โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
เขาไม่ใช่เทพเทือก เทพไทในฝ่ายค้าน และก็ไม่ใช่ พงษ์เทพ วราเทพ ในฝ่ายรัฐบาล แต่เขาคือหนึ่งในเทพแห่งวงการกีตาร์ผู้ยิ่งยงนาม “โจ แซทริอานี” (Joe Satriani) ที่ยังคงสร้างสรรค์ผลงานเพลงจากลีลาการขยี้พรมนิ้วบนเส้นลวดหกสายออกมาอย่างต่อเนื่อง
โจ แซทริอานี เป็นมือกีตาร์เทพรุ่นราวคราวเดียวกับ อิงวี่ เจ มาล์มสทีน,สตีฟ ไว และ เอริก จอห์นสัน ซึ่งทั้ง 4 ได้ชื่อว่าเป็น“จตุรเทพ” หรือ 4 เทพแห่งวงการกีตาร์ในยุค 90’s ที่ทรงอิทธิพลต่อวงการเพลงร็อกและมีชื่อเสียงยิ่งยงมาจนถึงทุกวันนี้
โจ เป็นมือกีตาร์ร็อกชาวอเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1956 เริ่มเล่นกีตาณืเมื่ออายุได้ 14 ปี จากนั้นเมื่อแกร่งกล้าในฝีมือเขาได้ถ่ายทอดวิทยายุทธบนเส้นลวด 6 สาย ให้กับลูกศิษย์คนแรกของเขาก็คือ “สตีฟ วาย”(Steve Vai) เทพแห่งกีตาร์อันลือลั่น
ในปี 1984 โจได้ฟอร์มวงชื่อ “The Squares” แล้วส่ง EP ชุด “Rubina” ออกมาในปี 1985
จากนั้นในปี 1986 โจส่งผลงานเดี่ยวอัลบั้มแรก “Not of This Earth” ออกมาซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
ปีถัดมา 1987 โจส่งอัลบั้มชุดที่สอง “Surfing with the Alien” ตามมา อัลบั้มชุดนี้ถือเป็น 1 ใน สุดยอดอัลบั้มบรรเลงกีตาร์ยอดเยี่ยมตลอดการในลำดับต้นๆของโลก โจได้สร้างปรากฏการณ์สะท้านสะเทือนยุทธจักรขุนขวานด้วยสำเนียงกีตาร์ที่มีลีลาเฉพาะตัว กับฝีมือและเทคนิคอันยอดเยี่ยมน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้เขาจุติเป็นเทพกีตาร์คนใหม่ เป็นยอดมือกีตาร์ฮีโรที่มีคนเลียนแบบเดินตามกันเป็นพรวน
หลังจากนั้นโจได้ผลิตงานเดี่ยวออกมาอีกมากหลาย รวมถึงยังได้ไปรวมกับบอดฝีมือก่อตั้งวง “Chickenfoot” ที่เป็นวงซุปเปอร์กรุ๊ป ส่งผลงานออกมาด้วยกัน 2 ชุด
สำหรับในช่วงกลางปีนี้ ป๋าโจ แซทริอานี กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มล่าสุด “Unstoppable Momentum” ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่ 14 ของเขา ชุดนี้โจ มีทีมนักดนตรียอดฝีมือมาร่วมเล่น ได้แก่ “วินนี่ โคไลอูต้า”(Vinnie Colauita) มือกลองที่เคยร่วมงานกับ Sting, Jeff Beck,“คริส เชนี่ย์”(Chris Chaney) มือเบสที่เคยร่วมงานกับ Alanis Morisette, Janes Addiction และ “ไมค์ คีนีลลี่”(Mike Keneally ในตำแหน่งมือคีย์บอร์ด โดยโจทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ร่วมกับ “ไมค์ เฟรเซอร์”(Mike Fraser)
อัลบั้มชุดนี้เป็นงานเพลงบรรเลงกีตาร์ล้วนๆมีทั้งหมด 11 เพลง เปิดตัวกันด้วย “Unstoppable Momentum” ที่ภาคริทึ่มเล่นเป็นทำนองรองยืนพื้นขึ้นนำมา เปิดพื้นที่ให้โจโซโลอย่างลื่นไหล แต่เป็นการไหลลื่นที่มีการกำหนดทิศทางมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว(ไม่ใช่ไหลไปเรื่อยเปื่อย)มีวรรคตอน มีเปลี่ยนพาร์ท มีโครงสร้างเพลงที่ชัดเจน
