การเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ด้วยสาเหตุอันน่าเศร้าของยอดดาวตลก “โรบิน วิลเลียมส์” ได้สร้างความตกตะลึงให้กับฮอลลีวูด และแฟนหนังของเขาที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งยังคงประทับใจบทบาทการแสดงของเขา ทั้งในการเรียกเสียงหัวเราะ, บทดรามาเรียกน้ำตา และยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย
แม้จะถูกจดจำในฐานะ “ดาวตลก” ด้วยทักษะการเรียกเสียงฮาที่เป็นเอกลักษณ์ และยังโดดเด่นด้านการใช้เสียง ที่เขาสามารถดัดเสียงได้หลากหลายจนน่าทึ่งอย่างที่พิสูจน์มาแล้วในหนัง Mrs. Doubtfire และการพากย์เสียงการ์ตูนหลายๆ เรื่อง
แต่ในเวลาเดียวกันตลอดอาชีพในวงการภาพยนตร์ โรบิน วิลเลียมส์ ยังได้รับการยอมรับว่ามีฝีไม้ลายมือด้านการแสดงบทดรามาที่ลุ่มลึกด้วยเช่นเดียวกัน วิลเลียมส์ ยังเคยสร้างความฮือฮาด้วยการหันไปลองรับเล่นหนังระทึกขวัญ และสวมบทเป็นฆาตกรโรคจิตได้อย่างน่าเชื่อถือใน One Hour Photo และ Insomnia มาแล้ว แต่บทที่ถือว่า วิลเลียมส์ ทำได้ดีเป็นพิเศษก็คือการสวมบทในหนังชีวิต ที่สร้างความประทับใจ และมอบแรงบันดาลใจในชีวิตให้กับผู้ชม จึงเป็นเรื่องน่าเสียใจเป็นทวีคูณที่นักแสดงซึ่งเคยมอบกำลังใจผ่านงานให้กับผู้ชมมากมาย กลับต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคซึมเศร้าเช่นนี้
“Moscow on the Hudson” (1984) หลังเล่นบทตลกจนขึ้นเป็นนักแสดงตลกอันดับต้นๆ ของฮอลลีวูดในช่วงยุค 80s โรบิน วิลเลียมส์ ได้ลองเปลี่ยนแนวมารับบทในหนังจริงจังดูบ้างในผลงานของผู้กำกับ พอล มาซูร์สกี ที่เขารับบทเป็น “วลาดีเมียร์ อีวานอฟฟ์” นักแซกโซโฟนของคณะละครสัตว์จากรัสเซียที่ตัดสินใจลี้ภัยสู่สหรัฐฯ ระหว่างคณะของเขาเดินทางเข้าไปทำการแสดงที่นั่น และต้องพบกับชีวิตใหม่ในดินแดนแห่งเสรีภาพ โดยหนังถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร และตัวของ วิลเลียม ก็ได้รับเสียงชมจากการทุ่มเทให้กับบททั้งเรียนภาษารัสเซีย และฝึกเล่นแซกโซโฟนอย่างจริงจังสำหรับการรับบทในหนังเรื่องนี้
“Good Morning, Vietnam” (1987) แม้จะรับบทเป็นหนุ่มดีเจหนุ่มจอมกะล่อนลีลาการจัดรายการจัดจ้านยิงมุกกระจาย แต่ผลงานเรื่อง Good Morning, Vietnam ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยในผลงานของ แบร์รี เลวินสัน โรบิน วิลเลียมส์ รับบทเป็นดีเจของกองทัพสหรัฐฯ ในไซง่อน ที่อาศัยอารมณ์ขันช่วยคลายเครียดสร้างเสียงหัวเราะให้กับทหารในสงครามเวียดนาม แต่แล้วความโหดร้ายของสงครามกลับทำให้เขาตลกไม่ออกอีกต่อไป และตัดสินใจครั้งสำคัญในการใช้สื่อเพื่อสะท้อนความเป็นจริงของสงครามครั้งนี้แทน แม้สุดท้ายจะทำให้ตนถูกปลดจากตำแหน่งก็ตาม โดยหนังทำเงินไปเกิน 100 ล้านเหรียญฯ และส่ง วิลเลียมส์ ให้มีชื่อชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกด้วย
"Dead Poets Society" (1989) ฮอลลีวูดสร้างหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของครูกับศิษย์มามากมาย และ Dead Poets Society ก็ยังถูกกล่าวถึงเสมอเมื่อมีการพูดถึงหนังแนวนี้ โดยเฉพาะการแสดงของ โรบิน วิลเลียมส์ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกคน ในบท “จอห์น คีตติ้ง” ครูวิชาภาษาอังกฤษที่ไมได้สอนเพียงวิชาการให้กับเด็กๆ แต่กลับใช้บทเรียนเกี่ยวกับบทกวี ในการสอนให้นักเรียนแห่งโรงเรียนมัธยมชั้นนำที่เคร่งเครียดกับการเรียนได้รู้จักกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า "Cape Diem" (จงฉกฉวยวันเวลาเอาไว้) จนทำให้ วิลเลียมส์ ได้ชิงออสการ์เป็นครั้งที่ 2 แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่หนังยังคงเป็นที่พูดถึง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวในทุกยุคทุกสมัย
“Awakenings” (1990) แม้จะเล่นบทชีวิตมาไม่น้อย แต่บทของ โรบิน วิลเลียมส์ ใน Awakenings ก็สร้างความแปลกใจให้กับผู้ชมในตอนนั้นอยู่ดี เพราะเขาได้โอกาสเปลี่ยนแนวจากการรับบทคนพูดเก่งคล่องแคล่ว มาแสดงเป็นนายแพทย์ผู้เงียบขรึมขี้อาย ที่พยายามพัฒนายาเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคสมองอักเสบกลุ่มหนึ่ง ที่อาการทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวและเอ่ยคำพูดใดๆ ได้เลยมาหลายสิบปี ซึ่งสุดท้ายแม้การรักษาจะไม่สำเร็จ แต่ผู้ป่วยคนหนึ่ง (โรเบิร์ต เดอ เนโร) กลับทำให้ตัวละครของ วิลเลียมส์ ได้ก้าวผ่านความกลัวบางอย่าง และได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง
“The Fisher King” (1991) โรบิน วิลเลียมส์ มอบการแสดงระดับชิงรางวัลออสการ์อีกครั้งในหนังของ เทอร์รี กิลเลียม ที่เขาได้สวมบทเป็น “แพร์รี” ชายจรจัดที่มีปัญหาทางจิต และมองเห็นภาพหลอนอยู่ตลอดเวลา กับการใช้ชีวิตเพื่อตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นผลกระทบจากการมองเห็นภรรยาถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา โดยหนังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ว่าสามารถผสมทั้ง “อารมณ์ขัน, ความโรแมนติก และความประทับใจได้อย่างลงตัว”
“Good Will Hunting” (1997) หลังมีชื่อชิงออสการ์มาหลายครั้ง โรบิน วิลเลียมส์ ก็คว้าเกียรติยศสูงสุดของแวดวงหนังฮอลลีวูดได้เป็นครั้งแรก จากบทสมทบของ Good Will Hunting ผลงานการกำกับของ กัซ แวน แซงต์ จากบทที่ แม็ต เดมอน กับ เบน แอฟเฟล็ค ร่วมกันเขียนที่เล่าเรื่องของนาย “วิลล์ ฮันติง” ภารโรงหนุ่มประจำสถาบัน MIT ที่ไร้ความโดดเด่น และทำงานไปวันๆ โดยที่ไม่มีใครทราบเลยว่าเขามีสมองอัจฉริยะชนิดที่สามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ระดับรางวัลโนเบลได้ โดย วิลเลียมส์ รับบทเป็นจิตแพทย์ที่ทำให้ วิลล์ สามารถเปิดใจ และสามารถเอาชนะปัญหาบางอย่างในจิตใจของตัวเองได้
“What Dream May Come” (1998) หนังรักแฟนตาซีที่พูดถึงโลกหลังความตาย จากเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของคู่สามีภรรยาที่ชีวิตครอบครัวอันแสนสุขต้องสิ้นสุดลงหลังลูกๆ ทั้งสองคนเสียชีวิตพร้อมกันอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุ จนทั้งสองแทบจะไม่สามารถจะทำใจใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้อีก ก่อนที่ฝ่ายชายจะเสียชีวิตตามไปอีกคนเพราะอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน และได้พบกับโลกหลังความตายที่สวยงามเหมือนความฝัน ก่อนที่เขาจะพบว่าภรรยาของเขาก็เสียชีวิตแล้วเช่นเดียวกัน แต่มาจากสาเหตุการฆ่าตัวตาย และต้องจมอยู่ในนรกขุมลึกที่สุดตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์จากบาปของการฆ่าตัวตาย ซึ่งเขาก็ตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเธอให้ได้ What Dream May Come อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จนัก และเสียงวิจารณ์ยังแตกออกเป็นสองฝ่ายทั้งชมและติ แต่นักวิจารณ์และผู้ชมจำนวนไม่น้อยก็ชื่นชมหนังเรื่องนี้ รวมถึง โรเจอร์ อีเบิร์ต ที่ชมเชยว่าแม้หนังจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็สามารถพาคนดูไปยังดินแดนเหนือจินตนาการอันน่าทึ่ง และนอกเหนือจากงานภาพอันน่าประทับใจแล้ว การแสดงอันยอดเยี่ยมของ โรบิน วิลเลียมส์ ก็ทำให้หนังเต็มไปด้วยความสะเทือนอารมณ์
“Patch Adams” (1998) หนังจากอัตชีวประวัติของนายแพทย์ผู้หนึ่งที่มีแนวคิดในการรักษาเยียวยาผู้ป่วยที่ไม่เหมือนใคร โดย วิลเลียม รับบทเป็น ดร.ฮันเตอร์ อดัมส์ หมอที่ไม่เชื่อหลักการที่ว่าแพทย์ไม่ควรใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากเกินไป แต่มองว่าความใกล้ชิดกัน และเสียงหัวเราะจะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้
“Bicentennial Man” (1999) แม้จะเป็นหนังไซไฟหุ่นยนต์แต่ Bicentennial Man กลับเป็นงานแนวดรามาที่พูดถึงความหมายของชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง และบางคนก็อาจจะเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย ผลงานของ คริส โคลัมบัส ดัดแปลงมาจากนิยายของ ไอแซค อาซิมอฟ ที่เล่าเรื่องราวใน “ชีวิต” ของหุ่นยนต์รับใช้ประจำบ้าน “แอนดรูว์” ซึ่งสมบทบาทโดย วิลเลียม ที่มีชีวิตอยู่ถึง 200 ปี กับเส้นทางการตามหาความหมายของคำว่า “มนุษย์”, “ความรัก” และ “ชีวิต” ด้วยจุดเริ่มต้นเป็นเพียงเหมือน “เครื่องใช้ภายในบ้าน” ของครอบครัวหนึ่ง และใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อพิสูจน์ว่า “ชีวิต” ของเขาเป็นของจริง
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |