อิเหนาจัดประกวด “สตรีมุสลิมโลก” โต้เวทีขาอ่อน “มิสเวิลด์”

เอเอฟพี – มุสลิมเมืองอิเหนาเตรียมจัดการประกวดสตรีมุสลิม “มุสลิมะห์ เวิลด์” ขึ้นที่กรุงจาการ์ตา เพื่อตอบโต้เวทีประกวดมิสเวิลด์ที่เกาะบาหลี ซึ่งกำลังเผชิญกระแสต่อต้านอย่างหนักจากมุสลิมเคร่งจารีตในอินโดนีเซีย

การประกวด มุสลิมะห์ เวิลด์ ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองหลวงอินโดนีเซียในวันพุธที่ 18 กันยายนนี้ “คือคำตอบของอิสลาม” ที่มีต่อเวทีมิสเวิลด์ เอกา สันติ ผู้จัดการประกวด ให้สัมภาษณ์

“มุสลิมะห์ เวิลด์ เป็นเวทีความงามเช่นกัน แต่เกณฑ์การพิจารณาของเราแตกต่างจากมิสเวิลด์หลายด้าน ผู้ที่เข้าประกวดจะต้องเป็นหญิงมุสลิมที่เคร่งครัด, เป็นแบบอย่างที่ดี และแสดงให้คณะกรรมการเห็นว่า พวกเธอมีวิธีสร้างสมดุลระหว่างจิตวิญญาณกับโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความทันสมัยอย่างไร” สันติ บอกกับเอเอฟพี

เสียงคัดค้านที่รุนแรงจากชาวมุสลิมในอินโดนีเซียทำให้กองประกวดมิสเวิลด์ต้องยอมประนีประนอม โดยเปลี่ยนกฎการสวมชุดว่ายน้ำมาเป็นการนุ่งโสร่งแทน ทว่าก็ไม่ช่วยให้กระแสต่อต้านลดลง

ผู้ประท้วงบางกลุ่มนำหุ่นจำลองผู้จัดประกวดมิสเวิลด์มาเผาทำลาย และประณามเวทีขาอ่อนว่าเป็น “สิ่งลามก” และ “อนาจาร”

สำหรับผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายในการประกวด มุสลิมะห์ เวิลด์ ผ่านการคัดเลือกจากหญิงสาวกว่า 500 คนที่สมัครในรอบออนไลน์ โดยตัดสินจากการอ่านออกเสียงพระคัมภีร์อัลกุรอาน และบอกเหตุผลที่พวกเธอตัดสินใจคลุมฮิญาบตามหลักการศาสนา

ผู้เข้ารอบซึ่งเป็นหญิงสาวมุสลิมจากอิหร่าน, มาเลเซีย, บรูไน, บังกลาเทศ, ไนจีเรีย และอินโดนีเซีย จะประกวดในรอบถัดไปด้วยเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม ทั้งนี้เพื่อให้สาววัยรุ่นมุสลิมได้เห็นว่า พวกเธอสามารถ “สวย” ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยเรือนร่าง, เส้นผม หรือไหล่

อย่างไรก็ดี สันติ ยืนยันว่า เธอไม่ได้สนับสนุนข้อเรียกร้องของมุสลิมเคร่งจารีตที่ต้องการล้มเวทีมิสเวิลด์ โดยชี้ว่าอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านความเชื่อ

“เราไม่ได้ต้องการปฏิเสธเวทีมิสเวิลด์เท่านั้น แต่จะแสดงให้ลูกหลานเห็นด้วยว่า พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอย่างผู้หญิงที่ประกวดมิสเวิลด์ หรืออยากเป็นแบบผู้ประกวดมุสลิมะห์เวิลด์” สันติ กล่าว

รัฐบาลอิเหนาประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การประกวดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายจะจัดที่เกาะบาหลีเช่นเดียวกับรอบที่ผ่านมา เพื่อเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มมุสลิมเคร่งจารีตในกรุงจาการ์ตา ขณะที่ทีมผู้จัดงานซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมตัดสินใจด้วยแย้งว่า “เป็นไปไม่ได้” ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานที่ในนาทีสุดท้ายเช่นนี้

นักท่องเที่ยวต่างชาติสวมบิกินีเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปตามชายหาดบาหลี และก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจต่อคนในท้องถิ่นซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู

แม้ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่จะเป็นมุสลิมสายกลาง แต่กลุ่มเคร่งจารีตก็ยังมีอิทธิพล และเคยแสดงพลังกดดันจนกิจกรรมบันเทิงต้องถูกยกเลิกไปแล้วหลายครั้ง เช่น กรณีคอนเสิร์ตเลดี กากา เมื่อปีที่แล้ว เป็นต้น