ต่อกันด้วย “Can’t Go Back” เพลงจังหวะสนุกๆ เมโลดี้หลักของเพลงที่เล่นผ่านเอฟเฟควาห์ วาห์ ออกไปทางป็อบฟังติดหูง่าย ขณะที่ลูกโซโลที่เล่นสวนเป็นคนละไลน์ ฟังให้อารมณ์เหมือนมีกีตาร์ 2 คน 2 ตัว
ส่วน “Lies And Truths” บทเพลงที่ชื่อเหมือนลมปากของนักการเมืองบ้านเรา ขึ้นต้นด้วยซาวนด์คีย์บอร์ดนำมาแบบลอยๆ ก่อนเข้าเพลงกันในจังหวะขัดๆ กระตุกๆ โชว์ให้เห็นถึงความเหนือของทีมดนตรี จากนั้นป๋าโจแกโซโลผ่านดนตรีที่มีหลายลีลา ชวนให้ฉงนใจว่าสิ่งไหนลวง สิ่งไหนจริง เพลงนี้ป๋าโจเล่นโซโลลูกจิ้มสายได้มันสุดติ่งมาก
“There Shreets To The Wind” ช่วงแรกขึ้นมาอย่างเพราะ เมโลดี้สวยงาม มีท่อนฮุกโดนๆ ฟังติดหูง่าย ก่อนจะสลับอารมณ์ด้วยลูกโซโลอันเข้มข้น เกรี้ยวกราดเป็น 2 อารมณ์ในเพลงเดียวที่ทำได้ดีฟังไม่สะดุด
จากนั้นเป็น “I’ll Put A Stone On Your Cairn” เพลงช้าๆมาสั้นๆ แต่ไพเราะ เสียงกีตาร์เล่นได้หวานนุ่ม รับด้วยซาวนด์คีย์บอร์ดลอยๆในอารมณ์โพรเกรสซีพ ร็อก
ต่อกันด้วย “A Door Into Summer” กับ “Shine On American Dreamer” ที่มาในซาวนด์เฮฟวี่ป็อบฟังเพลิน ขณะที่เพลงหลังฟังดุกว่าเพลงแรกหน่อย
ส่วน “Jumpin’ In” กับ “Jumpin’ Out” 2 เพลงชื่อล้อรับกัน เป็นเป็นฮาร์ดร็อกหนักๆมาในอารมณ์ฟังกี้ติดกลิ่นบลูส์ ฟังแล้วต่ออารมณ์กันดี
“The Weight Of The World” เป็นการเล่นสลับโหมดไปมาระหว่าง ไลน์เมโลดี้สวยๆ กับท่อนโซโลมันๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วย “A Celebration” เพลงสั้นๆ แต่ฟังมัน สนุก ทางเมโลดี้สวยงาม สอดคล้องกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายอัลบั้ม
จบไปแล้วกับ 11 บทเพลงใน Unstoppable Momentum อีกหนึ่งงานอัลบั้มเพลงบรรเลงกีตาร์ในระดับคุณภาพ ที่โจยังคงเส้นคงวาในการทำเพลง งานเพลงชุดนี้ไม่ได้เน้นการโซโลที่รวดเร็วปานรถด่วนขบวนนรก หากแต่เน้นที่ไอเดียการสร้างสรรค์ ท่วงทำนองที่สวยงาม แนวทางการเล่นกีตาร์ที่หลากหลายครบเครื่อง มีทั้ง ว่องไว ดุดัน กราดเกรี้ยว อ่อนหวานบาดอารมณ์ นุ่มนวล สง่างาม และเทคนิคอันแพรวพราวกับลูกโซโลที่สอดรับกับอารมณ์เพลง
นับเป็นการประสานใจใส่ลงในเส้นลวด 6 สาย แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงในแบบฉบับโจ แซทริอานี ที่ไม่ว่าจะฟังยังไง ฝีมือของป๋าโจก็ยังคงเทพเหมือนเดิม
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Acoustic 2
หลัง “Acoustic”(1) ได้รับการตอบรับอย่างดี ทางค่าย “Warner Music” จึงจัดส่งผลงานชุด “Acoustic 2” ตามออกมา โดยได้คัดสรร 36 บทเพลงอะคูสติกร่วมสมัย มานำเสนอไว้ใน 2 แผ่นซีดีคู่ มีเพลงน่าสนใจ อาทิ “Shoot the Moon”(นอราห์ โจนส์),“The Lazy Song”(บรูโน มาร์ส),“Lucky”(เจสันมราซ และโคลบี้คัลเลท์),“Smile”(ลิลี่ อัลเลน) หรือบทเพลงจากศิลปินเอเชีย “Close to You” จากโอลิเวีย กับ “Cachito” จาก ลิซ่า โอโนะ สำหรับใครที่ชื่นชอบบทเพลงแนวอะคูสติกเพราะๆฟังสบายนี่ถือเป็นอัลบั้มที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี
เขาไม่ใช่เทพเทือก เทพไทในฝ่ายค้าน และก็ไม่ใช่ พงษ์เทพ วราเทพ ในฝ่ายรัฐบาล แต่เขาคือหนึ่งในเทพแห่งวงการกีตาร์ผู้ยิ่งยงนาม “โจ แซทริอานี” (Joe Satriani) ที่ยังคงสร้างสรรค์ผลงานเพลงจากลีลาการขยี้พรมนิ้วบนเส้นลวดหกสายออกมาอย่างต่อเนื่อง
โจ แซทริอานี เป็นมือกีตาร์เทพรุ่นราวคราวเดียวกับ อิงวี่ เจ มาล์มสทีน,สตีฟ ไว และ เอริก จอห์นสัน ซึ่งทั้ง 4 ได้ชื่อว่าเป็น“จตุรเทพ” หรือ 4 เทพแห่งวงการกีตาร์ในยุค 90’s ที่ทรงอิทธิพลต่อวงการเพลงร็อกและมีชื่อเสียงยิ่งยงมาจนถึงทุกวันนี้
โจ เป็นมือกีตาร์ร็อกชาวอเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1956 เริ่มเล่นกีตาณืเมื่ออายุได้ 14 ปี จากนั้นเมื่อแกร่งกล้าในฝีมือเขาได้ถ่ายทอดวิทยายุทธบนเส้นลวด 6 สาย ให้กับลูกศิษย์คนแรกของเขาก็คือ “สตีฟ วาย”(Steve Vai) เทพแห่งกีตาร์อันลือลั่น
ในปี 1984 โจได้ฟอร์มวงชื่อ “The Squares” แล้วส่ง EP ชุด “Rubina” ออกมาในปี 1985
จากนั้นในปี 1986 โจส่งผลงานเดี่ยวอัลบั้มแรก “Not of This Earth” ออกมาซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
ปีถัดมา 1987 โจส่งอัลบั้มชุดที่สอง “Surfing with the Alien” ตามมา อัลบั้มชุดนี้ถือเป็น 1 ใน สุดยอดอัลบั้มบรรเลงกีตาร์ยอดเยี่ยมตลอดการในลำดับต้นๆของโลก โจได้สร้างปรากฏการณ์สะท้านสะเทือนยุทธจักรขุนขวานด้วยสำเนียงกีตาร์ที่มีลีลาเฉพาะตัว กับฝีมือและเทคนิคอันยอดเยี่ยมน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้เขาจุติเป็นเทพกีตาร์คนใหม่ เป็นยอดมือกีตาร์ฮีโรที่มีคนเลียนแบบเดินตามกันเป็นพรวน
หลังจากนั้นโจได้ผลิตงานเดี่ยวออกมาอีกมากหลาย รวมถึงยังได้ไปรวมกับบอดฝีมือก่อตั้งวง “Chickenfoot” ที่เป็นวงซุปเปอร์กรุ๊ป ส่งผลงานออกมาด้วยกัน 2 ชุด
สำหรับในช่วงกลางปีนี้ ป๋าโจ แซทริอานี กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มล่าสุด “Unstoppable Momentum” ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่ 14 ของเขา ชุดนี้โจ มีทีมนักดนตรียอดฝีมือมาร่วมเล่น ได้แก่ “วินนี่ โคไลอูต้า”(Vinnie Colauita) มือกลองที่เคยร่วมงานกับ Sting, Jeff Beck,“คริส เชนี่ย์”(Chris Chaney) มือเบสที่เคยร่วมงานกับ Alanis Morisette, Janes Addiction และ “ไมค์ คีนีลลี่”(Mike Keneally ในตำแหน่งมือคีย์บอร์ด โดยโจทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ร่วมกับ “ไมค์ เฟรเซอร์”(Mike Fraser)
อัลบั้มชุดนี้เป็นงานเพลงบรรเลงกีตาร์ล้วนๆมีทั้งหมด 11 เพลง เปิดตัวกันด้วย “Unstoppable Momentum” ที่ภาคริทึ่มเล่นเป็นทำนองรองยืนพื้นขึ้นนำมา เปิดพื้นที่ให้โจโซโลอย่างลื่นไหล แต่เป็นการไหลลื่นที่มีการกำหนดทิศทางมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว(ไม่ใช่ไหลไปเรื่อยเปื่อย)มีวรรคตอน มีเปลี่ยนพาร์ท มีโครงสร้างเพลงที่ชัดเจน
