เป็นเรื่องราวความรักที่เรียกว่าแทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้วสำหรับคู่ของพระรองผู้แสนดี “น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์” กับนางเอก/นางร้ายสาวใจแข็ง “จอย รินลณี ศรีเพ็ญ” ที่ฝ่ายชายเปิดฉากเดินหน้าจีบฝ่ายหญิงมานานตั้งแต่ 4 ปีก่อนแบบไม่เคยวอกแวกไปมองสาวไหน ส่วนฝ่ายหญิงก็เดินหน้ายืนยันความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่ฝ่ายชายเข้ามาว่าไม่ได้ชอบหรือรักแบบคนรัก เพราะเธอรู้สึกกับน็อตเพียงเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น แต่น็อตก็เลือกที่จะสานต่อโดยหวังว่าน้ำหยดลงหินสักวันหินคงกร่อน แต่หินที่ชื่อจอยก้อนนี้ดูท่าจะไม่ยอมสึกหรอ เวลาผ่านไปถึง 4 ปีกับความสัมพันธ์ที่ไม่คืบหน้า สุดท้ายน็อตจำใจหันหลังเดินจากมาทั้งน้ำตา ปิดฉากการจีบที่ใช้เวลานานที่สุดสำหรับคนในวงการไปในที่สุด
“จอย รินลณี” เป็นนักแสดงสาวที่วางตัวดีมาตลอด 15 ปีที่อยู่ในวงการ รับบทนางเอกผู้แสนดีในช่วงแรกๆ ก่อนจะค่อยๆ ผันมาครองบทนางร้ายสุดเข้มข้นในระยะหลัง จอยไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ โดยเฉพาะในเรื่องชู้สาว ที่ผ่านมาเคยคบหาอยู่กับนักแสดงระดับพระเอกอย่าง “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ที่เจอกันเมื่อครั้งแสดงละครบ้านทรายทองคู่กัน จอยยอมรับว่าแอบปลื้มหนุ่มมานาน และจากความใกล้ชิดกันในครั้งนั้นก็ทำให้จอยกับหนุ่มสปาร์กรักกันแต่ก็เป็นเพียงความรักที่ปิดบังหลบซ่อนเพราะตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เลิกรากันสาวจอยกับหนุ่มก็ไม่เคยยอมรับว่าคบหาดูใจกันในฐานะแฟนเลย พูดแค่เพียงเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทและหนุ่มก็เป็นคนที่จอยปลื้มมากเท่านั้น
ส่วนนักแสดงหนุ่มที่จอยยอมรับว่าเป็นแฟนอย่างเต็มปากเต็มคำก็คือ “ออย ธนา สุทธิกมล” อดีตนักร้องคู่หูดูโอ “ลิฟท์กับออย” ที่โด่งดังมากในยุคนั้นซึ่งผันตัวมาเป็นพระเอก “ชาคริต แย้มนาม” พระเอกมาดเซอร์ และ “โจ นูโว” นักร้องสุดติสท์ เหล่านี้คือคนที่จอยยอมรับจากปากว่าเคยคบหาเป็นแฟนมาแล้ว แต่หลังจากคบกันได้ในระยะหนึ่งจอยก็ต้องเลิกรากับหนุ่มๆ เหล่านั้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป แต่เป็นเหตุผลที่ใครหลายคนมองว่าคล้ายคลึงกันนั่นคือท้ายที่สุดแล้วสาวคนนี้ไม่ได้อยากแต่งงานและไม่ปรารถนาชีวิตคู่แบบผูกมัดใกล้ชิดกันมากจนเกินไป
มาดูที่ฝั่งของน็อตกันบ้าง น็อตเข้าวงการมาในฐานะลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของ “ชลิต เฟื่องอารมย์” ตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนที่จะก้าวเข้ามาในวงการเต็มตัวในฐานะนักร้องคู่หู “น็อตกับเก็น” โดยออกอัลบั้มคู่กับ “เก็น ฐากูร สังคปรีชา” น้องชายแท้ๆ ของ “ก้อง สหรัถ สังคปรีชา” ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในแวดวงการแสดง โดยประเดิมละครเรื่องแรกคือเสือ 11 ตัวของค่ายยูม่า โดยการรับบท ร.ต.อ. อรรถพล ซึ่งตลอดเวลาที่น็อตโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเขาก็มักจะรับบทพระรอง เพื่อนพระเอก หรือตัวร้ายมาโดยตลอด
สำหรับเรื่องความรักน็อตไม่ค่อยตกเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกับสาวคนไหนสักเท่าไหร่ ที่เห็นชัดเจนคือเคยเป็นแฟนกับ "กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร” เมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนจะเลิกรากันแบบ “จบไม่สวย” แล้วน็อตก็หันมาคบกับนางแบบสุดแนว “เพชร รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล” แต่ก็คบหากันได้เพียงไม่นานก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันแบบมองหน้ากันไม่ติด เพราะถึงแม้น็อตจะบอกว่าสาเหตุที่เลิกกันมาจากทัศนคติและวัยที่ห่างกัน แต่สุดท้ายน็อตก็ออกมาพูดถึงสาวเพชรแบบจิกกัดทั้งเรื่องการแต่งตัว การวางตัว และยังตบท้ายด้วยว่านิสัยลึกๆ ของสาวเพชรไม่ได้ดีเลิศเหมือนภาพที่เธอแสดงออกมา จึงอาจถือได้ว่าสาวๆ ที่เคยคบหากับน็อตล้วนแต่เลิกรากับเขาแบบ “จบไม่สวย” ด้วยกันทั้งนั้น
จนกระทั่งมาถึงสาวจอยที่น็อตดูเหมือนจะหลงรักหัวปักหัวปำ เนื่องจากสาวในสเปกของน็อตนั้นต้องเป็นสาวไทยหน้าสวย เรียบร้อย กิริยามารยาทดี แต่ทำงานเก่ง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ใกล้เคียงกับอดีตรักของเขาอย่างสาวกบมากเลยทีเดียว แต่กับจอยที่ดูเหมือนจะตรงสเปกน็อตทุกอย่าง เสียอยู่อย่างเดียวคือแม้จอยจะตรงสเปคน็อต แต่น็อตกลับไม่ตรงสเปกจอย เลยทำให้สมการความรักไม่ลงตัว จอยเอ่ยปากบอกขอเป็นแค่เพื่อนตั้งแต่วันแรกที่น็อตเข้ามาขายขนมจีบ แต่น็อตก็ไม่ท้อเพราะถือคติ “ตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลก” เขาเลยเดินหน้าสานสัมพันธ์ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะยกสถานะเพื่อนหรืออะไรให้เจ้าตัวก็ไม่หวั่นขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ดูแลและค่อยๆ ปลูกต้นรักไปอย่างช้าๆ
ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมาถ้าจะบอกว่าจอยปิดกั้นตัวเองจากน็อตเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะถึงแม้เธอจะบอกตั้งแต่แรกว่าขอเป็นแค่เพื่อน แต่หลังจากเห็นถึงความพยายามและความเสมอต้นเสมอปลายของน็อต จอยก็ใจอ่อนยอมศึกษาน็อตในฐานะอื่น มีการไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง ไปพบปะเจอหน้าพ่อและแม่ของอีกฝ่าย แต่จนแล้วจนรอดยังงั้ย...ยังไง ความรู้สึกของจอยก็มีให้ได้แค่เพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้นจริงๆ
แต่น็อตก็ยังอยู่ทนมาได้ถึง 4 ปีเต็ม เป็น 4 ปีที่เขาไม่เคยได้รับสิทธิให้ใช้คำว่า “แฟน” จากสาวจอยเลยแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากที่พยายามจีบแบบมาราธอนนานถึง 4 ปีแต่ความสัมพันธ์ก็ยังไม่ขยับเลื่อนสถานะ ในที่สุดน็อตก็ออกมายอมรับว่าเขายอมแพ้หัวใจอันเด็ดเดี่ยวของจอย ตัดสินใจหันหลังเดินจากมา โดยยังแอบหยอดทิ้งเอาไว้ว่ายังคงรู้สึกกับจอยเหมือนเดิมทุกประการ
น็อตเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาอยู่ในสถานะเพื่อนชายคนสนิทแบบนี้ก็มีความสุขดีเพราะว่าจอยก็ยืนยันชัดเจนกับเขาตั้งแต่วันแรกแล้ว โดยน็อตเคยยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้สึกท้อและอยู่ในสถานะนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นเพียงสามเดือน น็อตก็กลับคำให้การว่าขอพอแค่นี้เพราะว่าอยู่ต่อไปก็เจ็บ ซึ่งในขณะที่ให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งล่าสุดนี้ น็อตยอมรับว่าเขาจะร้องไห้ ซึ่งคนใกล้ชิดก็ยินยันว่าน็อตได้ร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะท้อใจกับการพิสูจน์รักครั้งนี้มาตลอด
หลายคนสงสัยว่าจีบมานานขนาดนี้แล้วทำไมจู่ๆ น็อตถึงออกมาประกาศเลิกจีบ คำตอบที่น็อตมีให้คือเขาและจอยชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายในชีวิตของทั้งคู่ไม่ตรงกัน เพราะน็อตอยากแต่งงาน แต่จอยอยากใช้ชีวิตในเส้นทางธรรม แต่ก็มีหลายคนเมาท์ว่าสาเหตุจริงๆ ที่น็อตต้องออกมาประกาศว่ายุติการจีบแล้วก็เพราะว่าจอยเริ่มอายุมากแล้ว การที่น็อตต้องประกาศเลิกจีบก็เพื่อที่เขาจะได้เบนไปหาเป้าหมายอื่นๆ ได้ เนื่องด้วยวัย 35 ปีของน็อตถ้าเขาต้องการจะแต่งงานจริงก็ควรจะต้องมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้แล้วนั่นเอง
สำหรับจอยก็ยอมรับว่าต้องออกมาพูดว่าไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ต่อกันแล้วเพราะว่าน็อตจะได้ไปเจอคนที่ใช่สำหรับเขา เพราะว่าจอยชัดเจนตั้งแต่วันแรกแล้วว่าให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน แต่เธอก็ยอมรับว่าตัดสินใจนานกว่าจะยอมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขอยุติความสัมพันธ์กับน็อตไว้เพียงเท่านี้
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตก็ดุเดือดและเผ็ดร้อนมาก จากช่วงแรกที่มีคนรุมโจมตีจอยว่าเป็นผู้หญิงใจจืดใจดำเพราะว่าน็อตก็พิสูจน์ตัวเองมานานถึง 4 ปีว่ารักจริง หวังแต่ง แต่หลังจากการออกมาประกาศยุติการจีบของน็อตกับจอยในครั้งนี้ก็เริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเห็นใจคนทั้งคู่เพราะอยากให้เจอคนที่ใช่ เข้าใจจอยเพราะเห็นว่าจอยพูดชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่น็อตเข้ามาจีบว่าเป็นแค่เพื่อน เห็นใจน็อตที่มีความรักมั่นคงแต่ไม่สามารถทลายกำแพงหัวใจของจอยได้ แต่เสียงส่วนใหญ่สรุปตรงกันว่า “คนไม่ใช่จะทำอย่างไรก็ไม่ใช่” น็อตอาจจะเป็นคนดีที่มีความอดทนและเสมอต้นเสมอปลาย แต่ปัจจัยเหล่านั้นก็ไม่ได้การันตีว่าจะทำให้จอยรัก ตรงกันข้ามหากจอยเจอคนที่ใช่สำหรับเธอก็อาจจะไม่ใช้เวลานานถึง 4 ปีในการศึกษาดูใจก็เป็นได้ สุดท้ายแล้วแทบทุกคนก็สรุปตรงกันว่าความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่อาจบังคับหรือคิดแทนกันได้ ก็ได้แต่หวังว่าทั้งน็อตและจอยจะได้เจอคนที่ชอบและใช่ในเร็ววันนะจ๊ะ
.............................................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 206 วันที่ 14-20 กันยายน 2556