไม้ และแขกรับเชิญพิเศษมาดามมด มารับบทเป็นหญิงมด)

ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือศิลปินรับเชิญ ที่คราวนี้ได้รุ่นเดอะมากมาก อย่าง “อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ที่ซิ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกมาร้องเพลง “ใจนักเลง” ร่วมกับหล่อมากมากรุ่นหลาน

แต่ความมันทั้งหมดบนเวที ก็ถูกแย่งซีน พร้อมกับการปรากฏตัวของนางเอกคู่จิ้นของหมาก อย่าง “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” และคู่จิ้นของอาเล็ก อย่าง “จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ” ที่หอบช่อดอกไม้ช่อโตมาร่วมแสดงความยินดี แถมสบตาหวานเยิ้มจนมดแมลงแถวนั้น แถมจะสำลักน้ำตาล

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการประชันความหล่อมากมากแล้ว นัยที่ซ่อนเร้นบนเวทีนี้ ก็คือเห็นได้ชัดว่ารายนามพระเอกของช่อง 3 ที่ขนมานั้น ไม่มีรายชื่อเด็กในสังกัดของ “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” แม้แต่คนเดียว กระทั่งกระบี่มือหนึ่งอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็ตามที ซึ่งเรื่องนี้เคยมีคนตั้งข้อสังเกตไว้ตั้งแต่เมื่อคราวเปิดตัวแถลงข่าวแรกๆ แล้ว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจาก “อาร์ม-วิบูลย์ ลีรัตนขจร” แห่ง “เซิร์ซ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” โต้โผหลักของการจัดงาน ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ไม่มีอะไรเคลือบแคลงอย่างที่หลายคนสงสัย เพียงแต่ไม่อยากให้รายชื่อพระเอกไปซ้ำกับคอนเสิร์ต “Give Me 5” ที่จัดไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ซึ่งงานนั้นเป็นเด็กในเครือข่ายเอ-ศุภชัยล้วนๆ

แต่ถึงปากจะบอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีอะไร.....แต่เชื่อเหอะว่าลึกๆ แล้วก็ต้องมี เพราะการที่เอ-ศุภชัย เกณฑ์เด็กในสังกัดของตัวเองไปขึ้นคอนเสิร์ต เพื่อเสริมบารมีให้กับตัวเอง และถือเป็นการสกัดดาวรุ่ง ไม่ให้เด็กของตัวเองต้องขึ้นเวทีประกบกับพระเอกคนอื่นๆ (ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของตน) ถือเป็นการหักหน้าช่อง 3 อยู่ไม่น้อย เรื่องนี้คนในวงการบันเทิงต่างก็รู้กันดีอยู่ว่า ยิ่งเอ-ศุภชัยเรืองอำนาจมากเท่าไหร่ อำนาจการต่อรองกับช่อง3 (หมายรวมถึงกับที่อื่นๆ ด้วย) ก็จะมากยิ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่อง 3 เองก็พยายามที่จะคานอำนาจมาโดยตลอด ด้วยการพยายามที่จะสร้างพระเอกขึ้นมาเอง ผ่านรายการประกวดเฟ้นหานักแสดงจากเวทีต่างๆ ในหลายๆ รูปแบบ เพื่อหวังว่าจะได้เพชรเม็ดงามมาประดับหัวแหวน อย่างที่เคยเกิดมาแล้วจากกรณี “โฟม-พัชฎะ นามปาน” , “ไม้ วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ” จากเวที M Thailand หรือล่าสุด “เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์” จากเวที The Idol Project แม้กระทั่งการบรรจุรายการเรียลิตี้ประกวดร้องเพลงอย่าง Kpn Award The Battle Series ที่ย้ายมาจากโมเดิร์นไนน์เข้ามาในผัง ช่อง 3 ก็ไม่ได้มุ่งหวังอยากจะได้ศิลปินนักร้อง มากไปกว่าหวังว่าจะเจอช้างเผือกที่จะมาต่อยอดเป็นพระเอกของช่องได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้บริการพระเอกในเครือข่ายของเอ-ศุภชัย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การจะหาพระเอกที่ครบเครื่องแบบเด็กของเอ ที่ผ่านการฝึกฝน พัฒนามาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของฝีไม้ลายมือ และรูปโฉมโนมพรรณ ที่ผ่านการเหลาดั้ง-ปั้นคางมาแบบพร้อมใช้งานนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ช่อง 3 จึงต้องยอมหวานอมขมกลืนมาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน การจับมือกันระหว่างช่อง 3 (เซิร์ซ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) กับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เป็นพันธมิตรร่วมกันจัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ก็ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสัมพันธภาพระหว่าง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่นั้นกำลังหอมหวาน เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งช่อง 3 เอง ก็เคยจูบปากกับ อาร์เอส ในการจัดฟุตบอลกระชับมิตรในวาระครบรอบของช่อง 3 หลายปีต่อเนื่อง โดยที่ตอนนั้นแกรมมี่ได้แต่ชะเง้อมองตาละห้อย เพราะเข้าไม่ถึงตัวช่อง 3 แต่เมื่อธุรกิจเปลี่ยนขั้ว ช่อง 3 ก็หันมาดูดดื่มกับแกรมมี่ ขณะที่สะบั้นความสัมพันธ์กับอาร์เอส โดยสิ้นเชิง ดังจะเห็นได้จากข่าวคราวการกระทบกระทั่งทั้งทางตรง ทางอ้อม ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าอาร์เอส ก็ไม่ได้รู้สึกอนาทรร้อนใจกับสัมพันธภาพที่เปลี่ยนมือ เพราะยามที่เรตติ้งของช่อง 8 ดีวันดีคืน ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องยืมจมูกช่อง 3 เหมือนเมื่อก่อน

ขึ้นต้นเรื่องคอนเสิร์ตหล่อมากมาก ไหงมาลงท้ายที่ อาร์เอส จนได้

ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 275 7-13 กุมภาพันธ์ 2558