“สมรักษ์” โม้ไม่ออก! แจงเบี้ยวชกมวยหวั่นพิการ ยินดีคืนเงินมัดจำหนึ่งแสน

“สมรักษ์” โม้ไม่ออก แจงข่าวเบี้ยวชกมวย หอบเงินมัดจำหนึ่งแสนหนี รับเห็นคู่ชกแล้วหวั่นพิการ ลั่นไม่กลัวแพ้แต่ต้องจัดคู่ชกให้สูสีเพราะตนแก่แล้ว ส่วนเงินมัดจำยินดีคืนเสมอ!

งานงอกอย่างจัง หลังจากวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้มีการแข่งขันมวยไทยรอบมาราธอน โตโยต้า วีโก้ รอบแชมป์ชนแชมป์แห่งปี ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ โดยในวันดังกล่าว “สมรักษ์ คำสิงห์” ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก มีคิวขึ้นชกกับ “ฟิลิปเป้ บัวส์” นักชกชาวฝรั่งเศส แต่สุดท้ายสมรักษ์กลับไม่ยอมขึ้นชกและได้เดินทางกลับทันที ในขณะที่โปรโมเตอร์ผู้จัดคู่มวยได้ออกมาเปิดเผยว่าทางผู้จัดได้จ่ายเงินมัดจำแก่สมรักษ์ล่วงหน้าไปแล้ว 100,000 บาท และขอให้อีกฝ่ายออกมาชี้แจงก่อนที่ตนจะฟ้องร้อง

ล่าสุด วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2557) นักมวยฝีปากกล้า เจ้าของวลีเด็ด “ไม่ได้โม้” ก็ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์เพื่อความกระจ่าง ก่อนอัดรายการ “โชว์แตกฟอง” ทางช่อง 2 ลั่นโปรโมเตอร์จัดคู่ชกให้ไม่สมน้ำสมเนื้อ ส่วนตนไม่ห่วงภาพลักษณ์ว่าจะแพ้หรือชนะแต่เป็นเพราะคู่ต่อสู้ตัวใหญ่กว่า หวั่นตนพิการ ส่วนเงินมัดจำยินดีคืนเสมอ

“ข่าวที่ว่าผมหนี คือผมกลัวครับ ผมแก่แล้ว (หัวเราะ) ไม่หรอก คือผมก็เลิกมวยไปนานแล้วแหละ ก็รับราชการทหารเรือ มีถ่ายละคร มีไปโชว์ ไปขายปุ๋ย เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ก็ไปตามอีเว้นท์ต่างๆ เยอะแยะแทบทุกวัน ก็ขอผมไปชกในรอบโตโยต้ามาราธอน จริงๆ แล้วผมก็ชกอยู่ ผมก็ได้แชมป์มาราธอนที่ชลบุรี แล้วก็มาต่อที่ใต้ ต่อที่พิษณุโลก แต่ต่อแต่ละครั้งต้องบอกว่าผมไม่ได้ชก ผมไม่ได้ซ้อม ซ้อม 2 - 3 วันแล้วก็ไปชก พอชกแล้วมันก็เหนื่อย มันก็เจ็บตัวบ้าง มันไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ แล้วแมทนี้ก็เหมือนกันเขาบอกให้ไปช่วยหน่อย ผมก็บอกว่าเสี่ยครับ ผมไม่มีเวลาซ้อมนะ มีไปโน้นไปนี่คิวมันเต็มหมดเลย เขาก็บอกว่าไปช่วยหน่อยแมตซ์ใหญ่ เราก็อ่ะๆ ชกก็ชก มันก็เป็นลักษณะนี้ทุกครั้งที่ผมขึ้นชก แต่ชกแล้วผมก็บอกว่าอย่าเอาตัวใหญ่มานะ ผมแก่แล้ว มันเหนื่อย ถ้าซ้อมดีๆ ถ้ามีโปรแกรมซ้อมเป็นเดือนจะไม่ว่าเลย เก่งไม่กลัว แต่ขอตัวเท่าๆ กันนะ”

