xs
xsm
sm
md
lg

“ขุนอิน แจ๊สออฟสยาม” ยอดมือระนาดไทยผู้ไม่ยอมหยุดนิ่ง/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ปกหน้าอัลบั้ม “ขุนอิน แจ๊สออฟสยาม”
พูดถึงชื่อ“ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า” หลายคนอาจจะไม่รู้จักชื้อนี้ดีเท่ากับชื่อ“ขุนอิน

ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า ก็คือ ขุนอิน สุดยอดมือระนาดคู่ปรับของ ศร ศิลปะบรรเลง(หลวงประดิษฐไพเราะ) ในภาพยนตร์เรื่อง “โหมโรง” ซึ่งหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่อของขุนอินโด่งดังติดตลาด(ดังยิ่งกว่าพระเอกเสียอีก) นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดกระแสดนตรีไทยฟีเวอร์อยู่พักใหญ่ พ่อแม่ผู้ปกครองหันมาส่งลูกหลานให้เรียนดนตรีไทยกันเป็นจำนวนมาก

นับเป็นจริตของสังคมไทยที่เมื่อมีสิ่งไหนเด่นดังขึ้นมาพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะเห่อส่งลูกหลานไปเรียนไปฝึกกันแบบไฟไหม้ฟาง โดยส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจว่าเด็กจะชอบหรือมีความสนใจในด้านนั้นหรือเปล่า แต่เมื่อมันเป็นกระแสก็ต้องส่งลูกไปฝึก ไปเรียน

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ไม่เป็นไฟไหม้ฟางหลังกระแสหนังเรื่องเรื่องโหมโรงจางหายก็คือฝีมือระนาดของขุนอินที่ปรากฏในภาพยนตร์ เพราะมันได้ติดตาติดหูคนดู พร้อมกับหนุนส่งให้ชื่อของขุนอินในจอ กลายมาเป็นชื่อประจำตัวของ“ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า” ในนามขุนอินนอกจอ ที่คนส่วนใหญ่ต่างจดจำคาแรคเตอร์ยอดมือระนาด หัวโล้น แว่นดำ เสื้อดำ หนวดเคราพองาม กับฝีมือบรรเลงเพลงระนาดทั้งรวดเร็ว อ่อนหวาน และพลิ้วไหวได้เป็นอย่างดี

ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า หรือ ขุนอิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่มีดนตรีไทยอยู่ในสายเลือดก็ว่าได้ เขาเป็นลูกชายของ ครูสุพจน์ โตสง่า ผู้มีฉายาว่า "ระนาดน้ำค้าง"

ณรงค์ฤทธิ์ เรียนเพลงเดี่ยวระนาดเอก ระยาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก ฆ้องวงใหญ่ เพลงมอญ เพลงหน้าพาทย์จากพ่อมาอย่างช่ำชอง เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร เป็นนักเรียนทุนสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์

ณรงค์ฤทธิ์นอกจากเป็นอาจารย์สอนดนตรีไทยแล้ว เขายังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์งานดนตรีไทยร่วมสมัย นำดนตรีไทยไปผสมกับดนตรีสากล ขยายวงสู่ผู้ฟังในวงกว้าง แน่นอนว่าทั้งรูปแบบการเล่น การนำเสนอดนตรีย่อมเป็นที่ขัดใจของพวกครูดนตรีอนุรักษ์นิยมไม่น้อย แต่ถ้าขืนยังเล่นแบบเดิมดนตรีไทยก็มีแต่หยุดนิ่งรอวันสูญสลาย

สำหรับวงดนตรีไทยร่วมสมัยที่ณรงค์ฤทธิ์ได้ไปร่วมสร้างสรรค์ก็มี วงกังสดาล,บอยไทย,เทวัญ NOVELJAZZ, Bangkok Acoustic, Khun-in Of THE Beat และล่าสุดกับ “ขุนอิน แจ๊สออฟสยาม” (Khun-In Jazz of Siam) ที่เพิ่งส่งอัลบั้มใหม่เอี่ยมอ่อง“แจ๊สออฟสยาม”(Jazz of Siam)ออกมาให้แฟนนานุแฟนสดับรับฟัง ภายใต้สังกัด “ใบชาsong” ของ “บรรณ สุวรรณโณชิน” ซึ่งงานเพลงเกือบทั้งหมดของค่ายนี้(รวมถึงในชุดนี้) จะเน้นเป็นพิเศษในเรื่องของการบันทึกเสียง ระบบเสียง คุณภาพเสียง โดยระบบเสียงในอัลบั้มนี้ได้มิกซ์-มาสเตอร์ และ Mastering ในรูปแบบ 24bit192khz ที่ให้คุณภาพของเสียงออกมาอย่างดี ฟังมีมิติ

