กันตนาโชว์โง่จนขายขี้หน้าไปทั่วประเทศเมื่อปล่อยฉากที่ควรจะมี CG แต่กลับไร้ CG ของละครธิดาพญายมออกอากาศหน้าตาเฉย ทำให้คนดูได้เห็นงานกากๆ ซึ่งมีทั้งฉากเบ่งพลัง แต่กลับไม่มีลูกพลังเหมือนอย่างที่เคยบนฝ่ามือของตัวละคร ฉากถือธนูไฟ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวละครกำลังทำท่าคล้ายถือธนูอยู่ แต่ไม่มีอะไรในมือทั้งสองข้าง ฉากสู้กันด้วยดาบเลเซอร์ที่กลายเป็นการรบด้วยท่อน้ำ และอีกสารพัดฉากที่ไร้ CG แถมยังเผยให้เห็นบลูสกรีนและฉากหลังแบบไม่น่าให้อภัย งานนี้แฟนละครรุมประณามเพราะยากที่จะให้อภัย บอกกันตนาเป็นบริษัทใหญ่แถมมีแผนกสำหรับ CG เป็นของตัวเอง ก่อนจะโยงไปถึงคุณภาพในการทำละครของช่อง 7 สีในยุคหลังที่ทุกเสียงเห็นพ้องกันว่า “ห่วยลงทุกที”
แม้ว่าบอสใหญ่กันตนา “ตุ๊กตา จิตรลดา ดิษยนันทน์” จะออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นผ่านทางอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอด้วยการโพสต์ภาพการ์ตูนคนก้มลงกราบและบอกขอโทษพร้อมยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคลื่นมหาชนก็ยังคงไม่อาจจะ “ยกโทษ” ให้กับความผิดครั้งนี้ได้ง่ายๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขอโทษของตุ๊กตามีน้ำเสียงของการแก้ตัวและแถไถข้างๆ คูๆ มากกว่าที่จะยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทอย่างแท้จริง
“ขออภัยจริงๆ ทำไม่มันจริงๆ อาจจะมีหลุดบ้างพลาดบ้างข้าพเจ้าขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เสียใจจริงๆ” คือประโยคแรกที่ตุ๊กตาโพสต์เอาไว้ ก่อนจะชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่าปัญหาเกิดขึ้นในตอนที่กำลังนำภาพทั้งหมดลงเทปเพื่อจะนำไปส่งช่องสำหรับออกอากาศ ตุ๊กตาบอกว่าสำหรับละครที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก(CG)ทั่วไปนิยมใช้ CG 100 - 200 ภาพต่อ 1 ตอน ละครเสือสั่งฟ้าที่กันตนาเคยทำมี CG เยอะที่สุดคือ 300 ภาพต่อ 1 ตอน แต่ละครธิดาพญายมเรื่องนี้ใช้ CG ปริมาณมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ 600 ภาพต่อ 1 ตอน โดยเฉพาะในตอนอวสานที่เป็นปัญหาซึ่งใช้ CG สูงถึง 1,213 ภาพเลยทีเดียว
เมื่อใช้จำนวน CG เยอะขนาดนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เวลาที่ยาวนานมากสำหรับการนำภาพทั้งหมดลงเทป โดยตุ๊กตาชี้แจงว่าสำหรับตอนอวสานนี้ต้องใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งทางกันตนาก็ได้ระดมพนักงานมาเพิ่มเพื่อทำ CG และนำภาพทั้งหมดลงเทปเพื่อจะนำไปออกอากาศ แต่เมื่อถึงเวลานำภาพลงเทปจริง ฮาร์ดดิสก์กลับมีปัญหา โดยเกิดเสียงดังและดับไป ทำให้ไม่สามารถนำภาพลงเทปได้ทัน ทางผู้บริหารกันตนาพิจารณาแล้วว่าถ้าละครไม่ได้ออกอากาศจะมีปัญหามากกว่าจึงตัดสินใจนำเทปสำรองซึ่งมีการทำ CG คร่าวๆ ไปออกอากาศแทน
นั่นจึงเป็นที่มาของภาพ CG กากๆ รวมทั้งภาพหลุดที่ไร้ CG จำนวนมากซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เป็นมืออาชีพของกันตนาและหมายรวมไปถึงความไม่มีระบบของช่อง 7 ซึ่งเป็นต้นสังกัดเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็มีคนที่ใช้ชื่อในเฟซว่า boy_boy ออกมาอ้างว่าตัวเองเป็นหนึ่งในทีมงานที่ตัดต่อละครเรื่องนี้ โดยเขาชี้แจงว่าความผิดครั้งนี้เกิดจากเหตุที่สุดวิสัยจริงๆ
“ผมขออธิบายเรื่อง 8 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงที่อาจจะยังไม่เข้าใจนะครับ 8 ชั่วโมงใช้เรนเดอร์งาน ไฟล์ระบบ HD เป็นไฟล์ขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลา Import ลงเครื่องตัดอีก 2 ชั่วโมง ทำการวางบนไทม์ไลน์อีกกว่าชั่วโมง ลงเทปอีก 2 ชั่วโมง ห้องตัดเราอยู่นครปฐม เราสางเทปที่ช่อง 7 ไม่ทันแน่ๆ ครับถ้าเรารอ และทั้งนี้ทั้งผมและทีมงานก็รู้สึกอยู่มากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเราทุกคนตั้งใจทำงาน ไม่มีเจตนาจะปล่อยงานไปแบบนั้น มันไม่ทันจริงๆ พวกเราไม่ได้ดูถูกงาน ดูถูกคนดู คำนี้ทำให้รู้สึกแย่”