“ผมชกวันที่ 31 ชั่งน้ำหนักวันที่ 30 วันที่ 28 - 29 ผมก็ต้องมารีดน้ำหนักแล้ว เพราะสภาพผมมันอ้วนฉุ ไขมันเยอะ มันไม่ได้ซ้อมประจำไง น้ำหนักปล่อยๆ ก็ 78 โล แล้วผมต้องต่อย 72 โล ต้องลด 6 กิโลภายใน 2 วันมันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน พอวันที่ 30 ชั่งน้ำหนักตอนบ่ายสอง ช่วงเช้าผมลดได้โลครึ่ง ตอนเที่ยงอีกโลครึ่ง พอได้ 72 ปุ๊บผมก็ขับรถไปที่ชั่งน้ำหนักโรงพยาบาลเปาโล ผมก็ขึ้นไปด้วยความหิวด้วย อดข้าวมาหลายวัน ลดน้ำหนักด้วยยืดตากแดดมาหลายวัน พอขึ้นไปผมก็ถามว่าไหนล่ะคู่ชกผม แล้วก็ตกใจอู้ย...ทำไมใหญ่จัง (หัวเราะ)”

“ผมก็ขึ้นชั่งได้ 70 คู่ต่อสู้ก็ 70 แต่ว่าผมตัวแค่เนี้ย แล้วมองไปในงานที่ฝรั่งที่ชกด้วยเขาเป็นนักมวยหนุ่มๆ นักมวยที่ยังต่อยอยู่ทุกวันเนี่ย ผมก็เลยบอกว่าทำไมคู่ชกผมมันใหญ่จัง ทีนักมวยหนุ่มๆ ได้เจอฝรั่งตัวเล็กๆ (หัวเราะ) แต่ทำไมเอาตัวใหญ่ๆ มาชกผมจัง ผมแก่แล้ว ซ้อมก็ไม่ได้ซ้อม เขาก็บอกว่ามันใหญ่อย่างเดียวมันเตะไม่เป็นหรอกบาส เตะเป็นไม่เป็นแต่มันใหญ่ มันเดินปั้มผมนิดเดียวผมก็เป็นลมแล้ว ผมพูดอย่างนี้แล้วผมก็เดินออกมา แล้วทีมงานคนที่หามวยมาชกกับผมเขาก็เดินมาหา ผมก็บอกว่าทำไมหาตัวใหญ่มาชกกับพี่จัง พี่มันแก่แล้วนะ แล้วพี่มีงานทุกวัน แล้ววันที่ 31 มันใหญ่ มันล้มทับพี่ แล้วเกิดพี่เป็นอะไรไป งานอื่นมันก็เสียหาย พี่ต้องเลี้ยงครอบครัว พี่แก่แล้วนะ ผมก็ถามเขาว่าเป็นเอ็งจะชกหรือเปล่า เขาบอกไม่ชก ผมก็บอกเอองั้นกูก็ไม่ชก ก็เลยกลับ (หัวเราะ)”

บอกน้อยใจ เพราะตนเป็นมวยแก่ทำไมหาคู่ชกตัวใหญ่มาชกกับตน
“จริงๆ แล้วผมเป็นแค่มวยประกอบรายการนะ เป็นมวยคู่เสริมเข้าไป แต่คู่สำคัญของเขาก็คือชิงมวยรอบ ชิงรถโตโยต้า ผมก็ไปประกอบรายการชก 3 ยก แต่เรื่องก็คือผมน้อยใจ ทำไมเด็กหนุ่มๆ ชกกับฝรั่งตัวเล็ก แต่มวยแก่ทำไมเอาคนตัวใหญ่มาชกกับเรา แต่คนที่มาแทนผมเขาตัวเล็กเหมือนกัน อันนั้นเขาเป็นมวยเบอร์หนึ่งที่เขาชกประจำ น้ำหนักปล่อยก็เกือบ 80 กิโล เขาไม่ได้ลดน้ำหนัก เขาชกอยู่ประจำ แต่ผมแก่แล้ว ความรู้สึกตอนนั้นก็คือน่าจะอนุรักษ์ผมบ้าง ไม่ใช่ว่าเอาตัวใหญ่มาชกกับผม ผมก็มาสร้างสีสัน ผมมีหน้าที่การงาน ผมเป็นนายทหารเรือเอกสมรักษ์ คำสิงห์ อีกอย่างผมก็มีงานอยู่แล้ว ผมไม่ได้ไปบอกว่าเสี่ยจัดให้ผมหน่อย ไม่ใช่”

