xs
xsm
sm
md
lg

ถึงวันที่ต้องไป ถึงวัยที่ต้องโต : God Help the Girl

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากระแสของหนัง “เพลงเพราะ” จะเติบโตเป็นที่นิยมในหมู่คนดูได้ค่อนข้างมาก หนังเพลงเพราะอาจไม่ใช่หนังเพลงหรือมิวสิเคิลโดยตรง หากแต่มีซาวด์แทร็กหรือเพลงประกอบที่ไพเราะเพราะโดนใจ

อันที่จริง หนังลักษณะนี้มีมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ในช่วงนี้ จะมาถี่เป็นพิเศษ เพราะไล่ตั้งแต่ Inside Llewyn Davis เมื่อปลายปีก่อน ปีนี้ก็มีตั้งแต่ Begin Again ซึ่งมาพร้อมกับเพลงฮิตติดหูและได้รับความนิยมถึงขนาดมีการนำเอาไปเล่นกันในร้านเหล้า มาจนถึง Boyhood ที่เพลงเพราะๆ มีบทบาทเป็นเสมือนเสียงพากย์แทรกเพื่อบอกเล่าถึงยุคสมัยที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคแต่ละสมัย

และสำหรับหนังเข้าใหม่อย่าง God Help the Girl ก็มีแนวทางคล้ายๆ อย่างที่ว่ามา มันมีทั้งความเป็นหนังเพลง (Musical) ที่ให้ตัวละครลุกขึ้นมาร้องรำทำเพลงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ขณะเดียวกันก็มีเพลงประกอบเหมือนกับหนังอื่นๆ

ความพิเศษของ God Help the Girl คือการได้บุคคลที่เป็นศิลปินนักร้องนักดนตรีอยู่แล้วมายืนในตำแหน่งเขียนบทและกำกับ เขาคือ “สจ๊วต เมอร์ด็อก” นักร้องนำแห่งวงสัญชาติสก็อตแลดน์ “เบล แอนด์ เซบาสเตียง (Belle & Sebastian) บทเพลงในหนังทั้งหมด 28 เพลง ก็เกิดจากการแต่งของเขา หนังเรื่องนี้โดดเด่นเป็นที่น่าประทับใจในการฉายที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ครั้งที่ผ่านมา ถึงขนาดที่ว่าคณะกรรมการต้องตั้งรางวัลขึ้นมาใหม่อีกรางวัลเพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับผลงานชิ้นนี้

ฤดูร้อนปีหนึ่งที่เมืองกลาสโกว์ของสก็อตแลนด์ วัยรุ่นสองสามคน “อีฟ”, “เจมส์” และ แคสซี่ ที่ความรักในดนตรีและเสียงเพลงชักพาให้มาพบกัน พวกเขาร่วมกันฝึกฝนดนตรีและแต่งเพลงตามปกติวิสัยของวัยรุ่นที่คุกรุ่นด้วยแรงใจและไฟฝัน โดยตัวละครที่ถือเป็นจุดศูนย์กลางของหนังนั้น คือ “อีฟ” สาวน้อยที่ป่วยไข้ด้วยโรคยอดฮิตของคนสมัยใหม่ ที่ชื่อว่า “อนาเร็กเซีย” หรือโรคคลั่งผอม กระนั้นก็ดี เธอกลับมีทักษะสูงในด้านการแต่งเพลง เช่นเดียวกับที่มีความมุ่งมั่นอันไม่ธรรมดา และนั่นก็กลายเป็นที่มาของบทสรุปซึ่งชวนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตวัยรุ่นที่กำลังเดินทางตามล่าคว้าฝัน

