เป็นอันงงเมื่อจู่ๆ “อาร์ต พศุฒน์” ก็ออกมายอมรับว่า คลิปเสียงที่ “น้ำฝน พัชรินทร์” ไปยุ่งกับแฟนชาวบ้านเป็นของจริง ทั้งๆ ที่ฝนยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรด้วยซ้ำ พร้อมเผยความสัมพันธ์ตอนนี้ถอยมาคนละก้าว
หลังจากที่มีข่าวว่า “อาร์ต พศุฒน์ บานแย้ม” ทะเลาะกับ “น้ำฝน พัชรินทร์ จัดกระบวนพล” แฟนสาว เพราะไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงตามเช็กโทรศัพท์ จนเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่เลิกรากันแล้ว แต่ล่าสุดกลับมีคลิปเสียงซึ่งคล้ายเสียงของน้ำฝนระบาดไปทั่ว ซึ่งเป็นคลิปการสนทนาระหว่างฝนกับผู้หญิงคนหนึ่ง โดยฝนขอโทษที่ทำผิดไปแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งกับแฟนผู้หญิงคนดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังโดนคู่กรณีต่อว่าดังนี้
“ฝนขอโทษด้วยนะคะในสิ่งที่ทำลงไป คือฝนผิดเอง ฝนยอมรับในสิ่งที่ฝนผิดน่ะค่ะ แล้วก็เออ...ก็ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปน่ะค่ะ แล้วก็จะบอกว่าเลิกยุ่งแล้วแน่นอนนะคะไม่มีอะไรแล้วแน่นอน คือตอนนั้นมันเป็นแค่มันเกิดขึ้นได้ไงไม่รู้ ฝนขอโทษจริงๆ”
“โอะ..ทำไมพูดเป็นเรื่องตลกเลยเนอะ เหมือนขอโทษแล้วมันหาย คือตัวเองก็มีแฟนไม่ใช่เหรอก็น่าจะรู้ว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง ทำไมถึงทำ”
งานนี้ฝนยังไม่ทันจะได้ตอบคำถาม อาร์ตก็ได้มาร่วมงาน The Rink x'mas on ice at centralworld และดันมาตอบยืนยันซะเองว่าคลิปดังกล่าวเป็นของฝนจริง และขอให้ฝนออกมาตอบคำถามเหล่านี้เอง
“คือเรื่องนี้ผมรู้มานานแล้วนะผมขออนุญาตไม่ตอบเรื่องนี้นะครับ เพราะว่าเดี๋ยวไม่กี่วันน้องเขาจะมาออกสื่อให้น้องเขาตอบเองดีกว่านะครับ ผมไม่อยากตอบเรื่องนี้ผมรู้เรื่องนี้อยู่แล้วครับ ผมได้ฟังแล้วแต่ยังฟังไม่หมดครับเพราะผมไม่อยากรู้ ถามว่าเป็นเสียงน้ำฝนหรือเปล่า ก็รู้อยู่แล้วครับว่าเป็นเสียงน้องเขาก็มาพูดให้เราฟังแล้ว รอให้น้องมาตอบเองดีกว่าเรื่องนี้นะครับ (คลิปเสียงกระทบความรู้สึกไหม) สำหรับผมเหรอครับขอไปฟังเต็มๆ แล้วเดี๋ยวผมจะกลับมาให้สัมภาษณ์เลยดีกว่า”
“สำหรับข่าวเลิกกับน้ำฝนตอนนี้ก็มีพ่อแง่แม่งอนกันบ้างนะครับ แต่ถ้าถามว่า ไม่ได้เลิกกันอย่างที่เป็นข่าวใช่ไหม ก็อาจจะมีบางคนเข้าใจผมว่าผมงอนเรื่องโทรศัพท์ แต่จริงๆ มันไม่ใช่แต่มันเป็นเรื่องที่แบบว่าเขาถึงไหนทำไมไม่โทรบอกสักที ถึงไหนไม่โทร.มาบอกทำอะไรไม่โทรมาบอกประมาณนี้มากกว่า ง้อไหมก็ไม่ได้ง้อนะครับ แต่ว่าก็ยังคุยกันอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนตัดสินใจจะห่างแล้วมาปรับจูนกันใหม่ เรื่องแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังอยู่แล้วครับ ก็ต้องตกลงกันทั้งสองฝ่ายอยู่แล้วครับ (แต่ถอยจากคำว่าแฟนออกมาก่อน) นิดหนึ่งๆ ครับก็ยังเป็นคนรักกันอยู่เหมือนเดิมครับ”
“ตอนนี้ก็ยังคุยกันครับ เหมือนว่าตอนนี้เราถอยกันคนละก้าวมากกว่าเพื่อพยายามไปปรับตัวได้ไหม คือมันเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบมากที่ไม่ใช้คำว่าแฟนเหมือนเดิมเพราะว่าผมอยากจะใช้แฟนจริงๆ ก็คือต่างคนต่างปรับนิสัย อย่างผมผมจะชอบขี่มอเตอร์ไซค์และผมจะชอบไปหลายๆ วัน เขาก็อาจจะไม่ชอบบ้าง แต่อย่างเขาก็จะเป็นเรื่องไปถึงไหนทำอะไรโทรไปไม่รับโทรมาหาถึงไหนไม่รับมากกว่า”