อัลบั้มนี้นอกจากขุนอินที่เป็นตัวชูโรงแล้ว ยังมีทีมดนตรีฝีมือดี ได้แก่ ภูดินันท์ ดีสวัสดิ์มงคล (มด) : เปียโน/โปรดิวเซอร์/เรียบเรียง, วีระวงศ์ วรรณวิจิตร (ม๊อค) : เบส และ จิรวัฒน์ แสงอนันต์ (เจี๊ยบ) : กลอง
ปกหลังอัลบั้ม “ขุนอิน แจ๊สออฟสยาม”
แจ๊สออฟสยามมีทั้งหมด 9 เพลง เป็นการนำเพลงไทยเดิมที่คุ้นหูมาบรรเลงและร้อง(1 เพลง)ในลีลาแบบไทยผสมสากลกับแนวทางแจ๊ซร่วมสมัย ขึ้นต้นนำด้วย “จีนตอกไม้” เป็นเพลงโหมโรง ที่เหมาะต่อการเปิดอัลบั้มมาก

เพลงนี้เปียโนเล่นทำนองหลักนำมาก่อนส่งต่อให้ ระนาดรับช่วงในท่วงทำนองเดียวกัน ก่อนเข้าสู่ช่วงอิมโพรไวซ์ ที่ลีลาการตีระนาดของขุนอินนั้นพลิ้วไหวเหลือร้าย ฟังแล้วอดนึกถึงหนังเรื่องโหมโรงไม่ได้เพราะนี่เป็นหนึ่งในเพลงเอกของหนังเรื่องนั้น

ต่อกันด้วย“ลาวลำปาง” มีลีลาระนาดเล่นรูดรางในช่วงขึ้นต้นได้น่าฟัง ช่วงอิมโพรไวซ์ระนาดกับเปียโนรับ-ส่งกันอย่างลื่นไหล ตามด้วย “เขมรอมตรึก”เพลงสนุกๆชวนโยกตัวตาม เสียงสแนร์ฟังเด่น ลูกโซโลระนาดสลับอารมณ์ด้วยเสียงทุ้ม เสียงแข็ง

มาเบรกอารมณ์กับเพลงช้าด้วย “สร้อยแสงแดง” ที่ยาวกว่า 8 นาที แถมยังมีเสียงร้องด้วยน้ำเสียงของ “บอมม์ - ทัศธน เจริญทรัพย์”

เพลงนี้จะว่าไปภาคดนตรีนั้นฟังเพราะฟังเพลิน แต่ภาคเสียงร้องนี่สิมันฟังไม่เนียนเอาเสียเลย แถมนักร้องนำยังร้องด้วยลีลาดัดเสียงไทยให้เป็นฝรั่ง ฟังแล้วไม่ลื่นหูสักเท่าไหร่

กลับมาสู่เพลงบรรเลงกันอีกกับ “ต้นวรเชษฐ์” เปียโนขึ้นนำด้วยการแตกไลน์เมโลดี้ ขณะที่เสียงระนาดที่เป็นตัวยืนพื้น สื่อสำเนียงความเป็นไทยในลีลาแจ๊ซฟังสบายได้น่าฟังมาก

ต่อมาเป็น “แขกกุริท” ที่นำมาเรียบเรียงใหม่ได้เยี่ยมมาก เปียโน ระนาด เล่นรับล้อส่งกัน แถมยังมีเบสโซโลด้วย ส่วนที่ผมชอบมากก็คือจังหวะกลองที่เล่นจังหวะยกสวนทางได้น่าฟังมาก

จากนั้นเป็น “เสเลเมา” ที่ขุนอินโชว์ลีลาการอิมโพรไวซ์ระนาดได้อย่างสุดมัน ต่อมาเป็น“พม่ารำขวาน” ที่มาในอารมณ์สนุกๆ ก่อนจะปิดท้ายกันด้วย “Over the Rainbow” เพลงสแตนดาร์ตอมตะ ที่ทางวงพยายามจะฉีกแนวให้ระนาดเปลี่ยนไปเล่นเพลงสากลบ้าง ซึ่งเพลงนี้การเรียบเรียงและการตีความอาจจะยังฟังไม่ลื่นหูเท่าไหร่ แต่นี่ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีทีเดียว

และนั่นก็คือบทเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม “ขุนอิน แจ๊สออฟสยาม” งานดนตรีไทย(ประยุกต์)ผสมสากลในลีลาแจ๊ซร่วมสมัยที่สามารถนำสรรพสำเนียงความเป็นไทย(เสียงระนาด+ท่วงทำนองเพลงไทย)ไปผสมรวมกับเสียงแบบสากลได้เป็นอย่างดี น่าฟัง โดยมีเสียงระนาดของขุนอินเป็นพระเอกตัวชูโรง ด้วยลีลาการเล่นที่มีทั้งสนุก อ่อนหวาน พลิ้วไหว ซึ่งโดยรวมแล้วอัลบั้มชุดนี้มีการเรียบเรียง การนำเสนอ ความคิดสร้างสรรค์ ที่ดีทีเดียว จะมีสะดุดอยู่บ้างก็ตรงเสียงร้องในเพลงสร้อยแสงแดงตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

แจ๊สออฟสยาม ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานในการสร้างสรรค์ดนตรีไทยให้ไปสู่สากล ซึ่งวันนี้มวยไทยเราเริ่มไปมวยโลก ฮอตฮิตติดตลาดกันอย่างกว้างขวางแล้ว ผมก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง ดนตรีไทยเราจะไปดนตรีโลกกับเขาบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น