หนังเรื่องนี้เล่นกับฤดูกาลเหมือนกับหนังอีกหลายเรื่องที่มักใช้ช่วงซัมเมอร์หรือฤดูร้อน เหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งการตระเตรียมเพื่อเติบโตและเปลี่ยนผ่าน สแตนด์ บาย มี (Stand by Me) ที่เป็นตำนาน ก็เล่นกับบรรยากาศชีวิตช่วงหน้าร้อน และก็เช่นเดียวกัน หน้าร้อนของตัวละคร God Help the Girl ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรู้สึกนึกฝัน เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่กำลังจะหยั่งรากลงสู่เนื้อดิน เมื่อหน้าฝนมาถึง ก็พร้อมจะทะยานต้นและกิ่งใบ และเติบโต

หนังพูดเรื่องชีวิตวัยรุ่นได้ค่อนข้างเข้าใจ และเชื่อว่าคนที่ผ่านพ้นวันวัยเหล่านั้นมา คงจะเข้าใจอารมณ์ของหนังและตัวละครได้ไม่ยาก สิ่งหนึ่งซึ่งหนังทำได้ดีมากๆ นอกไปจากความหมกมุ่นครุ่นคิดกับความคิดความฝันว่าตนเองโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร อยากจะทำอะไร ก็คือการส่งเสียงบอกว่า ถึงวันหนึ่ง เมื่อฝันอย่างเพียงพอ เมื่อคิดอย่างสุดแรงแล้ว ถัดจากนั้นก็ถึงวันที่ต้องเดินไปข้างหน้า เราอาจทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในความทรงจำ ในความงดงามของวันวาน แต่ทุกชีวิตก็ต้องออกจากบ้าน ห่างไกลจากเพื่อนเก่า เพื่อก้าวไปสู่โลกที่กว้างกว่า...สู่โลกที่เหมาะแก่การเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันนั้นจริงๆ

ภาพของอีฟ ถูกทำให้แตกต่างจากเพื่อนคนอื่นในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความป่วยไข้หรือกระทั่งการมีทักษะด้านการเขียนและร้องเพลง แต่เหนืออื่นใด ความฝันของเธอนั้นสูงใหญ่เกินกว่าผืนดินเมืองกลาสโกลว์จะรองรับการเติบโตของเธอได้

สจ๊วต เมอร์ด็อก กับผลงานชิ้นแรกบนจอเงิน สมศักดิ์ศรีกับการเป็นหนังรางวัลพิเศษ ความมีชีวิตชีวาแห่งวันวัย ผสานไปกับตัวเรื่องที่ค่อนข้างแข็งแรง บทเพลงทุกเพลงอาจไม่ถึงขั้นจะฮิตติดหูถึงขนาดที่จะมีคนเอาไปร้องในร้านเหล้า แต่เพลงเหล่านั้นก็บอกเล่าตัวตนและความรู้สึกนึกฝันของตัวละครในเรื่องได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ภาพบรรยากาศในหนังซึ่งเซ็ตติ้งฉากหลังเป็นเมืองกลาสโกลว์ ประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งหนังเลือกเอามุมที่สวยงามชวนรื่นรมย์ เหมาะกับเป็นเมืองแห่งการเพาะบ่มอารมณ์ศิลป์ ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะแม้แต่สจ๊วต เมอร์ด็อก และผองเพื่อนสมาชิกวงดนตรี ก็ให้กำเนิดวง “เบล แอนด์ เซบาสเตียง” ที่เมืองแห่งนี้

หนังมีฉากหลังอีกฉากหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือโรงพยาบาลที่อีฟต้องเข้าพักรักษาตัว หนังเปิดเรื่องด้วยฉากในห้องของโรงพยาบาลและบทเพลงแห่งความฝันของหญิงสาว (อีฟ) ก่อนจะปิดฉากส่งท้ายด้วยขบวนรถไฟที่มุ่งไปต่างแดน ถ้าโรงพยาบาลนั้นเหมือนตัวแทนแห่งกรอบกรงหรือโครงสร้างอะไรสักอย่างที่กักขังผู้คนไว้ ฉากปิดส่งท้ายของหนังก็คงจะพูดในสิ่งตรงกันข้าม นั่นคือความคิดความฝันที่มิอาจมีสิ่งใดมากั้นขวาง...



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก









กำลังโหลดความคิดเห็น