“วัลลี” ร่ำไห้! เปิดใจครั้งแรก ซัดรายการดังตลกนักหรือเอาความพิการของแม่ไปล้อเลียน เสียใจโดนตราหน้าขายชีวิตแม่แลกเงิน ลั่นทิ้งโปสเตอร์หนัง ปรึกษาครอบครัวเปลี่ยนชื่อหวังปิดตำนานวัลลี อยากอยู่อย่างสงบ วอนผู้ผลิตมีมนุษยธรรม อย่าเห็นแก่ตัว ด้าน “ตุ๊กกี้ ชิงร้อย” รุดกราบขอขมา
จากกรณีที่ “วัลลี บุญเส็ง” หรือ “วัลลี” ยอดกตัญญู ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ผลิตรายการ 3 รายการฐานหมิ่นประมาท เหตุนำเรื่องราวของตนมาล้อเลียนผ่านรายการตลก และหนึ่งในนั้นคือรายการชิงร้อยชิงล้าน ของ “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” ซึ่งในเวลาต่อมาเสี่ยตาได้เข้าไปเจรจาและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนคู่กรณีได้ถอนฟ้อง แต่ในฐานะนักแสดงที่รับบทเป็นวัลลี “ตุ๊กกี้ ชิงร้อย” สุดารัตน์ บุตรพรหม น้อมรับผิด โดยเปิดใจว่ารู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากเข้าไปกราบขอโทษอีกฝ่าย
ล่าสุด วันนี้ (19 มกราคม 2558) “ตุ๊กกี้” ก็ได้โพสต์ภาพในอินสตาแกรม เป็นภาพที่ตนเองก้มกราบขอขมาวัลลี พร้อมระบุข้อความ “กราบพี่วัลลีที่เมตตาหนูค่ะ” ซึ่งสาวตุ๊กกี้เดินทางไปถึงบ้านของอีกฝ่ายที่จ.สมุทรสงคราม เพื่อขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยการเจรจาผ่านไปด้วยดี แต่ถึงแม้วัลลีจะถอนฟ้องรายการ ในเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ยังคงให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป
ปรากฏว่าในช่วงเย็นของวันนี้ วัลลีก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย “สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา” ระบุว่า การแสดงของตลกที่รับรู้ที่เห็นและอดทนมีมาตั้งแต่ปี 40 จนทนไม่ได้ ปี 50 ตนจึงเริ่มฟ้องร้องเพราะรับไม่ไหว ฟ้องไปหนึ่งรายการแต่ไม่เป็นข่าว แต่ปรากฏว่าไม่จบ มาเจอคราวนี้ 3 รายการเลยทนไม่ได้ เพราะเกินที่จะรับได้แล้ว ที่เห็นตัวเองเป็นปัญญาอ่อนบ้าๆ บอๆ ในทีวี แล้วเอาความพิการของแม่ตนไปล้อเลียน มันขำ มันตลกหรือกับมุกตรงนี้
นอกจากนี้ วัลลียังขอให้เห็นใจ เพราะตนไม่ได้อยากดัง ไม่ได้อยากออกสื่อ ไม่ได้สร้างกระแส ไม่ได้อยากได้เงิน เพราะชีวิตนี้เลี้ยงตนเองได้ แต่ลูกสามีต้องเดือดร้อน คนรอบตัวมองว่าตนเอาเรื่องนี้ไปขายให้ตลกทำรายการทีวี เพราะคิดว่าการที่จะเอาเรื่องตนไปทำต้องขออนุญาต ตนเพิ่งทราบว่าคนมองแบบนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต เพิ่งจะนั่งร้องไห้ว่าไม่ได้เอาไปขาย เป็นการละเมิด เพราะขนาดครูที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็กยังเข้าใจผิด มันทำให้ตนเจ็บปวด ใครจะรับผิดชอบ (ร้องไห้)
“อยากให้เป็นข่าวเพราะอยากแก้จุดด่างตรงนี้ เพราะคนอยู่รอบตัวยังคิดแบบนี้ บางรายการเล่นต่อเนื่องเป็นอาทิตย์ ครูพูดว่าทำไมทำกับบุพการีแบบนี้ คำขอโทษร้อยพันคำที่ให้เรามันแทนความรู้สึกตรงนี้ไม่ได้ ชาวบ้านบางคนพูดแรง ทำไมต้องหากินอย่างนี้ (ร้องไห้) ยืนยันว่าไม่เคยขาย ไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้นทนมา 20 ปี ฟ้องเงียบๆ ด้วยความเห็นใจผู้กระทำผิด เพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่อยากให้เสียชื่อ ปิดได้ก็ปิด คิดว่าพลั้งพลาดไป เป็นห่วงเขาเพราะเขาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม จุดประสงค์ไปแจ้งความคือเพื่อให้หยุดแค่ 3 รายการนี้ อย่าให้มีรายการที่ 4 เพราะเกินจะรับได้ถึงได้ยอมออกสื่อ ยอมเป็นข่าว ชีวิตเราไม่ตลก ไม่ยินยอมให้ไปทำตลกด้วย โดยเฉพาะที่ย้ำทุกครั้งแม่เราไม่ใช่สิ่งที่คุณจะมาล้อเล่น ไม่มีสิทธิ์จะมายุ่งกับแม่ คุณไม่ต้องมาขอโทษเรา คุณไปขอโทษกับแม่”
“บางรายการจับแม่ซึ่งนอนป่วย เดินข้าม กระทืบ จับเหวี่ยง ร้อยเปอร์เซ็นต์คือมุกป้อนข้าว ซึ่งรายการนั่งหัวเราะ การแสดงออกมาคือแม่ปัญญาอ่อน คนเป็นอัมพาตแล้วเขาเสียไปนานแล้วจะช้ำใจไหม รู้ว่าเป็นการแสดงแต่มันคือชีวิตเรา อยากย้อนถามว่าถ้าเป็นแม่คุณ คุณรับได้ไหม สมัยก่อนไม่มียูทิวบ์ โมโหก็ไม่รู้ทำไง โกรธเราก็จบ ไม่รู้จะทำยังไงกับเขา ก็ปล่อยไป ทุกครั้งที่เห็นก็โมโห แต่คิดว่าคงแค่นี้แล้วเลิกกัน ทุกวันนี้งานแม่บ้านเยอะมาก ไม่มีเวลาดูทีวี เราไม่รู้ว่าอะไรหรอกจนวันหนึ่งลูกสาวอายุ 15 บอกว่าแม่ไปดูยูทิวบ์บ้างนะ ก็เจอ 3 รายการ ลูกสาวเขาบอกว่าโดนมาเยอะ ลูกชายบอกว่ารู้มานานแต่ไม่กล้าบอก เพราะถ้าแม่เห็นแม่ก็นั่งร้องไห้ สามีก็รู้แต่ไม่มีใครบอก เพราะกลัวเสียใจ”
“แต่ลูกสาวที่มาพูดบอกว่าน่าจะเลิกได้แล้ว เพราะเพื่อนชอบส่งไลน์รูปตลกมาให้ เพื่อนแซวก็แชร์ส่งกันไป ลูกเขาอาย เสียความรู้สึก เหมือนแม่โดนล้อเลียน เขาก็อดทน แต่ก็ยังมีอีกเรื่อยๆ ไม่เลิกซักทีเลยต้องพูด คนมองว่ารายการเขาเล่นไปตั้งนานทำไมเพิ่งออกมาโวยวาย บอกเลยว่าเพิ่งเห็น ทุกครั้งลูกเราโดนเพื่อนแซวมาตลอด แต่เราไม่รู้ตัว พอเกิดเคสต์วันนี้คิดว่าไม่ผิดที่จะฟ้อง อยากอยู่กับลูกสามีแบบสงบไม่อยากเป็นข่าว ตลอดระยะเวลา 20 ปี ปฏิเสธตลอดไม่ออกรายการ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะอยากให้เงียบ ไม่อยากให้ตลกเอาไปเล่น ต้องการให้ลืม ขนาดลูกบอกว่าเปลี่ยนชื่อ แล้วแจ้งสื่อว่าปิดตำนานวัลลี จะได้เลิกเล่นตลกซะที นี่คือเรื่องจริงเมื่อวานก็ยังพูดกับสามีว่าจะเปลี่ยนชื่อแล้ว เราคิดว่าถ้าคนลืมตลกจะได้ไม่เอาไปเล่น ชีวิตจะได้สงบเสียที คิดกระทั่งว่าข่าวทิ้งไปหมดเลย เพื่อให้ลืมอดีตไปเลย ทิ้งเพราะความเจ็บปวดที่แม่โดนกระทำ ทิ้งไปจริงๆ ค่ะ โปสเตอร์หนังก็ไม่มี ข่าวเก่าๆ ก็ไม่มีแล้ว วันที่เราเจ็บมากๆ เพราะเราคิดว่าเพราะคำว่าวัลลีทำให้แม่โดนล้อเลียนไม่จบไม่สิ้น (ร้องไห้) ตัวเราไปวิ่งบ้าๆ บอๆ เราให้อภัยได้ เราไม่เจ็บปวด แต่กับแม่เราเจ็บปวดมากจริงๆ เพราะแม่ทุกข์เหลือเกิน คนที่เขาไปแสดงไม่ได้มีความเคารพแม่เราเลยมุ่งแค่ธุรกิจ ฮา ตลกอย่างเดียว ความรู้สึกตรงนี้ใครไม่โดนไม่เข้าใจหรอก เป็นเรื่องความรู้สึก เป็นเรื่องจิตใจ บางทีเพื่อนเจอเล่นกันในคาเฟ่ โอ้โห ยิ่งร้ายแรง เป็นมุกตลกเลย มันก็เจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น”
เผยท้อแท้กับความเห็นแก่ตัวของสื่อ ไม่นึกถึงเสรีภาพและจิตใจตน วอนให้มีมนุษยธรรมกันบ้าง
“สาเหตุหลักๆ ที่เราแจ้งความเพื่อให้หยุดแล้วอย่าให้มีอีกเลย ขอความเมตตา หาเรื่องอื่นไปทำเถอะ อย่าหมดมุกจนเอาเรื่องนี้ไปทำ ขอความเมตตาผู้ผลิต ดีใจมากที่ได้พูดวันนี้เพราะมันอัดอั้นมาก ถ้าวันนี้คนไทยจะลืมชื่อวัลลีไปเลยจะเป็นสิ่งที่ดีมาก ทุกวันนี้ท้อแท้มากกับพฤติกรรมของสื่อที่เห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงสิทธิเสรีภาพและจิตใจของคน วัลลีเป็นชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย ถ้าทำอะไรให้มีมนุษยธรรมบ้าง จะไม่อนุญาตให้ใครเอาไปทำอีกแล้ว”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |