“โอบาบียี ไอชาห์ อาจีโบลา” สาวงามจากไนจีเรียวัย 21 ปี คว้ามงกุฎครองตำแหน่งมิสเวิลด์มุสลิม ซึ่งจัดประกวดโดยองค์การมุสลิมโลก ที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มสตรีมุสลิม และเป็นการจัดประกวดขึ้นที่จาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านการประกวดแบบเดิมๆ ของกองประกวดมิสเวิลด์ที่เตรียมจะจัดประกวดรอบสุดท้ายขึ้นที่บาหลีแทน
นับเป็นประเด็นขัดแย้งกันมายาวนานทีเดียวสำหรับการจัดการประกวดมิสเวิลด์ปีนี้ที่มีประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ แต่เกิดปัญหาตามมาไม่หยุดหย่อน หลังกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในจาการ์ตาต่างออกมาต่อต้านการประกวดครั้งนี้ ด้วยเหตุผลว่าเป็นการประกวดความงามที่เน้นการอวดเนื้อหนังมังสา และมองสตรีเป็นเพียงวัตถุ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการละเมิดหลักศาสนาอิสลาม
ซึ่งการจัดประกวดมิสเวิลด์มุสลิมก็เพื่อต่อต้านการประกวดนางงามแบบปกติ ซึ่งครั้งนี้นับเป็นการจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยจัดการประกวดเพื่อสาวงามชาวมุสลิมโดยเฉพาะ ที่ต้องการเฟ้นหาสาวงามที่ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาสวยในชุดฮิญาบของสาวมุสลิมเท่านั้น แต่ยังต้องเคร่งศาสนา มีความรู้เกี่ยวกับศาสนา และมีความเข้าใจในคัมภีร์โกหร่าน ของพระมะหะหมัดด้วย
งานนี้มีสาวงามมุสลิมสมัครเข้าร่วมประกวดมากกว่า 500 คน โดยผู้ตัดสินได้เลือกสาวงาม 20 คนเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งผู้เข้าประกวดจะถูกขอร้องให้พูดถึงผู้คนบนเส้นทางศาสนาของพวกเขา และตอบคำถามว่าการสวมใส่ผ้าคลุมผมมีความหมายอย่างไรต่อพวกเธอด้วย
ตามรายงานระบุว่า เมื่อตอนที่สาวงามจากไนจีเรียได้รับการประกาศให้เป็นมิสเวิลด์มุสลิม และได้รางวัลเป็นทริปเดินทางไปเมกกะ เธอก็ได้ท่องบทสวดในคัมภีร์โกหร่านออกมาด้วย
ขณะเดียวกันทางด้านกองประกวดมิสเวิลด์ดั้งเดิม ที่จัดการประกวดรอบแรกที่บาหลีไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา และเตรียมจะจัดการประกวดรอบสุดท้ายในเขตรอบนอกของจาการ์ตาวันที่ 28 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ก็ได้ตัดสินใจย้ายกองประกวดไปจัดที่บาหลีทั้งหมด แม้ว่าจะยกเลิกไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันสวมชุดบิกินีเข้าประกวดแล้วก็ตาม ซึ่งการย้ายการจัดประกวดครั้งนี้ เพราะบาหลีเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากและประชากรส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาฮินดู โดยงานนี้จะมีการระดมกำลังตำรวจติดอาวุธเข้าคุ้มกันเต็มที่หลังมีคำเตือนจากผู้ประท้วงและกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงว่าผู้เข้าประกวดอาจเป็นเป้าหมายในการถูกโจมตีด้วย
ลดกระแสต้าน “มิสเวิลด์” ย้ายไปบาหลี
