เป็นข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย สำหรับเรื่องราวการถอนหมั้นของอดีตนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “เจสัน ยัง” ซึ่งขณะนี้กลายเป็น “พระเจสัน ปิยาจาโร” กับ “ดาริกา จาโกต้า” อดีตแฟนสาววัย 26 ปี เพราะประสงค์จะครองสมณเพศต่อไป อย่างไม่มีกำหนด เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
• “แม่” ต้นทางสายธรรมของ “พระเจสัน”
การเริ่มต้นบนเส้นทางสายธรรมของพระเจสันนั้น เริ่มต้นมาตั้งแต่เล็ก ด้วยผู้เป็นมารดาจะพาเข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ และวัดที่พาไปเป็นประจำก็คือ วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร อยู่ที่สุขุมวิท 101 มีพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งแม่จะพาพระเจสันไปกราบสนทนาธรรมกับหลวงพ่อทุกครั้ง
ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ถูกบ่มเพาะและงอกงามขึ้นในจิตใจของพระเจสันเรื่อยมา ประกอบกับความผูกพันกับหลวงพ่อวิริยังค์ ทำให้พระเจสันเลือกวัดธรรมมงคลเป็นสถานที่อุปสมบท เพื่อแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2555
“สาเหตุที่เลือกบวชวัดนี้ เพราะผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ และคุณแม่ชอบพามาทำบุญที่นี่เป็นประจำก่อนที่ท่านจะจากไป” พระเจสันบอกในวันอุปสมบท
และหลังอุปสมบทพระเจสันได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าห้วยส้มสุก อ.เเม่ริม จ.เชียงใหม่
• ละทางโลก เริ่มทางธรรม
ก่อนที่จะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ พระเจสันได้ฝึกหัดปฏิบัติธรรมทำสมาธิมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเวลานี้ได้มีโอกาสพบ “ดาริกา จาโกต้า” หญิงสาวชาวไทยเชื้อสายอินเดีย ซึ่งมาปฏิบัติธรรมเช่นเดียวกัน ด้วยอุปนิสัยที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่คบหากันเรื่อยมา กระทั่งตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และได้ทำพิธีหมั้นหมายเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2555
แต่ก่อนที่จะแต่งงาน พระเจสันได้ขอบวชหนึ่งเดือน เพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีกำหนดลาสิกขาวันที่ 3 พฤษภาคม แต่ความซาบซึ้งในรสพระธรรม ทำให้พระเจสันปรารถนาที่จะศึกษาธรรมต่อไปโดยไม่มีกำหนด จนนำมาสู่การประกาศถอนหมั้นในวันที่ 27 มิถุนายน 2555
“ดาริกา” อดีตคู่หมั้นของพระเจสัน ได้ออกมาแถลงข่าวเรื่องนี้ว่า ตอนแรกรู้สึกตกใจที่ได้ฟังว่า พระเจสันจะศึกษาธรรมต่อไปโดยไม่มีกำหนดลาสิกขา แต่เมื่อมีการพูดคุยกันหลายครั้ง ก็ทำให้ตั้งสติได้ ทำจิตให้เป็นกุศลก็จะรู้ว่า ทางธรรมเป็นทางที่ขาวสะอาด ไม่มีอะไรเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี
“รู้สึกว่าความสุขแบบนี้เป็นความสุขแบบลึกซึ้งจริงๆ ท่านเองท่านอยากสืบทอดพระพุทธศาสนา ซึ่งท่านก็ได้ขอโทษทุกคนทั้งดิฉันและพ่อแม่ ที่ท่านไม่สามารถทำได้ตามสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะสึกออกมาแล้วจะแต่งงาน ซึ่งเรื่องที่ท่านทำ ดิฉันและทุกๆ คนเห็นว่าไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครจะคิดได้แบบนี้ ท่านเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมแบบจริงจัง จึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องส่งเสริม การที่ดิฉันยอมถอนหมั้นถือว่าเป็นการได้ทำบุญอย่างหนึ่ง เป็นโอกาสที่จะได้ทำบุญใหญ่ เสียสละเพื่อพระพุทธศาสนา เพราะจากนี้ไปท่านก็จะได้สอนคนได้อีกมากมาย ทำให้เราได้บุญไปด้วย”
ดาริกาย้ำว่าพระเจสันเป็นคนที่ทำอะไรทำจริง ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ การถอนหมั้นจะทำให้พระเจสันได้ปฏิบัติธรรมอย่างสบายใจ
“ความรักของเราเริ่มต้นมาจากธรรมะ และจบลงด้วยธรรมะเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ แต่เราก็ยังเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน”
• แถลงการณ์พระเจสันบอกความศรัทธา
จะอยู่ในสมณเพศต่อไปไม่มีกำหนด
ในวันที่อดีตคู่หมั้นสาวแถลงข่าวเรื่องการถอนหมั้นนั้น พระเจสันได้ส่งแถลงการณ์ย้ำถึงเจตนาในความตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
“อาตมา พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) ขอประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า หลังจากที่อาตมาได้เข้ามาสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ที่ได้ล่วงลับไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เม.ย. อาตมาได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติทำวัตรและรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อยู่มาได้เกิดความซาบซึ้ง เลื่อมใส และศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงมีความประสงค์ที่จะอยู่ในสมณเพศต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
อาตมาจึงขอโอกาสนี้ยกย่องสรรเสริญความเสียสละอันยิ่งใหญ่ และจิตใจอันประเสริฐยิ่งของโยมดาริกาและครอบครัวจาโกต้า ที่ไม่ขัดข้อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากทางโลกอยู่บ้าง แต่ทางโยมดาริกาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อรักษาธรรมที่ยิ่งใหญ่กว่า และร่วมอนุโมทนาบุญกับอาตมา
ขณะนี้อาตมา กำลังศึกษาวิชาสมาธิชั้นสูง รุ่นที่ 1 ร่วมกับพระสงฆ์ครูสมาธิ นักวิชาการจากทั่วประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมืองรวมกว่า 1,500 ชีวิต ณ วัดธรรมมงคล โดยมีพระธรรมมงคลญาณ หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เป็นอาจารย์ผู้สอนหลักสูตรด้วยตัวท่านเอง และหลังจากจบหลักสูตรประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้ อาตมาจะเดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอดแมนตั้น ประเทศแคนาดา....”
• หลวงพ่อวิริยังค์ย้ำ
พระเจสันเดินมาถูกทางแล้ว
หลวงพ่อวิริยังค์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องพระเจสัน ว่า “ธรรมมีอย่างต่ำ มีอย่างกลาง และก็มีอย่างสูง เวลานี้พระเจสันก็มาเห็นธรรมอย่างสูงแล้ว ก็มองเห็นว่าส่วนต่างๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะฉะนั้นชีวิตที่มีอยู่นี้ ต้องการอยากจะทำให้มีดวงตาเห็นธรรมสูงยิ่งขึ้นไป จนกว่าจะพ้นทุกข์ อย่างนี้เป็นต้น อันนี้ถือว่าพระเจสันเดินมาถูกทางแล้ว”
และความที่พระเจสันพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง จึงเป็นเหตุให้หลวงพ่อวิริยังค์คิดพาพระเจสันไปเผยแผ่ธรรมที่ต่างแดน
“พระเจสันพูดภาษาอังกฤษเก่ง และก็เมื่อปฏิบัติธรรมแล้ว มองเห็นธรรมแล้ว ก็จะสามารถพูดเป็นภาษาอังกฤษให้พวกชาวแคนาดาฟังได้ ก็เป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาไปในตัว”
โดยพระเจสันได้เข้าเรียนหลักสูตรครูสมาธิภาคภาษาอังกฤษ ที่สถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล ด้วย
• มุ่งมั่นปฏิบัติธรรม สั่งสมพลังจิต
พระเจสันได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ถึงการตัดสินใจครองสมณเพศอย่างไม่มีกำหนดว่า
“เนื่องจากอาตมาได้ทำสมาธิอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ อาจจะเป็นด้วยวาสนา ด้วยบุญเก่า หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ ทำให้มีความรู้สึกอยากจะดำเนินชีวิตอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์นี้ต่อไป ไม่มีกำหนด ไม่มีกำหนดนั้นหมายถึงอยู่ไปเรื่อยๆ แต่อยู่ให้มีคุณภาพในสมณเพศ และก็ต้องรักษาศีล รักษาพระวินัย ปฏิบัติครูบาอาจารย์ให้ดี และก็ทำสมาธิอย่างต่อเนื่อง อนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต เราก็ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด”
และพระเจสันยังได้พูดถึงเรื่องการปฏิบัติสมาธิว่าเป็นสิ่งดีที่ทุกคนทำได้
“การทำสมาธิต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทำๆ หยุดๆ มันไม่เกิดผล ผลที่ได้รับก็ไม่เต็มประสิทธิภาพ สมาธิที่ทำอย่างต่อเนื่องก็ต้องเป็นสมาธิที่ถูกต้องด้วย ที่เรียกว่า สัมมาสมาธิ เมื่อทำสมาธิที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง พลังจิตก็เกิดขึ้น และก็เป็นพลังจิตที่สมบูรณ์ เมื่อพลังจิตเกิดขึ้นสมบูรณ์ ก็จะเกิดความอบอุ่นความซาบซึ้ง ความแข็งแกร่ง ตรงนี้ จะทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งทุกๆคนทำได้”
เมื่อถูกถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติสมาธิของพระเจสัน ที่ทำให้รู้สึกว่ายังอยากดำรงสมณเพศอยู่นั้น ท่านบอกว่า เป็นเรื่องที่ตอบยาก
“บาลีท่านกล่าวไว้ว่า เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ก็เป็นสิ่งที่บอกกับผู้อื่นให้มาปฏิบัติ สิ่งที่ดีก็มาปฏิบัติกันเถอะ และเราก็น้อมเข้ามาใส่ตัว เมื่อเราปฏิบัติแล้ว เราก็จะรู้ได้เฉพาะตน สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลังจิตที่เกิดขึ้น ความอบอุ่น ความซาบซึ้ง ความแข็งแกร่ง ความพัฒนา จิตใจของเราได้ยกระดับขึ้น จากเดิมอยู่ระดับนี้ เราได้ยกระดับขึ้นมาระดับนี้ เพราะการทำสมาธิที่ถูกต้องและต่อเนื่องนั่นเอง”
พระเจสัน ปิยาจาโร
พระเจสัน ปิยาจาโร เกิดวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2523 สัญชาติไทย เชื้อชาติออสเตรเลีย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ จาก Columbia College-Hollywood ประเทศ สหรัฐอเมริกา ผลงานชิ้นแรกที่เข้าสู่วงการบันเทิงคือ การถ่ายแฟชั่นนิตยสาร จากนั้นได้ก้าวสู่การเป็นนักร้องและออกอัลบั้มในปี 2538 และปี 2539 รวมทั้งมีผลงานการแสดงละครและภาพยนตร์มากมาย
เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการอุปสมบทที่วัดธรรมมงคล เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2555 ได้ฉายาว่า “ปิยาจาโร” แปลว่า ผู้มีมารยาทน่ารัก
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 140 สิงหาคม 2555 โดย กองบรรณาธิการ)