ต่อกันด้วย “Can’t Go Back” เพลงจังหวะสนุกๆ เมโลดี้หลักของเพลงที่เล่นผ่านเอฟเฟควาห์ วาห์ ออกไปทางป็อบฟังติดหูง่าย ขณะที่ลูกโซโลที่เล่นสวนเป็นคนละไลน์ ฟังให้อารมณ์เหมือนมีกีตาร์ 2 คน 2 ตัว
ส่วน “Lies And Truths” บทเพลงที่ชื่อเหมือนลมปากของนักการเมืองบ้านเรา ขึ้นต้นด้วยซาวนด์คีย์บอร์ดนำมาแบบลอยๆ ก่อนเข้าเพลงกันในจังหวะขัดๆ กระตุกๆ โชว์ให้เห็นถึงความเหนือของทีมดนตรี จากนั้นป๋าโจแกโซโลผ่านดนตรีที่มีหลายลีลา ชวนให้ฉงนใจว่าสิ่งไหนลวง สิ่งไหนจริง เพลงนี้ป๋าโจเล่นโซโลลูกจิ้มสายได้มันสุดติ่งมาก
“There Shreets To The Wind” ช่วงแรกขึ้นมาอย่างเพราะ เมโลดี้สวยงาม มีท่อนฮุกโดนๆ ฟังติดหูง่าย ก่อนจะสลับอารมณ์ด้วยลูกโซโลอันเข้มข้น เกรี้ยวกราดเป็น 2 อารมณ์ในเพลงเดียวที่ทำได้ดีฟังไม่สะดุด
จากนั้นเป็น “I’ll Put A Stone On Your Cairn” เพลงช้าๆมาสั้นๆ แต่ไพเราะ เสียงกีตาร์เล่นได้หวานนุ่ม รับด้วยซาวนด์คีย์บอร์ดลอยๆในอารมณ์โพรเกรสซีพ ร็อก
ต่อกันด้วย “A Door Into Summer” กับ “Shine On American Dreamer” ที่มาในซาวนด์เฮฟวี่ป็อบฟังเพลิน ขณะที่เพลงหลังฟังดุกว่าเพลงแรกหน่อย
ส่วน “Jumpin’ In” กับ “Jumpin’ Out” 2 เพลงชื่อล้อรับกัน เป็นเป็นฮาร์ดร็อกหนักๆมาในอารมณ์ฟังกี้ติดกลิ่นบลูส์ ฟังแล้วต่ออารมณ์กันดี
“The Weight Of The World” เป็นการเล่นสลับโหมดไปมาระหว่าง ไลน์เมโลดี้สวยๆ กับท่อนโซโลมันๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วย “A Celebration” เพลงสั้นๆ แต่ฟังมัน สนุก ทางเมโลดี้สวยงาม สอดคล้องกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายอัลบั้ม
จบไปแล้วกับ 11 บทเพลงใน Unstoppable Momentum อีกหนึ่งงานอัลบั้มเพลงบรรเลงกีตาร์ในระดับคุณภาพ ที่โจยังคงเส้นคงวาในการทำเพลง งานเพลงชุดนี้ไม่ได้เน้นการโซโลที่รวดเร็วปานรถด่วนขบวนนรก หากแต่เน้นที่ไอเดียการสร้างสรรค์ ท่วงทำนองที่สวยงาม แนวทางการเล่นกีตาร์ที่หลากหลายครบเครื่อง มีทั้ง ว่องไว ดุดัน กราดเกรี้ยว อ่อนหวานบาดอารมณ์ นุ่มนวล สง่างาม และเทคนิคอันแพรวพราวกับลูกโซโลที่สอดรับกับอารมณ์เพลง
นับเป็นการประสานใจใส่ลงในเส้นลวด 6 สาย แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงในแบบฉบับโจ แซทริอานี ที่ไม่ว่าจะฟังยังไง ฝีมือของป๋าโจก็ยังคงเทพเหมือนเดิม
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Acoustic 2
หลัง “Acoustic”(1) ได้รับการตอบรับอย่างดี ทางค่าย “Warner Music” จึงจัดส่งผลงานชุด “Acoustic 2” ตามออกมา โดยได้คัดสรร 36 บทเพลงอะคูสติกร่วมสมัย มานำเสนอไว้ใน 2 แผ่นซีดีคู่ มีเพลงน่าสนใจ อาทิ “Shoot the Moon”(นอราห์ โจนส์),“The Lazy Song”(บรูโน มาร์ส),“Lucky”(เจสันมราซ และโคลบี้คัลเลท์),“Smile”(ลิลี่ อัลเลน) หรือบทเพลงจากศิลปินเอเชีย “Close to You” จากโอลิเวีย กับ “Cachito” จาก ลิซ่า โอโนะ สำหรับใครที่ชื่นชอบบทเพลงแนวอะคูสติกเพราะๆฟังสบายนี่ถือเป็นอัลบั้มที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี