ฮือฮา “ซี” โชว์เสียวคาอีเวนต์ ใส่ชุดสไปเดอร์แมนรัดเป้าตุงโหนสลิงลงมาจ๊วบปาก “เอมี่” บอกการเป็นสไปเดอร์แมนเป็นความฝันของผู้ชายทุกคน อุบค่าตัว ก่อนยอมรับว่าผิดหวังกับการทำงานละครเรื่อง “พายุเทวดา” แจงตนเต็มที่ก็อยากให้ทุกกระบวนการเต็มที่ด้วย แต่บางอย่างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
ควงคู่กันออกงานอีเวนต์โกยเงินก่อนแต่ง สำหรับ “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” กับแฟนสาว “เอมี่ กลิ่นประทุม” ที่ล่าสุดทั้งคู่มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ “The Amazing Spider-Man 2” ณ เซ็นทรัลคอร์ท ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โดยในงานซีต้องแปลงร่างเป็น “สไปเดอร์แมน” แล้วโหนสลิงลงมาจากความสูงเท่าตึก 5 ชั้น เพื่อลงมาจูบกับเอมี่ ที่มาในบท “เกว็น สเตซี่” งานนี้ทำเอาฮือฮาเพราะนอกจากหลายคนจะหวาดเสียวแทนหนุ่มซีที่ต้องเสี่ยงตายโหนสลิงแล้ว ชุดเจ้ากรรมยังฟิตเปรี๊ยะจนเห็นเป้าตุงทะลุชุดออกมาซะเต็มตาเต็มเลนส์ สอบถามการรับงานครั้งนี้พระเอกหนุ่มก็บอกว่าไม่กลัว เพราะตนเล่นบู๊มาเยอะและผ่านการซ้อมมาอย่างดี พร้อมลั่นค่าตัวไม่สูง แต่การได้เป็นสไปเดอร์แมนเป็นความฝันของผู้ชายทุกคน
ซี : “มันไม่ได้น่ากลัวนะครับ แต่มันน่ากลัวตรงที่มองไม่เห็นครับ ตอนซ้อมเราไม่ได้ใส่หน้ากากก็จะเห็นหมดว่าอยู่ตรงไหน แต่พอโชว์จริงมีสปอร์ตไลท์ส่อง และตาของสไปเดอร์แมนเป็นแม่เหล็ก มีพลาสติกใสแปะ ทำให้เรามองไม่ชัด พอลงมาถึงข้างล่างผมมองไม่เห็นอะไรเลย เห็นเอมี่ลางๆ ด้วย ก็ต้องเดินเข้าไปช้าๆ ระบบเซฟตี้ก็ดีครับ”
“เรื่องกังวลใจไม่ครับ เพราะผมก็มาเช็กหมดแล้วว่าเราใช้อะไร ทีมงานค่อนข้างมืออาชีพมาก ทำมาเยอะแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าเรามีสติกับการทำอะไร ถ้าดูมันก็เสี่ยง ก่อนจะทำคุณเอมี่ก็บอกว่าอย่าทำอะไรเกินตัวนะ เราก็จะคอยมาดูว่าอุปกรณ์เป็นยังไง ทีมงานคือใคร ผมร่วมงานกับใครบ้าง ผมคิดว่าถ้าเราเซฟตี้ดีๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือผมทำอะไรจะรู้ลิมิตตัวเอง คนที่ทำอะไรแล้วไม่รู้ข้อจำกัดตัวเองอันตรายกว่า ค่าตัวไม่สูงหรอกครับ มันคือความฝันของผู้ชายทุกคนครับ”
เอมี่ : “ตอนเขาซ้อมมี่ก็ไม่ได้มาด้วย เขามาคนเดียว เราก็ไม่รู้ว่ามันสูงขนาดนี้ คิดว่านิดหน่อย พอเห็นก็แอบเสียวเหมือนกัน แต่อย่างที่คุณซีบอกเขาจะผ่านเรื่องบู๊ เขาซ้อมหลายรอบแล้ว เราก็รู้สึกว่าถ้าเขาไม่มั่นใจก็จะไม่ทำ จริงๆ งานนี้ติดต่อผ่านมี่ (หัวเราะ) แต่เขาเคยผ่านเรื่องบู๊ เรื่องสลิงมาแล้ว เขาก็จะมีความรู้ด้านนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร คิดว่าเขาทำได้ แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมันสูงกว่าที่คิด ก็หวาดเสียวเหมือนกัน มีหมุนตัวด้วย”
พร้อมเผยความคืบหน้างานแต่งงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ค.ที่จะถึงนี้
เอมี่ : “เรื่อยๆ ค่ะ ก็โอเคสบายๆ ทุกอย่างก็ใกล้จะพร้อมหมดแล้วค่ะ ตอนนี้ก็มีกังวลเรื่องของการแจกการ์ด กลัวไม่ทั่วถึง ช่วงนี้ก็ไล่แจกอยู่ค่ะ”
ซี : “ตอนนี้ก็ร่วมกันแจกการ์ดด้วยกันครับ ส่วนที่เหลือที่ต้องให้คุณเอมี่จัดการเขาก็จัดการหมดแล้ว ส่วนผมเป็นกำลังใจให้เขาอย่างเดียว ผมก็ยังทำงานอยู่ทุกวัน คงรับงานจนวันสุดท้ายถ้าทุกอย่างฟรีคงไม่ต้องรับงานแล้วครับ (หัวเราะ) ผมว่าเรื่องงานในวงการบันเทิงมันเป็นหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวเราสามารถแบ่งแยกกันได้ เรามีความรับผิดชอบในแต่ละเรื่องได้ถ้าเราตั้งใจจริงๆ เรื่องงานเรายังดำเนินต่อไป”
“ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ถ้าอีกสัก 2-3 วันผมว่ามีตื่นเต้นแน่ๆ เพราะเราก็กลัวว่าจะไม่พร้อม ติดขัดอะไรบ้างอย่าง แต่อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเราตั้งใจมีความสุขที่สุดและให้พี่ๆ ทุกคนมีความสุขที่สุด ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องออกมาอลังการงานสร้าง อยากให้งานแต่งเราออกมาเป็นภาพแห่งความทรงจำ ที่มีความสุขจริงๆ”
เอมี่ : “งบการจัดงานครั้งนี้ก็ไม่เยอะๆ พยายามไม่เยอะด้วย เราก็อยากให้งานออกมาดี แต่เราก็เริ่มเสียดาย เราก็อยากจะเอาเงินไปเที่ยวกันมากกว่า ยังต้องสร้างบ้านกันด้วย ก็มีหลายๆ อย่าง”
ด้านหนุ่ม “ซี” เผยกรณีตัดพ้อการทำงานละครเรื่อง “พายุเทวดา” ผลงานชิ้นล่าสุดของตนเองที่เพิ่งจบไปลงอินสตาแกรม โดยบ่นทำนองว่าเหนื่อยเปล่า หลังละครเรื่องดังกล่าวโดนวิจารณ์ว่าซีจีไม่เนียนและหั่นบททิ้งดูจนไม่รู้เรื่อง ซึ่งกับปัญหานี้พระเอกหนุ่มแจงเป็นเรื่องปัญหาการทำงานร่วมกัน ตนไม่ขอลงรายละเอียดในเรื่องราว แค่อยากระบายความรู้สึกของการทำงานในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองบ้าง
ซี : “คนเราก็มีความรู้สึก มันเป็นพื้นที่ของผม คนเราตั้งใจทำงาน ก็ทำให้เต็มที่ บางอย่างพอมันไม่ได้เป็นตามใจเราคิด ตามใจเราต้องการ คนเราก็บ่นบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เราอยู่ในวงการค่อนข้างนาน ผมเต็มที่ทุกงานทั้งละคร หรืองานโชว์ตัว ผมทุ่มเทกับมันมาก บางสิ่งบางอย่างมันไม่เป็นตามที่เราคิด ก็รู้สึกเหนื่อย แต่มันก็แค่นั้นจริงๆ ครับ และมันไม่ใช่โดนหั่นบททิ้งหรอกครับ มันก็คือมันแล้วแต่ แต่ขออนุญาตเป็นเรื่องภายในแล้วกัน คนเราทำงานด้วยกัน จะมีปัญหากันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่อยากให้มองด้านลบอย่างเดียว คนเราทำงานร่วมกันมันมีเถียงกันได้บ้าง ทะเลาะกันได้บ้าง มันเป็นข้อพิสูจน์ว่ากำลังทำงานกันอยู่ การที่ไม่ได้ทะเลาะกันไม่ได้แปลว่าคุณดีกัน คนเรามีเรื่องเถียงกันก็เป็นธรรมดาของคนทำงานเท่านั้นเอง”
“ถามว่ามีเสนอความคิดเห็นไหม เราก็เสนอความคิดเห็นตลอด สำหรับผมเองละครคือประวัติศาสตร์ที่เราได้สร้างศิลปะ เพื่อให้คนดูเก็บไว้ในใจเท่านั้นเอง เมื่อเราทำทุกอย่างเต็มที่เราก็อยากให้ทุกกระบวนการเต็มที่ด้วย เราทำงานไม่อยากเอาเปรียบคนดู ปัญหาในกองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกกองก็มีปัญหาหมด มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่จะร่วมงานกันไม่ได้ เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าผมรู้สึกยังไง แต่ผมก็ไม่เคยมีปัญหากับผู้ใหญ่อยู่แล้ว ถ้าถามว่าผู้ใหญ่จะคิดอะไรไหมผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมก็ทำงานด้วยความเคารพมาโดยตลอด ทั้งนักแสดงและทีมงานด้วยนะครับ ผมไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ละท่านก็ไม่ได้อยู่ขณะทำงาน เราก็รับผิดชอบกันทั้งหมด ถ้าคุณผู้ชมไม่ชอบ แปลว่านักแสดงก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็น้อมรับครับ”
“ทุกบริษัทที่ผลิตละครขึ้นมามันไม่ได้อยู่ที่นักแสดงหรอกว่าจะทำให้ดีแค่ไหน แต่ตัวผมรู้ดีว่าผมทำดีแค่ไหน ผมพยายามสุดตัวในการทำงานรึเปล่า เขาอยากจะพัฒนาหรือไม่ก็แล้วแต่เขา ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับ กับนักแสดงที่ร่วมงานกันด้วยก็คิดไม่ต่างกัน เรามีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว แต่พื้นที่ในไอจีเป็นการพูดความรู้สึกส่วนตัว เราเป็นพี่น้องกันในการทำงาน ทุกคนเหนื่อย ช่วยกันแก้ปัญหา เราก็แค่ลงความรู้สึกอะไร ทุกอย่างมันก็จบไปแล้ว ร่วมงานกันได้ครับ ก็เป็นไปตามกระบวนการเลยครับ”