ยันยินดีคืนเงินมัดจำหนึ่งแสน ส่วนตนไม่ห่วงภาพลักษณ์แต่ห่วงตัวเองหวั่นพิการก่อน
“แต่เรื่องเงินมัดจำเป็นเรื่องธรรมดา ตกลงกันเท่าไหร่มันก็ต้องมัดจำผมอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา ผมรับเงินมาแล้วจริง แค่แสนเดียว จะให้เอาไปคืนก็ได้ พรุ่งนี้ผมเอาไปคืนมันก็น่าจะจบ แต่ที่ยังไม่ได้เอาไปคืนเพราะมวยมันมีวันศุกร์ จากนั้นผมก็ไปลุมพินี ผมขอเงินเมียมา 2 แสนจะไปคืนเขา แต่เขาก็ไม่มา อีกทีตอนตีหนึ่งโทร.มาหาผม แล้วพี่มิต นครคือผู้จัดการผม แต่จริงๆ แล้วต้องขอบคุณทางเสี่ยและพี่มิต ที่เริ่มแรกเลยคือผมเลิกไปแล้ว และเขาเอาผมมาจัดชกย้อนยุค ทำให้เวทีราชดำเนินปิดสนาม ลุมพินีปิดสนาม ทำให้เรามีกระแส เขาเป็นคนกล้าลงทุน กล้าจัดผมชก แล้วก็ทำให้เรามีงานต่อเนื่อง แต่บางครั้งเราช่วยไปต่อยมวย 3 ยกเนี่ย ก็น่าจะอนุรักษ์เราบ้าง คือผมน่ะไม่กลัวเก่งหรอก”

“ผมจะเอาเงินไปคืนวันตั้งแต่วันศุกร์แล้ว แต่เขาไม่มา ไม่ใช่ผมล่องหนนะครับ จริงๆ เขาน่าจะรู้นะ เขาเก่งกว่าผมเพราะเขาเป็นโปรโมเตอร์ ผมก็ยังอ่านข่าวที่เสี่ยบอกว่าถ้าเอาตัวเล็กมาก็ไม่สูสี คือคุณอยากให้ผมเป็นลมคาสนามเหรอ ถ้าอยากชกจริงๆ สูสีจริงๆ คุณนัดผมไปซ้อมเป็นเดือนแล้วค่อยมาต่อยใหม่ที่ราชดำเนิน ลุมพินี คือผมน่ะเก่งไม่กลัว แต่ขอตัวไล่เลี่ยกันหน่อย พอฟัดพอเหวี่ยงกันหน่อย ไม่ใช่ว่ามาปุ๊บโอ้โห แล้วผมเกิดกับมวย การที่คู่ชกใหญ่กว่าเรา สูงกว่าเรามันทำให้ต้องออกแรงเยอะ จะเตะทีก็ต้องสูง แล้วฝรั่งแต่ละค่ายเราประมาทเขาไม่ได้นะ เพราะถ้าฝรั่งแต่ละค่ายที่มาซ้อมในเมืองไทย ถ้าชนะสมรักษ์ได้ก็ดัง ถ้าสมรักษ์เป็นลมคาสนาม สมรักษ์ก็เละ”

