“นุ้ย” ปล่อยโฮ โดนแฟนคลับ “เจมส์ จิ” ถล่มด่า ลั่นไม่ได้อยากจะถ่ายรูปขนาดนั้น

“นุ้ย” ปล่อยโฮโดนแฟนคลับ “เจมส์ จิ” ถล่มด่าโทษฐานอยากถ่ายรูปกับพระเอกสุดฮอต ลั่นอยู่วงการบันเทิงมาเป็น 10 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ วอนแฟนคลับนักแสดงดังเข้าใจอย่าเห็นว่าตนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเจมส์ จิ ลั่นไม่ได้อยากจะถ่ายรูปอะไรมากมาย แค่อยากจะทำงานออกมาให้ดีที่สุด

กลายเป็นประเด็นใหญ่เลยทีเดียว กรณี “นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งถึงประเด็นที่พระเอกสุดฮอต “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” ไม่ยอมถ่ายรูปคู่ด้วย หลังจากบรีฟสคริปต์งานกันเสร็จ จนเป็นเหตุให้แฟนคลับเจมส์ จิ เข้ามาถล่มด่านุ้ยในอินสตาแกรม ด้านเจมส์ จิ นั้นให้เหตุผลถึงไม่ยอมถ่าย เพราะแต่งตัวไม่เรียบ้อยนุ่งบอกเซอร์ พอถูกถามถึงเรื่องดังกล่าวทำเอานุ้ยปล่อยโฮเลยทีเดียว

“นุ้ยก็หนักใจ ไม่มีเจตนาไม่ดีกับใคร เอาเป็นว่าขอพูดในส่วนของนุ้ย เรารู้เราทำอะไร อะไรเกิดขึ้น ตั้งแต่แรกพี่มดดำโทร.มาสัมภาษณ์เรื่องโจรขึ้นบ้าน เขาก็ไปโยงน่าสงสารโจรขึ้นบ้าน แล้วก็มีเรื่องเจมส์ เขาถามมาก็ตอบตามความจริง แต่ไม่เคยว่าหรือมีเจตนาทำใครเสียหาย เราแค่เจอเหตุการณ์นี้ นุ้ยก็รู้สึกแล้วแค่บอกว่ารู้สึกยังไง เรามีสิทธิ์ที่จะรู้สึกได้ไหม”

“ความรู้สึกเราคือไม่เคยไปทำร้ายเขา นุ้ยอยู่วงการมา 10 กว่าปี อยู่ด้วยความเข้าใจคนอื่น เวลาแฟนๆ มาขอถ่ายรูปเขาไม่รู้หรอกเราไม่สบายอยู่หรือเราเป็นยังไง แต่เรามีหน้าที่ขอบคุณที่เขาให้ความสนใจ นี่คือความรู้สึกของตัวเองนะคะ”

“นุ้ยต้องเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งถ้าเขาไม่สะดวก ถ้ามีเหตุขัดข้องอะไรเรายอมรับได้ แล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านไป เราก็ทำงานต่อไป ต้องให้ปากคำเรื่องโจรแล้วคิดเรื่องงานแต่ง ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้ โดยส่วนตัวนุ้ยไม่ชอบโกรธใคร ที่น้องให้สัมภาษณ์ว่าเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยไม่อยากให้ถ่ายรูปพี่ก็เป็นผู้หญิงเนอะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ นุ้ยมีพี่ที่คอยดูแลพิธีกรอยู่ด้วยตลอด พี่เขาบอกว่านุ้ยไม่เคยเจอเจมส์ใช่ไหม ต้องสัมภาษณ์งั้นไปบรีฟน้องไหมจะได้พูดคุยกัน ขึ้นเวทีจะได้สบายๆ พี่เขาเดินนำไป พอเคาะประตูก็มีคนมาเปิดแจ้งไปว่าจะพาพิธีกรมาบรีฟงานสะดวกไหม ก็ได้เข้าไปไม่มีใครบอกอะไร เข้าไปก็นั่งข้างน้องก็คุยงานกัน 10 นาที มีสคริปต์เรื่องนี้ ชื่องาน มีลูกค้าใคร”

“พอเสร็จจะออกแล้วเราทำงานร่วมกันก็อยากถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ก็บอกไปว่า น้องเจมส์พี่ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม น้องก็อึกอักเราก็อ๊ะเกิดอะไรขึ้น แล้วผู้จัดการน้องก็พูดภาษาอังกฤษกับน้องไปจับใจความว่า กางเกงเป็นอะไร เราก็ถามไปกางเกงเป็นอะไรเหรอ น้องเขาบอกกางเกงฟิตครับ นุ้ยก็บอกไม่เป็นไร เพราะเราก็ต้องรีบไปขึ้นเวทีก่อนเขาก็เดินออกไป แต่น้องยังน่ารักบอกว่าเดี๋ยวผมเสร็จแล้วจะมาถ่ายรูปด้วยนะครับ เราก็บอกไม่เป็นไรเข้าใจ ภาพที่เห็นไม่รู้จริงๆ น้องเขาใส่อะไร เพราะน้องเขาห่มผ้าอยู่(หลายคนสงสัยมีการดึงตัวไม่ให้น้องมาถ่ายรูปกับเราหรือเปล่า ?) อ๋อ อันนั้นเป็นเหตุการณ์กับคนอื่นมั้ง แต่นี่เขาไม่ได้ดึงค่ะ เขามีคนดูแลสองคน มีช่างทำผม แล้วก็พี่ที่เป็นคนดูแลนุ้ย แต่ในขณะที่เราคุยงานกับน้องก็มีคนเปิดประตูตลอดเวลานะ มีเด็กเล็กๆ มาบอกว่าอยากเจอคุณชาย ห้องที่อยู่เป็นห้องแต่งตัวหลังเวที”

เรื่องก็น่าจะจบแค่วันนั้น แต่ปรากฏว่าแฟนคลับของ “เจมส์” กลับเข้าไปถล่ม “นุ้ย” ในอินสตาแกรม จนนุ้ยต้องขอร้องแฟนคลับว่าอย่ามองว่าตนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามเจมส์
“แฟนคลับของน้องเขา…มันพูดยากนะ นุ้ยเข้าใจทุกคน นุ้ยไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ (เริ่มร้องไห้) นุ้ยเชื่อว่าความจริงยังไงก็คือความจริง มันอยู่ในใจเราว่าเกิดอะไรขึ้น วันนั้นนุ้ยไม่ได้อยู่คนเดียว เขาจะเป็นคนกลางที่บอกเรื่องราวทั้งหมดได้ดีที่สุด แต่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งว่าทำไมต้องเอานุ้ยไปอยู่ฝั่งตรงข้ามเจมส์ ไม่ได้อยากฝั่งไหน เพียงแต่เรื่องที่เกิดเขาถามมาเราก็ตอบ”

“จะไปถามคนข้างๆ นุ้ยไหมล่ะ เพราะว่านุ้ยโทร.ไปถามเขาแล้วน้องเขาปกติ ถ้าโป๊อะไรก็ไม่ควรมองอยู่แล้วตามมารยาทของเราเนอะ ก็อยากให้เรื่องนี้จบแล้วผ่านไป เจอหน้ากันยิ้มให้กัน ไม่ว่าจะคุณผู้จัดการ หรือใครที่เกี่ยวข้องเราไม่ควรจะโกรธกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง นุ้ยเอาพลังของนุ้ยมาคิดเรื่องจัดงานแต่งดีกว่า ไม่คิดเรื่องนี้ ขนาดโจรเรายังอโหสิกรรมได้ทั้งที่ทำให้เรานอนไม่หลับ ทำไมต้องมาคิดเรื่องนี้ล่ะ ไม่คิดหรอก อยากให้น้องเข้าใจเรา ไม่เคยว่าอะไรเลย มีแต่ความเข้าใจที่มอบให้”

“ปอนด์เขาก็เป็นห่วง ถามนุ้ยเป็นยังไงบ้าง ที่เจอกระแสแบบนี้ เพราะการจะอธิบายอะไรให้ใครฟังมันเป็นเรื่องยาก ไม่สามารถทำให้เขาเชื่อหรือคิดอะไร ฉะนั้นก็ทำให้เราได้แต่เข้าใจตัวเอง ขอบคุณครอบครัวที่ให้กำลังใจทุกคนเข้าใจเรา ขอบคุณทุกกระทู้เข้าใจเราไปตอบโต้แทนเรา เราอยู่วงการ 10 ปี รู้อะไรเป็นอะไร ไม่ได้อยากจะถ่ายรูปขนาดนั้น เราไปเพื่อมุ่งมั่นทำงาน เพราะเป็นงานใหญ่มาก อยากทำงานให้ดีมากกว่า ก็คงหวังไม่ได้ให้คนเข้าใจเรา อยู่มา 10 ปีคนที่เรารัก และเขาเข้าใจเราไม่มีคำถามจากคนในครอบครัวเลยสักคำถามเดียวค่ะ”