แพทย์เผย “สายัณห์” สดชื่นขึ้นหลังให้เลือดไป 1 ถุง วันนี้ไม่มีไข้แล้ว ส่วนน้ำในช่องท้องยังไม่จำเป็นต้องเจาะออก ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือตับ รองลงมาคือมะเร็ง แจงตอนนี้สายัณห์ให้ความร่วมมือดีพอสมควรในเรื่องการรับน้ำเกลือและอาหาร ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอาการโดยรวมน่าจะดีขึ้น
วันนี้ (3 ก.ย.) คณะแพทย์ได้มีการเปิดแถลงข่าวเผยถึงการรักษา “เป้า สายัณห์ สัญญา” ขึ้นอีกครั้งที่ ห้องประชุมอาคาร 4 โรงพยาบาลธนบุรี โดยมี นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.โรงพยาบาลธนบุรี พร้อมด้วย นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ เป็นผู้ออกมาให้ข้อมูล โดยเผยว่าในวันนี้สายัณห์ไม่มีไข้ และหลังจากได้รับเลือดไป 1 ถุง เจ้าตัวก็ดูสดชื่นขึ้น
นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล “วันนี้คนไข้ไม่มีไข้นะครับ ได้รับเลือดไปหนึ่งถุง ก็สดชื่นครับ ถามว่าดีขึ้นไหม เขาก็บอกว่าผมได้รับเลือดแล้วสดชื่นขึ้น เมื่อวานตอนเย็นไม่มีปฏิกิริยาแพ้เลือด เรื่องของน้ำเกลือยังให้อยู่ และให้ยาฆ่าเชื้อเพิ่มอยู่ แต่ผลเพาะเชื้อยังไม่มานะครับ ส่วนอาการน้ำในช่องท้อง ก็ยังคงเดิม ไม่ได้ตรวจเพิ่ม แต่ยังมีอยู่ แต่มันยังไม่เป็นจำต้องเอาออก ยังไม่ถึงขนาดแน่นท้อง แต่มันไม่ได้เป็นธรรมชาติ มันผิดปกติ จะพิจารณาถ้าหากมีข้อบ่งชี้นะครับ”
“การเจาะน้ำในท้องช่อง เพราะเราเจาะน้ำเราไม่ได้สูญเสียแค่น้ำ เราอาจจะเสียโปรตีนไปด้วย แต่การที่น้ำในช่องท้องต้องมีเป็นรายๆ ที่คนไข้มีภาวะตับไม่ดีทำให้น้ำรั่วออกมาอยู่ในช่องท้องได้ คนไข้ที่มีปัญหาทางตับเป็นเวลานานๆ อาจจะเป็นโรคนี้ได้เหมือนท้องมานครับ เพียงแต่ว่าจำนวนน้ำที่เพิ่มขึ้น ถ้าไม่ถึงขนาดทำให้คนไข้ไม่สบายอึดอัดหายใจไม่ออก เราก็ยังไม่เจาะ เพราะการเจาะไม่ได้มีข้อดีร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ถ้าไม่จำเป็นต้องเจาะเราก็จะไม่ทำ”
“อาการโดยรวมตอนนี้คงเดิมครับ ถือว่าโดยทั่วไปยังคงเดิม แต่เรื่องไข้ไม่น่าห่วงมากนักเพราะไม่มีไข้ เรื่องของความดันเรื่องของชีพพาจรออกซิเจนในร่างกายปกติ ตอนนี้ห่วงในเรื่องของตับอันที่หนึ่ง อันที่สองมะเร็ง แล้วก็เรื่องการทำงานของตับ”
ยังสรุปไม่ได้ว่า “สายัณห์” ติดเชื้อในกระแสเลือดหรือไม่ ต้องรอผลตรวจก่อน
“ตอนนี้เราต้องดูก่อน รอผลเพาะเชื้อให้แน่ๆ อีกที พรุ่งนี้น่าจะได้แล้ว แล้วก็ต้องดูอีกทีว่าเราจะหยุดยาฆ่าเชื้อยาปฏิชีวนะ ถ้าพรุ่งนี้ถ้าไม่มีผลเชื้อขึ้นก็จะหยุด (ตอนนี้เชื้อมะเร็งเป็นยังไงบ้าง?) เราไม่ได้ดูครับ ตรวจเพิ่มทางคอมพิวเตอร์เรายังไม่ได้ตรวจเพิ่ม แล้วเท่าที่ดูก็คงมากขึ้นจากผลเลือดที่ออกมา”
“ตอนนี้คนไข้ให้ความร่วมมือพอสมควร คือไม่ได้งอแงในเรื่องของการให้น้ำเกลือ อันที่สองเรื่องอาหารที่เราให้เป็นอาหารเสริมก็รับประทานได้หนึ่งถ้วยแก้ว อาหารก็พอรับประทานได้ส่วนใหญ่จะชอบฟักทอง ก็จะทำฟักทองให้ เมื่อกี้ถามว่าเบื่อไหมเขาก็ยังไม่เบื่อนะ ให้ความร่วมมือในการรับประทานอาหารดี ควบคู่กับการให้น้ำเกลือไปด้วยครับ สภาพโดยรวมก็น่าจะดีขึ้น ถ้าความร่วมมือในการให้สารอาหาร ทั้งการรับประทานและทางหลอดเลือด ซึ่งเราก็จะรักษาแบบประคับประคองกับยาที่ให้ครับ”
ยาลูกกรยาสมุนไพรรักษาได้ไหม?
“เมื่อวานที่ปรึกษาโรงพยาบาลธนบุรีมาดูคนไข้ แล้วก็แนะนำคนไข้ว่ายาสมุนไพรจีน ท่านบอกว่ามีส่วนช่วยได้บ้าง แต่คนไข้มักจะมาหา หมายถึงว่าถ้าไม่หายก็ไม่มาหา ไม่มาบอกว่าดีหรือไม่ดี คนไม่หายนี่ก็ไม่มาบอก แต่คนหายก็จะมาบอก ท่านก็ได้แนะนำมา แต่ยาพวกนี้กินได้ก็อย่ามีพวกสารหนู ยาลูกกรพบบ่อยนะ คนไข้ที่มาเชื่อมากเลยกับยาลูกกร แต่ยาพวกนี้จะไม่มี อย.นะ เราจะดูจากมี อย.เป็นหลัก แต่ทางคนไข้ยังไม่ได้รับการรักษายาสมุนไพร แต่จะรับไม่รับแล้วแต่คนไข้ แต่ยาจะเป็นยามาจากเมืองจีน ยาพวกนี้ก็ดูแลคนไข้มาสามพันปีนะ มันก็ต้องมีดีไม่ดีบ้าง”
สอบถามถึงเรื่องที่ “สายัณห์” จะมีคอนเสิร์ตอีกในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ว่าเจ้าตัวไปได้หรือไม่? นพ. ประสิทธิ์ เผยว่า…
“เราก็ยังประเมินไม่ได้ครับ เพราะว่าจริงแล้วต้องดูเป็นวันๆ วันนั้นที่เขากลับบ้านก็พอดีดูเหมือนแข็งแรงนะ แข็งแรงไปได้ก็ถ้าได้สารน้ำสารอัลบูมินก็น่าจะน่าดีขึ้น อุณหภูมิคนไข้ควบคุมได้ ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ว่าดีขึ้นแล้วหาย”
ด้าน นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ได้กล่าวเสริมว่า…
“การรักษาแบบประคับประคองตัวเนื้อมะเร็งที่ตับมันไม่สามารถหายไปได้ เพียงแต่ว่าหน้าที่ในการรักษาคือเราดูว่าคนไข้มีผลของร่างกายอะไรที่ต่ำลง เราจะให้ยาไปช่วยเสริมให้สภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่โดยตัวโรคเองก็ยังคงดำเนินต่อไป ในส่วนของอาการทางสมองที่บอกว่าจะเบลอช่วงกลางคืน อันนี้อยู่ในขั้นที่เราประเมินอยู่รายวันนะครับ เพราะว่าคำว่าเบลอบางทีเขาอ่อนเพลีย อย่างในช่วงที่มีไข้คนเราก็อาจจะเบลอได้นะครับ หรือการขาดน้ำขาดสารอาหารก็เป็นได้ หรือแม้กระทั่งการทำงานของภาวะร่างกายไม่ดีก็เป็นได้หลายๆ อย่าง ซึ่งเราก็ติดตามดูอาการนี้ทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งมีข้อบ่งชี้ที่เราจะตรวจสมองอะไรต่อไปหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูในตอนนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนนะครับ”
เมื่อถามถึงการแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการรักษา นพ.วชิรบุณย์ ก็แจงว่าเรื่องการทำเคมีบำบัดได้มีการคุยไปแล้ว แต่ในตอนนั้น “สายัณห์” ปฏิเสธจึงยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อีก พร้อมบอกตอนนี้สายัณห์อยู่ในสภาพที่ยังทำไม่ได้อยู่ดี
“ยังไม่ชัดเจนที่แนะนำ เพราะเราก็ได้คุยกับญาติกับเขาบ้าง บางอย่างที่อาจจะช่วยได้บ้าง แต่อันนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามันจะมีผลดีไหม คือต้องเรียนให้ทราบว่าตอนนี้การรักษาเคมีบำบัดคนไข้คงไม่ได้อยู่ในสภาพที่รับได้ และตัวเคมีบำบัดก็อาจจะไม่ได้ผลดีกับมะเร็งในรายที่เป็นขนาดนี้ผลตอบสนอง เพราะฉะนั้นยังไม่ได้เริ่มกระบวนการที่จะพูดคุย คือเราเริ่มพูดคุยมาแล้วแหละ แต่ว่าเขาปฏิเสธในตอนนั้น”
“แต่เราก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างยิ่งในเรื่องของเคมีบำบัดมาดูแลอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องที่สองที่เราเสริมพลังเขาคือคุณภาพร่างกาย ถ้าเกิดไม่มีอะไรขัดขวางกับร่างกายผู้ป่วย เราก็สามารถสนับสนุนได้กับทางแพทย์ปัจจุบัน แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นแพทย์ของเราซึ่งให้อาหารเสริมเราก็สามารถให้อาหารเสริมทั้งในเรื่องของอาหารเสริมชนิดพิเศษ กับการให้น้ำเกลือชนิดพิเศษ”
ทั้งนี้ นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของสายัณห์ ได้ออกมาเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากจะย้ายสายัณห์ไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ มศว. องครักษ์ จ.นครนายก เนื่องจากมีการรักษามะเร็งอีกแบบหนึ่งจึงอยากจะลองดู โดยจะขอให้ นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.โรงพยาบาลธนบุรี เป็นผู้ประสานให้ แต่ปรากฎว่าพอสอบถามเรื่องนี้ไปยัง นพ.ประสิทธิ์ กลับเผยว่าตนยังไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ก่อนจะมีรายงานว่าพรุ่งนี้(4ก.ย.)น่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