“ถามว่าห่วงภาพลักษณ์ตัวเองใช่ไหม ผมห่วงตัวเองครับ กลัวพิการ ผมห่วงครอบครัว ห่วงคนในค่าย ห่วงพ่อแม่ แม่ผมก็ไม่สบายอยู่ ถ้าผมชกไปผมเจ็บ เป็นลม แม่ผมตายก่อนแน่ แต่เอาจริงๆ ผมเป็นแค่ตัวประกอบ ผมไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าผมต่อยชิงรถสิผมจะได้ซ้อมเป็นเดือน ถ้าทางทีมงานโทร. มาผมก็คุย แต่เขายังไม่โทร แต่ส่วนมากผมก็จะติดต่อกับพี่มิต นครที่เป็นผู้จัดการของผม ซึ่งผมไปเซ็นสัญญาด้วย และจริงๆ สัญญาของผมก็หมดแล้ว แต่ผมก็ยังให้เกียรติเขาอยู่ว่าเขาเป็นคนจัดผม”

“สมมติว่าผมกลับมาชก 3 แมตช์ปิดสนามทั้ง 3 แมตชฺ์ลุมพินีก็ขายตั๋วหมดมันไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ทำให้คนอื่นเขามาติดต่อผมเหมือนกัน ผมก็บอกว่าผมไปชกไม่ได้เพราะผมมีสัญญาทางนี้ ทางนี้จัดผมอยู่ก็ต้องให้เกียรติเขาก่อน แล้วให้ผมเยอะด้วย ทีละ 5 - 6 แสน มวยแก่แล้วก็ยังจะจัด ไม่ได้โม้นะครับ (หัวเราะ) แต่เราไม่ได้เห็นแก่เงิน เพราะวงการมวยไทยมันเป็นวงการลูกผู้ชาย คือสมัยก่อนไม่มีกฎหมายมวยคือคำไหนคำนั้น นักมวยชกอยู่สังกัดใครก็ชกกับคนนั้น มันเป็นสัญญาลูกผู้ชาย แต่พอมีกฎหมายมวยออกมา มันมีธุรกิจขึ้นมาบางครั้งเงินมันก็ซื้อคนไม่ได้”

“ถ้าสมมติว่าผมฝืนไปชก ใหญ่ก็ใหญ่ ผมชกเพื่ออยากได้ตังค์ 3 แสนแล้วผมขึ้นชก เกิดผมพิการขึ้นมาใครรับผิดชอบ ลูกเมียผมจะอยู่ยังไง ฉะนั้นการที่เราเลิกมาแล้ว เรามีหน้าที่การงาน เรามีงานตรงโน้นตรงนี้ การที่เราจะขึ้นชกแต่ละครั้งเราต้องมองแล้วมองอีก ชกแล้วหนึ่งมีความเสี่ยงไหม สองจะเป็นลมไหม สามจะเจ็บตัวไหม ต้องคิดเยอะครับ”

ลั่นมีสปิริต ขนาดขาบวม นิ้วเป็นหนอง ไข่ดัน ยังไม่เคยถอนตัว ย้ำเป็นแค่สีสัน และตนแก่แล้ว น่าจะเห็นใจกันบ้าง
“ผมถอดใจ คือขอให้ผมมาช่วย แต่ทำไมเอาตัวใหญ่มาชกจัง มวยหนุ่มๆ ทำไมถึงเอาตัวเล็ก ผมแก่แล้วทำไมถึงเอาตัวใหญ่มา แต่ผมแก่แล้วก็น่าจะดูแลผมบ้าง คุณเป็นโปรโมเตอร์คุณน่าจะคิดออก (ยิ้ม) ต่อจากนี้ถ้าใครมาคุยผมก็คุยได้ทุกคน ผมไม่ได้หนีหนี้ วันที่ 31 ผมก็ยังไปดูมวยลุมพินี เอาตังค์เมียไป 2 แสนจะไปคืนเขา ผมก็คืนเขาแสนเดียวที่มัดจำมา อีกแสนหนึ่งผมก็เก็บไว้เอง เป็นเรื่องธรรมชาติ (หัวเราะ)”

