xs
xsm
sm
md
lg

เพราะเราคู่กัน : กอน เกิร์ล ยอดภาพยนตร์ แด่ภรรยาสามีทั้งโลก!

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


***บทความนี้อาจมีการแตะต้องเนื้อหาบางจุดของเรื่อง***

อย่าไว้วางใจในความดี
เพราะโลกนี้มันซับซ้อนยอกย้อนกว่านั้นเยอะ
ที่เห็นๆ ว่าเป็นคนดีราวเทวดา
แท้จริงแล้วอาจเป็นการปลอมตัวมาของซาตาน
และที่สำคัญ อย่าได้ด่วนสรุปว่าเรื่องราวจะสวยหรู
เพราะความเป็นจริง อาจขมขื่นกลืนกลั้น ยิ่งกว่านั้นเยอะ

...............................
มีถ้อยคำความคิดอีกมากหลายที่สามารถใช้อธิบายผลงานของ “เดวิด ฟินเชอร์” ผู้กำกับภาพยนตร์ที่กล่าวได้ว่ามีแนวทางอันเป็นลายเซ็นเอกลักษณ์มากที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นทางเนื้อหาความคิดที่ไม่เพียงแค่มีแนวโน้มการมองโลกในแง่หม่น ไมน่าไว้วางใจ โลกในหนังของฟินเชอร์ มักเป็นโลกสีเทาๆ ไม่ขาวจัด ไม่ดำจัด และไม่ตื้นเขินเพียงชั้นเดียว เช่นกันกับตัวละครที่มักจะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นคนที่วกวนยอกย้อนและจำต้องพิจารณาให้รอบด้าน

ไล่มาตั้งแต่ยุค Se7en, The Game, Fight Club, Zodiac หรือแม้กระทั่ง The Social Network ที่ควรจะเป็นหนังเล่าเรื่องฟีลกู๊ดของมนุษย์ผู้บุกเบิกเฟซบุ๊ก แต่ด้วยความเป็นเดวิด ฟินเชอร์ การนำเสนอเนื้อหาจึงแตกต่างออกไป เพราะจะให้มายกยอความยิ่งใหญ่ของผู้คนเพียงอย่างเดียว คงมิใช่วิสัยของผู้กำกับคนนี้ ดังนั้น เราจึงได้เห็นเจ้าพ่อโซเชียลเน็ตเวิร์กที่สามารถเชื่อมโยงคนทั้งโลกเข้าด้วยกันด้วยเครือข่ายเฟซบุ๊ก แต่ตนเองกลับล้มลุกคลุกคลานในเรื่องมิตรภาพและความสัมพันธ์

และกับผลงานชิ้นล่าสุด อย่างเรื่อง กอน เกิร์ล (Gone Girl) ก็เช่นกัน ตัวเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ แต่ถ้าจะเล่าชีวิตคู่ในแบบพื้นๆ ก็ดูจะธรรมดาเกินไป เพราะสำหรับฟินเชอร์ มันมีอะไรที่น่าระทึกขวัญกว่านั้นเยอะ!

โดยมวลสารตั้งต้น กอน เกิร์ล นั้นดัดแปลงมาจากนิยาย เช่นเดียวกันหนังอีกหลายเรื่องของฟินเชอร์ (เช่น Fight Club, The Curious Case of Benjamin Button) ตัวบทประพันธ์นั้นได้รับความนิยมด้านยอดขายในระดับนิยายเบสต์เซลเลอร์ เป็นผลงานการเขียนของจิลเลียน ฟลินน์ ซึ่งมารับหน้าที่ในการดัดแปลงและเขียนเป็นบทหนังเรื่องนี้ให้แก่เดวิด ฟินเชอร์ ด้วย

...ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ห้า หนุ่มใหญ่เจ้าของบาร์ผู้มีนามว่า “นิค” ได้พบว่าเอมี่ -ภรรยาของเขา- หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา และขณะที่ชาวบ้านชาวช่องยังมองไม่ออกว่าเธอฆาตกรรมหรือถูกลักพาตัว รูปการณ์ของสถานการณ์กลับดูเหมือนจะพุ่งเป้ามาที่ตัวของนิค สังคมเริ่มจับจ้องมาที่เขาตัวเขาอย่างมีคำถาม ยิ่งบวกรวมพฤติกรรมที่น่าสงสัย กับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งของเอมี่ที่เธอทิ้งไว้ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ยิ่งดูเหมือนว่าการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในโทษฐานสังหารภรรยาของตน ก็ยิ่งผูกมัดนิคหนักข้อเข้าไปอีก...

