“แม็ก เดอะสตาร์” กลับลำ 180 องศา ย้ำไม่เคยคบ “ไก่ ภาษิต” ไม่สนิทกัน ไม่ได้รู้จักกันที่ฟิตเนส ส่วนเรื่องที่บอกว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นเกย์อนาคตไม่แน่ ก็เป็นแค่การพูดเล่นๆ เป็นคนเฟรนด์ลีพูดเล่นกับนักข่าว ต่อไปจะระมัดระวังการตอบคำถามมากขึ้น ขอโทษไก่ที่ทำให้เสียหาย
หลังจาก “แม็ก เดอะสตาร์" จิรายุทธ คันธยศ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคบกับผู้ประกาศข่าวชื่อดัง “ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท”มา 1 ปีแล้ว เจอกันที่ฟิตเนสและติดต่อโดยการแชตไลน์ แถมยังตอบคำถามเรื่องเป็นเกย์อีกว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นส่วนอนาคตไม่แน่ ! และโบ้ยให้ไปถามไก่ตอบความสัมพันธ์เป็นเช่นไร เล่นเอาฮือฮากันทั้งประเทศกับกระแสชายเขมือบชาย ด้านไก่ออกมาปฏิเสธว่าเป็นเพียงคนรู้จักกันในวงการบันเทิง ส่วนแม็กก็มีข่าวว่า เตรียมจะแถลงข่าวเรื่องนี้ แต่ปรากฏพอถึงวันจริงกลับยกเลิกกะทันหัน งานนี้เลยกลายเป็นที่วิจารณ์กันมากขึ้น ล่าสุดเจอแม็กในงานประกาศรางวัลดาวเมขลา ณ กรมประชาสัมพันธ์ เจ้าตัวเผยว่าตนไม่ได้เตรียมจะแถลงข่าวตั้งแต่แรก และคนที่ออกมาพูดคือคนที่แอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการของตน
“ตอนแรกที่ว่าจะมีการแถลงข่าวแต่ต้องยกเลิกไปเพราะว่ามีคนอ้างตัวเป็นผู้จัดการแม็กครับ เป็นผู้ชาย ซึ่งแม็กจะมีเบอร์ผู้จัดการส่วนตัวอยู่หน้าอินสตาร์แกรมอยู่แล้วว่าถ้ามีงานอะไรติดต่อได้ ซึ่งเป็นผู้หญิงชื่อพี่แหม่ม แต่วันนั้นไม่รู้ว่ามีใครไปบอกว่าจะมีงานแถลงข่าวเกิดขึ้น เพราะวันนั้นผมต้องถ่ายละครครับ ถ้าจะต้องมีการแถลงข่าวมันจะวุ่นวาย กองก็จะถ่ายงานกันไม่ได้ เพราะมีดาราคนอื่นๆ ที่เขามีชื่อเสียงที่ดังกว่า เดี๋ยวจะไปวุ่นวายเขา ซึ่งผมไม่รู้มาก่อนจริงๆ ก็เลยต้องยกเลิกไปครับ”
บอกสาเหตุของข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะงงกับคำสัมภาษณ์ ยืนยันไม่เคยคบไก่มากกว่าเพื่อนร่วมวงการ
“ข่าวที่เกิดขึ้นมันเริ่มจากงานไนน์ เอ็นเตอร์เทนท์ครับ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมีพี่นักข่าวมาสัมภาษณ์ แต่ก็มีพี่นักข่าวเข้ามากลุ่มหนึ่ง สัมภาษณ์ประเด็นว่าเคยคบกับคุณไก่ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้จำเป็นจะต้องตั้งตัวอะไร เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาสัมภาษณ์ พอมีคำถามนี้เกิดขึ้นก็งง ว่ามันมีข่าวนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้สนิทกับพี่ไก่อย่างที่เป็นข่าวออกมาเลย แล้วก็ไม่เคยคบกัน ผมไม่รู้ว่าอาจจะพาดหัวข่าวให้น่าอ่านว่า ยืดอกรับคบแบบไหน แต่มันไม่จำเป็นว่าต้องคบแบบแฟน อาจจะคบแบบเป็นเพื่อนร่วมวงการ แต่ก็ไม่ได้สนิทนะครับ แล้วมาอีกข่าวหนึ่งที่ว่าขึ้นคอนโด ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ก็ปฏิเสธไปแล้วครับ”
“ผมไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องอ้าง หรือไปบอกนักข่าวว่าผมคบกับพี่ไก่ มีนักข่าวเข้ามาถามผม ผมจึงตอบคำถามไปแบบที่เขาถาม แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะจำนวนนักข่าวที่มาวันนั้นแทบไม่มีใครสนใจเราในงานอยู่แล้ว มีแค่ 2-3 คนเองครับที่มาสัมภาษณ์”
โต้เรื่องให้สัมภาษณ์แชตไลน์กับ “ไก่” บอกแค่เข้าไปกดไลท์ในอินสตาแกรม
“บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้เครียดอะไรเลย แต่เกรงใจพี่ไก่มากกว่า แต่ผมยังไม่ได้คุยกับพี่ไก่เลยครับ ผมแค่เข้าไปแอบดูอินสตาร์แกรมเขาว่าพี่เขาโพสต์ยังไง เพราะว่ายังไงเราก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของเขา ผมก็ไม่รู้จะติดต่อพี่ไก่เขายังไง แต่ในข่าวบอกว่าผมติดต่อไลน์กับพี่ไก่ ซึ่งเขาเรียบเรียงคำพูดผิดหรือเปล่า ผมพูดโดยรวมว่าผมไปคอมเมนท์ แอบไปกดไลค์ในอินสตาร์แกรมมากกว่า อย่างที่ผมก็ติดตามพี่ๆ ดาราที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ได้มีอะไรกันครับ”
อ้างที่ให้สัมภาษณ์ว่าเจอ “ไก่” ที่ฟิตเนสเป็นแค่เจอผ่านๆ เท่านั้น
“ส่วนที่ว่าเจอกันในฟิตเนส ตอนนั้นผมก็งงว่าคำถามว่าไปเล่นฟิตเนสด้วยกัน ซึ่งผมให้สัมภาษณ์ไปครั้งแรก ผมจำได้เลยว่า เขาถามว่ารู้จักพี่ไก่ได้ยังไง ผมก็เลยบอกว่าผมเจอพี่ไก่ผ่านๆ ที่ฟิตเนส ซึ่งที่ฟิตเนสก็มีดาราหลายคน แต่เผอิญคำถามเขาถามมาว่าเป็นพี่ไก่ ก็เลยตอบไปว่าเคยเจอพี่ไก่ แล้วก็ทักทายปกติ แต่กลายเป็นว่ามันไปทำให้พี่เขาเสีย”
“ณ วันนี้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงแล้วเขาก็วางตัวมาดีโดยตลอด ผมก็เลยไม่อยากให้คนมองว่า ทำไมผมต้องออกมาประกาศว่าคบกับพี่ไก่ ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนก็ตกใจและงงกันว่าทำไมถึงมาพูดแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงครับ เพราะถ้ามีอะไรคนสนิทใกล้ตัวก็ต้องรู้”