ประเด็นสำคัญที่คนดูสนใจมากที่สุดก็คือคำแก้ตัวของกันตนาไม่ได้ทำให้ความผิดพลาดในครั้งนี้น่าให้อภัยมากขึ้นเลย ตรงกันข้ามมันกลับยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของบริษัทที่มีขนาดใหญ่แถมยังมีแผนกคอมพิวเตอร์กราฟิกและเปิดสถาบันสอนคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นเรื่องเป็นราวแห่งนี้ เพราะการบอกว่า “ทำไม่ทัน” เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะกันตนาเป็นคนเลือกที่จะผลิตละครที่เต็มไปด้วย CG เรื่องนี้เอง แถมยังมีแผนก CG และโรงเรียนสอน CG เป็นของตัวเองซึ่งแปลว่ากันตนาย่อมมั่นใจในฝีมือการทำ CG ของตัวเองในระดับหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้ละครเสือสมิงที่กันตนาภาคภูมิใจจะโดนนำไปล้อเลียนในทำนองดูถูกฉาก CG จนกลายเป็นหนึ่งในละครกากๆ แห่งปี(เพราะฉาก CG)ไปแล้วก็ตาม
หลายคนสงสัยว่าบริษัทที่เรียกตัวเองว่าเป็นบริษัทมหาชน มีหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหลายแผนก หลายองค์กรแยกย่อยขนาดกันตนาไม่น่าจะมาตกม้าตายในเรื่องแค่นี้ การที่ฮาร์ดดิสก์พังอาจจะเป็นข้อแก้ตัวสำหรับคนทำงานสมัครเล่นได้ แต่สำหรับกันตนา มันยากที่จะเชื่อว่าไม่มีระบบสำรองข้อมูล ตลอดจนไม่มีการเตรียมงานล่วงหน้า เพราะใครๆ ก็รู้ว่าละครธิดาพญายมปิดกล้องไปนานแล้วไม่ใช่ละครที่ถ่ายไปออนแอร์ไปเหมือนเรื่องอื่นๆ ของช่อง 7
แต่ก็มีบางเสียงที่บอกว่าความผิดในครั้งนี้ของกันตนาอาจจะใหญ่จริง แต่ที่ผ่านมาภาพ CG ในละครธิดาพญายมก็จัดอยู่ในขั้นที่ดีมาตลอด ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูจะพบว่าหากไม่พลาดในตอนอวสานก็อาจจะถือว่าธิดาพญายมเป็นหนึ่งในละครขาย CG ที่ดีเรื่องหนึ่งของกันตนาเลยทีเดียว
กระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการวิจารณ์ที่ตัวบริษัทแต่เพียงอย่างเดียวเริ่มโยงไปสู่ระบบการทำงานละครของช่อง 7 ที่รู้กันดีว่านิยมผลิตละครแบบ “ถ่ายไป ออนแอร์ไป” มาโดยตลอด โดยดูที่เรตติ้งเป็นหลักว่าจะขยับหรือไม่ ถ้าเรตติ้งดีช่อง 7 ก็มีนโยบายยืดตอนออกไปเพื่อรับสปอนเซอร์ และด้วยวิธีการนี้ทำให้นักแสดงในสังกัดต้องสแตนด์บายตัวเองไว้ตลอด นักแสดงหลายคนไม่สามารถแพลนงานตัวเองล่วงหน้าได้ และมีอีกมากที่มีสภาพไม่ต่างจากผีดิบหลังจากถ่ายละครเรื่องหนึ่งเสร็จ
ในมุมของผู้บริโภคงานที่ถ่ายไปออนแอร์ไปก็ย่อมจะได้มาซึ่งผลงานที่คุณภาพต่ำเพราะต้องเร่งถ่ายให้ทันกับการออกอากาศไม่ได้ค่อยๆ ถ่าย ค่อยๆ ผลิตเก็บเอาไว้ออกอากาศในเวลาที่เหมาะสม และด้วยเหตุที่ความผิดพลาดของกันตนาเป็นเหตุให้ช่อง 7 ซึ่งกำลังเข้าร่วมการประมูล TV Digital ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจึงทำให้ช่อง 7 เรียกผู้บริหารของค่ายกันตนาเข้ามาชี้แจงแล้ว
ความผิดพลาดในครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนราคาแพงของกันตนา เพราะการประกาศและกล้าหาญมาทำละครที่ใช้ CG ในบ้านเรานั้นถือว่าค่อนข้างใหม่และต้องใช้งบประมาณรวมถึงบุคลากรที่มีคุณภาพสูง แต่ความผิดพลาดในการแพร่ภาพละครที่ CG หายเช่นนี้ถือเป็นความผิดครั้งที่หนึ่ง ความผิดครั้งที่สองที่น่าจะถือว่าเป็นความผิดที่แท้จริงของกันตนาคือการโทษฮาร์ดดิสก์ เพราะผู้ชมทุกคนที่เฝ้ารอการรับผิดชอบและการแก้ไขปัญหาของบริษัทมหาชนแห่งนี้อยู่ต่างก็ผิดหวังไปตามๆ กันเมื่อได้อ่านคำ “แก้ตัว” ของบอสใหญ่กันตนา คงต้องจับตาดูกันต่อไปแล้วล่ะว่างานนี้บอสใหญ่ช่อง 7 จะมีวิธีเรียกศรัทธาแฟนละครช่อง 7 กลับคืนมาอย่างไร
...............................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 213 วันที่ 2-8 พฤศจิกายน 2556