จะเรียกว่าเป็นแนวถนัดของเดวิด ฟินเชอร์ ก็คงไม่ผิดนัก ในการทำหนังสืบสวนสอบสวนที่เล่นกับพล็อตอันลึกลับซับซ้อน เหมือนกับตอนที่ทำ Se7en หรือ Zodiac ลูกล่อลูกชนในการสืบค้นความจริงนั้นสามารถดึงความสนใจให้อยู่กับหนังได้อย่างดี ขณะที่ตัวเรื่องหรือการคลี่คลายของปมต่างๆ ก็เล่นกับการคาดเดาของคนดูได้อย่างชนิดที่พูดได้ว่า เดาทางได้ลำบากว่าหนังจะไปจบแบบไหน

กอน เกิร์ล เป็นหนังเกรดเออย่างไม่มีอะไรต้องสงสัย ในด้านหนึ่ง มันเป็นหนังที่ดูแล้วชวนเครียดอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นความเครียดที่มีอารมณ์ขันปนอยู่ ถ้าเราดู Se7en แล้วรู้สึกหนักอึ้ง กอน เกิร์ล จะมีการผ่อนปรนในแง่ของความขำ และเหนืออื่นใด มันเป็นหนังที่ดู “ง่าย” และ “สนุก” การเล่าเรื่องก็เป็นขั้นเป็นตอน แม้จะเล่นกับประเด็นที่ซับซ้อน และให้ตัวละคร “แสดงความจริงของตัวเอง” ทีละคน (สไตล์ใกล้ๆ กับหนังคลาสสิกอย่าง “ราโชมอน”) แต่การจัดวางไทม์ไลน์ของเรื่อง ก็ไม่ทำให้สับสน และตรงกันข้าม กลับเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวหนังได้มากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ เพราะยิ่งหนังดำเนินไป ดำเนินไป มันก็ยิ่งมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาให้เราได้ตื่นตะลึง และกอดรัดฟัดเหวี่ยงความคิดของเราให้เปลี่ยนขั้วสลับข้างจนยากจะสรุปได้ และแน่นอน เมื่อความเป็นจริงปรากฏ มันกลับสร้างบรรยากาศที่ “ทั้งน่ารันทดทั้งน่าหัวร่อ” ไปด้วยในขณะเดียวกันได้อย่างน่าประหลาด

ความตลกร้าย ความแสบจากการกระทำและความคิดของตัวละคร คือสิ่งที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของคนดูไม่รู้ลืม “เบน แอฟเฟล็ก” ผู้รับบทนิค และ “โรซามันด์ ไพค์” ผู้แสดงเป็นเอมี่ นับเป็นคู่ทางเคมีที่ถูกต้องตรงกัน และการแบ่งสัดส่วนของเรื่องออกเป็นอย่างน้อยสามส่วนใหญ่ๆ ก็เป็นโอกาสให้ทั้งคู่ได้แสดงตัวตนออกมาอย่างเด่นชัด และหนังก็ให้เหตุให้ผลแก่ตัวละครในแบบที่เราสามารถทำความเข้าใจทั้งสองฝ่าย

เอมี่ ผู้หายตัวไป คืออดีตนักเขียนชื่อดังคนหนึ่ง เธอคือผู้ให้กำเนิดวรรณกรรมสำหรับเด็ก โดยเฉพาะเรื่อง “เอมี่ สาวน้อยมหัศจรรย์” นั้น เป็นตำนานผลงานสร้างชื่ออันลือเลื่องของเอมี หนังมีการกล่าวถึงความยอดเยี่ยมของนิยายเล่มดังกล่าวไม่สั้นไม่ยาวมาก แต่ในแง่หนึ่งมันได้เปิดแง้มตัวตนของหญิงสาวผู้เขียนไปด้วยในตัว เอมี่ในนิยายก็มีบุคลิกภาพที่ซับซ้อนไม่ต่างไปจากเอมี่ผู้เขียน อย่างไรก็ตาม เมื่อความรักเดินเข้ามาในชีวิต เอมี่ก็ตัดสินใจสละทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อย้ายไปอยู่กับนิคในเมืองเล็กๆ และเพียงไม่กี่ปี เงื่อนไขอะไรต่างๆ ก็เริ่มทำให้ตัวตนของเธอเลือนจางลงทีละน้อย

เมื่อพิจารณาถึงสภาวะของตัวละคร “กอน เกิร์ล” ที่แปลตรงตัวว่าเด็กสาวผู้หายไป จึงอาจไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การหายตัวไปของภรรยาผู้หนึ่ง หากแต่อาจจะหมายถึงการสูญหายทางตัวตนของคนคนหนึ่งได้ด้วยในเชิงความหมายซ้อน เพราะอย่างที่เราจะได้เห็นว่า หลังจากโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับสามีนานปีขึ้น เอมี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตนนั้นไร้ค่ายิ่งขึ้นทุกที “เกิร์ล” หรือ “สาวน้อย” ที่เคยสำคัญถึงขนาดต้องใช้คำว่า “มหัศจรรย์” ในคืนวันเหล่านั้น ค่อยๆ มลายหายไปจนกระทั่งถึงจุดที่เธอรู้สึกว่าจะต้องลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นการกอบกู้ตัวตนของเธอ และเพราะความเป็นนักเขียนนิยาย มีหรือที่เธอจะทำอะไรพื้นๆ อย่างการเอาปืนไปยิงหัวใครสักคน มันต้องเล่นกลให้ซับซ้อนสะเทือนจิตยิ่งกว่านั้น ด้วยเหตุนี้ พฤติการณ์ของเอมี่ เมื่อถูกเฉลยขึ้นมา มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ช็อกความรู้สึกอย่างถึงที่สุด