“ผมว่าไม่มีทางที่ใครจะเข้าใจผิด เพราะไม่เคยไปไหนสองต่อสองกับพี่ไก่เลย แต่ถามว่าสนิทกันระดับไหน ก็เหมือนผมรู้จักพี่ดาราสักคนหนึ่งที่เขาแทบจะไม่รู้จักเราน่ะครับ แล้วก็แค่เจอตามงานมากกว่า แต่ที่เห็นโพสต์ต่อจากพี่ไก่ เพราะยอมรับว่าผมเข้าไปดูอินสตาร์แกรมพี่ไก่ แล้วมันก็จริงอย่างที่พี่ไก่พูด ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องไปเขียนเรียงความใหม่ให้มันแตกต่างทำไม ก็คือสิ่งที่เขาบอกว่าไม่ได้คบกันแบบที่เป็นข่าว สองก็คือรู้จักแค่เป็นเพื่อนร่วมงาน ยังไง ณ ตอนนี้ก็สบายใจที่มาสัมภาษณ์วันนี้ ไม่อยากไปสัมภาษณ์หลายที่เพราะถ้าพูดมันก็จะบิดเบือนไป ก็อยากมาพูดให้ฟังพร้อมๆ กันทีเดียวว่ามันไม่มีอะไรเลย ไม่ได้สร้างกระแส เพราะผมกำลังจะมีละครด้วย ผมสงสารพี่ไก่”
กลับลำที่ให้สัมภาษณ์เรื่องเป็นเก้งเป็นเกย์ว่า “ตอนนี้ไม่ อนาคตไม่แน่” นั้น เป็นแค่การพูดล้อเล่น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
“ที่ผมพูดว่า อนาคตไม่แน่ เพราะพี่นักข่าวที่สัมภาษณ์ผมเขาก็ตามอินสตาแกรมผมอยู่ แล้วผมเจอเขาก็หยอกล้อเล่นกันปกติ พอเขามาถามเล่นผมก็ยังบอกเลยว่าไม่แน่ผมอาจจะเป็นแฟนพี่ก็ได้ แล้วพี่เขาก็ให้ผมเต้นให้ดู ก็ยังสนุกสนานกันอยู่ แล้วคุยกันในกลุ่มเล็กๆ ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องอะไรขนาดนี้ แต่สรุปคือผมล้อเล่นกันครับ”
“สร้างกระแสให้ตัวเองเหรอครับ ผมกำลังจะมีละครอยู่แล้ว ถ้าจะสร้างกระแสผมก็เต้นในอินสตาร์แกรมดีกว่า (หัวเราะ) ผมจะเปิดโรงเรียนสอนเต้นด้วย ผมว่าอันนั้นน่าจะสร้างกระแสที่ดูมีอะไรมากกว่าที่จะมาพูดแบบนี้ให้ตัวเองไม่มีพื้นที่อยู่ในวงการบันเทิง กลัวว่ามาพูดแบบนี้ผู้ใหญ่อาจจะไม่ปลื้มได้ว่ามีข่าวแบบนี้ออกมา เราอาจจะไม่มีงานก็ได้ เพราะเราก็โดนมองมาแบบนั้น แต่ทางผู้ใหญ่ไม่มีปัญหาครับ ผมก็เลยโล่งใจ”
ยืนยัน ณ วันนี้ยังชอบผู้หญิง
“ณ วันนี้ผมชอบผู้หญิงอยู่ครับ สักวันหนึ่งพี่ๆ คงเห็น (หัวเราะ) ผมเข้าใจว่าผมเต้น ผมเป็นครูสอนเต้น ก็อาจจะมีสิทธิที่จะแข้งขาอ่อน ตัวอ่อน มันเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อที่เด็กนาฏศิลป์สากลสักคนหนึ่งจะต้องทำ และมันเป็นวิชาที่ต้องทำ อีกอย่างคือผมอาจโดนข่าวนี้มาตั้งแต่สมัยอยู่เดอะสตาร์ (หัวเราะ) ซึ่งผมก็ชินแล้ว ก็ยังยืนยันว่าชอบผู้หญิงครับ ก็คงจะต้องมีแฟนแล้วครับ (หัวเราะ) แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีเลย ทำงานก่อนดีกว่าครับ”
“แต่ก็ต้องเข้าใจว่าผมไม่เคยเจอนักข่าวรุมแบบนี้ ที่ผ่านมาผมก็ทีเล่นทีจริง และเวลาตอบก็คงต้องคิดดีๆ ก่อนพูด เพราะมันมีส่วนออกมาเวลาที่ผมพูดเล่น คือผมเฟรนด์ลี บางทีผมก็อยากจะคุยเล่น อยากจะแหย่ แต่บางครั้งเราก็ต้องคิดดีๆ ก่อนตอบ แล้วก็อย่าพาดพิงถึงใคร ตอนนี้ผมก็อยากให้เกียรติพี่ไก่ ภาษิต ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ก็อยากให้ภาพเขาออกมาสวยงาม คำพูดอะไรที่ผมผิดไปโดยไม่ตั้งใจก็ขอโทษ ณ ที่นี้แล้วกัน”