เคยออกมาประกาศว่าจะบวชนานแบบไม่มีกำหนดจนคนทั่วไปเข้าใจไปว่าวงการบันเทิงไทยได้มอบนักแสดงฝีมือดีอย่าง “เจสัน ยัง” ให้แก่วงการสงฆ์อย่างถาวรไปแล้ว เวลาผ่านไปสองปี จู่ๆ ก็มีคนเห็นหนุ่มหล่อหน้าคล้ายเจสัน ยังปรากฏตัวที่สำนักงานขนส่งปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่คนในขนส่งสังเกตอยู่พักใหญ่จนทนคาใจไม่ไหวเข้าไปสอบถาม หนุ่มคนนั้นก็ยอมรับว่าตนคือ “เจสัน ยัง” ตัวจริงเสียงจริงที่ลาสิกขามาสักพักแล้วมาต่อใบขับขี่ที่นี่ ทำเอาขนส่งฯ ปราณบุรีแทบแตก มีคนเข้าไปขอถ่ายรูปแล้วนำมาโพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กกันกระจาย ท่ามกลางความสงสัยของคนทั่วไปว่าเพราะเหตุใดอดีตนักแสดงชื่อดังที่ทำท่าว่าจะละทางโลกอย่างถาวรถึงขนาดประกาศว่าจะบวชแบบไม่มีกำหนดสึกถึงตัดสินใจสึกเช่นนี้
ลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาสได้เกือบสองเดือนจนผมเริ่มขึ้นแต่คนใกล้ตัวกลับไม่มีใครรู้ จนกระทั่งทิด “เจสัน” มีเหตุต้องไปต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งปราณบุรี เท่านั้นแหละ โลกถึงได้รู้ว่าอดีตนักร้องนักแสดงชื่อดังที่ตัดสินใจละทางโลกไปใช้ชีวิตในทางธรรมโดยการประกาศเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะ “บวชไม่มีกำหนด” จนใครหลายคนพากันเข้าใจไปว่าจะ “บวชไม่สึก” เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีนักแสดงคนไหนที่กำลังอยู่ในช่วงกอบโกยจะกล้าประกาศแบบนี้มาก่อน วันนั้นมีหลายคนสงสัยในการตัดสินใจของเจสันเป็นอย่างมาก
เนื่องจากงานในวงการบันเทิงก็ยังไปได้ดี แถมก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจัดงานหมั้นสุดอลังการกับแฟนสาวนอกวงการ “ดาริกา จาโกต้า” สาวสวยลูกครึ่งอินเดียที่พบรักกันเมื่อตอนไปปฏิบัติธรรม แต่อยู่ดีๆ ก็ออกมาประกาศบวชไม่มีกำหนดสึก ตอนนั้นสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่น้องดาว่าจะคิดเห็นอย่างไร แต่สุดท้ายสาวลูกครึ่งอินเดียที่มีใจใฝ่ธรรมะไม่แพ้เจสันก็พูดชัดถ้อยชัดคำว่าเธอยินดีที่คู่หมั้นหนุ่มจะปวารณาตัวรับใช้พุทธศาสนาเช่นนี้ ทำให้เส้นทางการเดินเข้าสู่โลกแห่งธรรมของเจสันดูจะราบรื่นและแฮปปี้
ตลอดเวลาสองปีที่ครองตัวเป็นพระสงฆ์ พระเจสัน ที่มีชื่อทางธรรมว่า “ปิยาจาโร” ซึ่งแปลว่า ผู้มีมารยาทน่ารัก ฝึกปฏิบัติและเผยแผ่พุทธศาสนาด้วยดีมาตลอด เป็นส่วนหนึ่งของการเผยแผ่พุทธศาสนาร่วมกันกับพระชื่อดัง “ว. วชิรเมธี” ระยะแรกพระเจสันพำนักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอกตั้งใจฝึกปฏิบัติอย่างจริงจัง ร่วมเรียนสมาธิชั้นสูงกับหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร ณ วัดธรรมมงคล ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการสอนวิชาสมาธิ หลังจากนั้นพระเจสันก็บินลัดฟ้าไปพำนักที่วัดญาณประทีป เมืองโอกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์เพื่อเผยแผ่ศาสนาให้แก่ชาวพุทธที่นั่น
พระเจสันเคยออกมากล่าวถึงการบวชของตัวเองว่าท่านขอสรรเสริญความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของอดีตคู่หมั้น “ดาริกา จาโกต้า” และครอบครัวที่ยอมสละความสุขทางโลกเพื่อรักษาพระธรรมซึ่งยิ่งใหญ่กว่า เพราะท่านตระหนักดีว่าฝ่ายหญิงและครอบครัวย่อมจะได้รับผลกระทบทางโลกไม่มากก็น้อยจากการประกาศบวชไม่มีกำหนดสึกของท่านเช่นนี้ ท่ามกลางเสียงเล่าลือว่าสาเหตุที่แท้จริงของการหันหน้าเข้าหาพระธรรมของพระเจสันอาจจะเกี่ยวข้องกับการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากจัดงานหมั้นอย่างเป็นทางการไปแล้วก็เป็นได้
แต่สาเหตุหลักๆที่ทำให้ “เจสัน ยัง” ตัดสินใจเดินหน้าเข้าศึกษาพระธรรมอย่างจริงจังนั้นมาจากการที่เจ้าตัวสนใจใฝ่ธรรมมานานแล้ว เมื่อประสบกับปัญหารุมเร้าเรื่องที่คุณแม่บังเกิดเกล้า “ลัดดา ประดิษฐศิลป์” ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ไตวาย และเส้นเลือดในสมองตีบ มานานหลายปี ช่วงนั้นเจสันเป็นทุกข์อย่างมากจนต้องพึ่งธรรมะในการสงบจิตสงบใจ ที่เขาฝึกเรียนสมาธิและปฏิบัติอย่างจริงจังก็เพื่อจะภาวนาให้คุณแม่หายจากอาการเหล่านั้นโดยเร็ว เนื่องจากพระอาจารย์ทองสุก ที่ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน ถ้ำพระผาคอก จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นครูสมาธิคนแรกของเจสันบอกกับเขาว่าให้ทำหน้าที่ขณะทำสมาธิให้ดีที่สุด ถ้าฟุ้งซ่านคุณแม่จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ช่วงนั้นเจสันทำสมาธิทุกวัน งดเว้นจากเนื้อสัตว์สุรา และยังถือศีลห้าอีกด้วย
ผลบุญที่เจสันปฏิบัติธรรมส่งให้คุณแม่ลัดดาอยู่ต่อได้อีกสามเดือน หลังจากที่ป่วยหนักเข้าขั้นโคม่า หลังจากผ่านช่วงเวลาสามเดือนนั้นคุณแม่ลัดดาก็เสียชีวิต คนใกล้ตัวบอกว่าเจสันเศร้ามากจนพึ่งธรรมะมากขึ้นจนลงลึก ซึ่งการเข้าไปศึกษาธรรมะอย่างลงลึกในครั้งนี้เองที่ทำให้เจสันพบกับ “ดาริกา”
เจสันคบหากับดาริกานานสองปีเต็มก่อนที่จะจัดงานหมั้นอย่างอลังการในพิธีที่ผสมผสานวัฒนธรรม ไทย - อินเดียเอาไว้อย่างลงตัวเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 วันนั้นฝั่งเจสันมี “นพพล โกมารชุน - ปรียานุช ปานประดับ” ซึ่งเป็นพ่อแม่บุญธรรมของเจสันรับหน้าที่พ่อแม่ฝ่ายชาย เจสันยอมรับว่าน้องดาเป็นคนที่สนใจและปฏิบัติธรรมเหมือนกันทำให้เข้าใจกันและพูดคุยกันได้ดี ซึ่งหลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนเขาจะเข้าพิธีอุปสมบท ก่อนที่จะจัดพิธีมงคลสมรสต่อไป
แต่แล้วเมื่อถึงวันที่จัดพิธีอุปสมบทจริง จู่ๆ เจสันก็ประกาศว่าการบวชครั้งนี้จะเป็นการบวชแบบไม่มีกำหนดสึก ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องดาจะต้องสละเจสันให้แก่วงการสงฆ์ ฝ่ายดาริกาแม้จะอึ้งๆ งงๆ แต่ก็พูดจากหัวใจว่าเธอยินดีต่อการตัดสินใจของเจสัน โดยเธอบอกว่า “เรารู้จักกันเพราะธรรมะ และก็จะแยกจากกันเพราะธรรมะ” ถือเป็นการจากกันด้วยดีของคนทั้งคู่
จนกระทั่งถึงวันที่พระเจสันลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาสเช่นนี้ ดาริกา ในฐานะอดีตคู่หมั้นกลับเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ช้ากว่าคนอื่นๆ เนื่องจากก่อนสึก พระเจสันไม่เคยส่งข่าวคราวว่าจะลาสิกขา โดยดาริกาเองก็ยืนยันว่าเธอไม่ได้ติดต่อกับพระเจสันเลยตลอดเวลาสองปีเต็มที่พระเจสันอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ การสึกของพระเจสันเมื่อสองเดือนก่อนที่เพิ่งจะเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อสัปดาห์ก่อนจึงเป็นเรื่องที่ทำให้เธอตกใจอยู่พอสมควรเนื่องจากทีแรกเธอคิดว่าอดีตคู่หมั้นจะใช้ชีวิตในสมณเพศยาวนานกว่านี้
อดีตคู่หมั้นไม่รู้อาจจะไม่แปลก ที่แปลกก็คือคนที่เจสันนับถือเป็นพ่อแม่บุญธรรมอย่าง “นพพล-ปรียานุช” ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้เช่นกัน ทั้งคู่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของเจสัน
การตัดสินใจลาสิกขากลับมาเป็นฆราวาสของเจสันจึงยังคงเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ จริงอยู่ที่การสึกโดยสมัครใจไร้การประพฤติผิดของสงฆ์เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่หลายต่อหลายคนก็ยังคาใจเพราะทีแรกเจ้าตัวมีทีท่าทีมุ่งมั่นจริงจังว่าจะบวชยาวนานจนใช้คำว่า “ไม่มีกำหนดสึก” ซึ่งเมื่อไปถามเจสัน ณ วันนี้ ทิดเจสันก็บอกว่าเขาไม่เคยพูดว่าจะ “ไม่สึก” ซึ่งก็ถือว่าไม่มีอะไรผิดแปลก แต่ที่สังคมยังคาใจเพราะกลัวว่าจะเกิดกรณี “มิตซูโอะสอง” บทจะบวชก็บวชอย่างมุ่งมั่น ครั้นจะสึกก็สึกออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แถมยังซุ่มเงียบไม่บอกใคร งานนี้หลายคนจับตามองว่าโอกาสที่เจสันจะหวนกลับคืนสู่วงการบันเทิงมีสูง ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าตัวคงต้องชี้แจงแถลงไขให้กระจ่างชัดเสียก่อนว่าเหตุที่ลาสิกขาออกมาเช่นนี้นั้นเป็นไปด้วยความปกติ ไม่มีเหตุอะไรให้สังคมคลางแคลงใจหรือถกเถียงกันไม่รู้จบเหมือนกรณีของทิดมิตซูโอะนั่นเอง
เรื่องราวเสียงเล่าจากปราณบุรี และเชียงใหม่ ยืนยันว่าเรื่องราวและข้อสงสัยเจสัน ยัง จะออกมาแถลงด้วยตัวเองในเร็ววันนี้ แต่ด้วยกิริยาท่าที ที่ดูไม่เงียบขรึม และแปลกตาไปของเจสัน ยัง นอกจากรูปร่างที่อวบขึ้น หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบานกว่าปกติ อาจทำให้เกิดข้อสงสัยมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับทิดเจสันกันแน่กับกับสึกจากการเป็นพระรอบนี้ และจะเกี่ยวกับข่าวลือ เรื่องหายมาจากวัดพร้อมสตรีนางหนึ่งที่วัดทางเหนือจริงหรือไม่ ยังคงรอคำตอบจากเจสัน ในวัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นกัน.
............................................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์ ฉบับที่ 225 วันที่ 25-31 มกราคม 2557