นิค เป็นบุคคลที่น่าสงสารในระดับของการมองเพียงผิวเผิน เขากลายเป็นเครื่องมือแห่งนิยายลวงโลกอย่างมโหฬาร แต่กระนั้น การกระทำและตัวตนของเขาก็ใช่จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาโชคดีที่ได้นางฟ้ามาครอง แต่เขาโชคร้ายที่คล้ายกับว่า เขาโง่เขลาเกินกว่าจะรู้วิธีรักษาทะนุถนอมนางฟ้านั้น กระนั้นก็ดี กล่าวอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะมองจากมุมของเอมี่หรือนิค มันก็ให้ภาพไม่ต่างไปจาก “มวยถูกคู่ – ชู้ถูกจริต” ชนิดที่กล่าวได้ว่า ภายภาคหน้า ถ้านึกถึงหนังที่เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตคู่ งานชิ้นนี้จะเป็นอีกหนึ่งนามที่มองข้ามไม่ได้เป็นเด็ดขาด

ขณะที่นิยายลวงโลกดำเนินไปอย่างลึกลับและรู้กันแค่คนสองคน ผมคิดว่าอีกส่วนหนึ่งซึ่งหนังสื่อออกมาได้ดีมากๆ คือเรื่องของบริบทแวดล้อมทางสังคม ในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องสื่อกับความเชื่อของคน ใครก็ตามได้ออกรายการทีวีมักมีแต้มเหนือกว่า น่าเชื่อถือกว่า มีโอกาสในความถูกต้องมากกว่า หรือแม้แต่การเล่นกับความคิดของคนในสังคมซึ่งเหมือนอยู่ในภาวะหลับๆ ตื่นๆ มากกว่าจะตื่นรู้อย่างถ่องแท้ว่าอันใดจริงอันใดลวง เชื่อเรื่องราวเพียงผิวเผิน และบ่อยครั้งก็เต็มไปด้วยมายาคติอันตื้นเขิน...ทั้งหมดนั้นมันส่งผลบีบคั้นกดดันให้เรื่องราวของตัวละครหนักข้อและหาทางออกได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะความคาดหวังของสังคมมันได้เกิดขึ้นแล้ว และใครบางคนก็ฉลาดอย่างยิ่งในการที่จะเล่นกับความรู้สึกคาดหวังหรือความฟีลกู๊ดของสังคม จนกระทั่งอีกฝ่ายไม่อาจดิ้นออกไปได้เลย เพราะถ้าดิ้นออกไปจากจุดนั้น จะกลายเป็นคนชั่วในมุมมองของผู้คนในสังคมทันที

หนังเรื่องนี้คือหนังที่เหมาะมากๆ กับใครก็ตามซึ่งเป็นคู่รักกัน โดยเฉพาะคู่แต่งงานที่อยู่กินกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงกันและกัน กอน เกิร์ล หยิบเอารูปแบบของหนัง(นิยาย)ระทึกขวัญ มาอธิบายภาพของความเป็นชีวิตคู่ได้น่าระทึกยิ่งกว่าเรื่องราวของฆาตกรโรคจิตเสียด้วยซ้ำในบางขณะ แต่กระนั้นก็ดี นี่คือสัจจะแห่งการครองคู่

เพราะฟ้าดินบันดาลให้เราเกิดมาคู่กันหรือจะเพราะอะไรก็ตามแต่ แต่เรานี่แหละที่รู้จักกันและกันอย่างถ่องแท้และเหมาะสมกันยิ่งกว่าผีเน่ากับโลงผุ นี่คือแง่มุมที่โรน่าจะโรแมนซ์ที่สุดที่คนนอกไม่มีวันเข้าใจ เราอาจมีความทุกข์หรือเรื่องราวโน่นนี่ แต่ถึงยังไงเราก็ยังอยู่ข้างกัน คู่กัน

ที่ผ่านมา เราอาจเห็นคู่ภรรยาสามีทะเลาะตบตีหรือกระทั่งฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยม แต่บอกได้เลยว่าเรื่องราวนี้ เลือดเย็นกว่านั้นเยอะ และเหนืออื่นใด ผมไม่เคยเห็นหนังเรื่องไหนทำให้ถ้อยคำหวานๆ ฟังแล้วซึ้ง อย่าง “เพราะเราคู่กัน” กลายเป็นคำที่ชวนให้รู้สึกระทึกขวัญสั่นประสาทเท่านี้มาก่อน เพราะ...

“ถามกูบ้างก็ดีนะ ว่ากูอยากคู่มึง หรือเปล่า?”!!!



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก









กำลังโหลดความคิดเห็น