“ใครจะว่ายังไงก็แล้วแต่คนคิด อย่างบางงานผมถ่ายละครอยู่ แล้วก็ต้องบินไปชั่งน้ำหนักที่พิษณุโลก พอเสร็จผมก็กลับมาถ่ายละครเรื่องหมัดเด็ดเสียงทอง พอถ่ายเสร็จผมก็บินไปชกอีก นักกีฬาคนอื่นมีไหมผมถามหน่อย ไม่มีหรอก เราสปิริตล้วนๆ ตอนไปต่อยที่หาดใหญ่ผมก็เกือบเป็นลม ลงมาผมระบมเยอะ ขาผมบวม นิ้วเป็นหนอง ไข่ดันขึ้น ใส่กระจับก็ยากอยู่แล้ว ผมเดินกะเผลกๆ อยู่อย่างนั้นน่ะ แต่ก็ถอนตัวไม่ได้ ทางโปรโมเตอร์เขาก็บอกว่ายังไงก็ห้ามถอน ผมก็ต้องชก ผมต้องไปผ่าหนองออก แล้วก็ประคองตัวชก คือมันเหนื่อย สปิริตไหใล่ะ เป็นคนอื่นกล้าชกไหมครับ แต่นี่เราก็ยังขึ้นชกให้ ก็ไม่เป็นไร แต่บางครั้งก็น่าจะเห็นใจเราบ้าง สมรักษ์แก่แล้ว แค่มาสร้างสีสัน แล้วผมก็ไม่ได้ไปขอให้เขาจัดผมนะ”

“หลังจากนี้ จะมีอีกรอบหนึ่ง ผมแก่แล้ว ก็ต้องแล้วแต่ความสบายใจของผมครับ ผมต้องเล็งก่อนว่าผมเตะสบายไหม (หัวเราะ) แต่คงพอแล้วล่ะครับ ผมเลิกมานานแล้ว ผมแขวนนวมมานานแล้ว แต่บางครั้งคนนั้นคนนี้ยุไปยุมา พอยุทุกวันผมก็มาๆ ผมเป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว บางทีโทร. ทุกวัน บางครั้งเมียผมยังต้องมารับแทนเลย เมียผมบุกราชดำเนินไปคุยกับเสี่ยเองเลย พาลูกสาวไปด้วย ไปยกมือไหว้บอกอย่าจัดเลย ไม่อยากให้ชกอีกแล้ว”

ยันครอบครัวอยากให้เป็นดาราเพราะสบายกว่า แต่เพราะตนรักกีฬามวย ถึงเหนื่อยก็ยอม สุดงงบอกหอบเงินหนีทั้งที่เงินมัดจำแค่แสนเดียว 
“ลูกผมเขาก็ไม่อยากให้ชก เมียก็ไม่อยากให้ชก แม่ก็ไม่อยากให้ชก ไม่มีใครอยากให้ผมชกหรอก เพราะอย่างเราวิ่งตากแดดหน้าดำ เป็นดาราสบายกว่าเยอะ เหงื่อออกนิดเดียวก็มีทิชชู่มาซับหน้าแล้ว อยู่สบายกว่าเยอะ แต่ทำไมเราต้องไปวิ่งตากแดด อดข้าว อดน้ำ เมียก็ถามทุกวัน ผมก็บอกว่าผมรักกีฬามวย มวยทำให้เรามีวันนี้ อะไรที่สร้างสีสันกีฬามวยได้ ทำให้กีฬามวยคึกคักก็ทำไปเถอะ เหนื่อยก็ยอม เรื่องตังค์มันไม่ใช่ปัญหาหรอก”

“ตังค์มัดจำก็ไม่ใช่เยอะนะ แต่ออกข่าวแบบว่าหอบตังค์หนี โอ้โห ผมหอบมา 10 ล้านเลยเหรอเขาถึงต้องตามผม (หัวเราะ) มันเป็นการช่วยกันไปช่วยกันมา แต่บางครั้งก็น่าจะช่วยเราบ้าง คุณเป็นโปรโมเตอร์ระดับสุดยอดอยู่แล้ว สร้างแชมป์โลกไม่รู้กี่คน แต่ทำไมต้องเอาตัวใหญ่มาชกกับสมรักษ์ คุณเอาไปคิดดู ทำไมไม่อนุรักษ์ล่ะ เกิดฝรั่งล้มทับไปทีหนึ่ง ผมจะเอาหน้าตาไปไว้ที่ไหน ยิ่งตอนนี้ผมเลิกมวยแล้ว ผมขายหน้าตาอยู่ (หัวเราะ) แต่ถามว่าต่อไปจะยังเห็นผมต่อยมวยไหม ปกติผมก็ไม่ได้ต่อยอยู่แล้ว”

“ตอนนี้ปัญหาสุขภาพผมก็เยอะ อย่างตอนที่ต่อยที่ลุมพินีผมแพ้จอมโหดนั่น ก็เป็นหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท ปวดทรมานมาก ไปหาหมอเขาบอกจะผ่าตัด แต่ผมก็ไม่ยอมผ่า ผมก็ฝืนขึ้นมาชก ก็เกือบเป็นลม แพ้ลงมา แต่ด้วยความโชคดีหรือเปล่าไม่รู้ ผมไปถ่ายหนังแอ็กชั่น มียิงปืน เขาก็ผมกระโดดหลบ คอมันดังก๊อก ผมหายเลย เหลือเชื่อมาก นี่เรื่องจริงนะครับ ผมก็เลยได้ซ้อม ได้กลับมาแก้มือจนชนะ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อนะ (หัวเราะ) นอนก็นอนไม่ได้ ปวดไปหมด ก็ตระเวนไปหาหมอฝังเข็ม ไปกับพี่ดู๋ (สัญญา คุณากร) ไปกับรายการที่นี่หมอชิต ไปฝังถึงวัดเส้าหลินนะ แต่ก็ไม่หาย แต่ไปถ่ายหนังกระโดดหลบกระสุนปุ๊บ หายเลย”

บอกขอโทษแฟนมวย ไม่ตั้งใจหลอกใคร ส่วนตนเป็นลูกผู้ชาย ไม่กลัวคู่ชกแค่กลัวพิการ
“ก็ต้องกราบขอโทษแฟนมวยนะครับ กราบขอโทษทางทีมงานคนจัดด้วย ต้องยอมรับว่าผมไปเพราะผมอารมณ์หิวด้วย และผมรู้สึกว่าทำไมไม่ดูแลผมบ้าง ผมมวยแก่เอามาต่อยกับฝรั่งตัวใหญ่ ทีมวยเด็กต่อยกับฝรั่งตัวเล็ก ดูแล้วก็ไม่เป็นธรรมสำหรับผม ผมกลัวผมพิการครับ ผมยังรักครอบครัว ยังรักลูก ยังรักพ่อแม่ ยังอยากจะอยู่ในวงการต่อไป แต่ถ้าตัวเท่าๆ กันผมไม่หนีใครอยู่แล้ว ก็ต้องกราบขอโทษจริงๆ สมัยหนุ่มๆ ใหญ่แค่ไหนผมก็ต่อยมาหมดแล้ว ผมไม่ได้โม้อยู่แล้วครับเรื่องมวย แต่ตอนนี้มันแก่แล้วโม้ไม่ได้แล้ว”

“ก็ต้องกราบขอโทษจริงๆ ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว เราไม่มีความตั้งใจจะหลอกใครอยู่แล้ว ผมก็บอกไปตั้งแต่วันที่ 30 แล้วว่าผมไม่ชก ผมก็นอนดูทีวีอยู่ พิธีกรก็ประกาศว่าอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ เดี๋ยวยังมีสมรักษ์ชกอยู่ ผมยังตกใจเลย เพราะผมยังนอนอยู่บ้าน ผมไม่ได้หลอกประชาชนนะ ผมไม่ได้โม้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมชกผมก็ชก ผมกลัวผมก็บอกกลัว แต่ผมไม่ได้กลัวคู่ชก ผมกลัวว่าผมจะเป็นลม พิการครับ”





ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก