“ลูกจัน” เผยชีวิตหลังแต่งงานแฮปปี้ ปล่อยมีลูกเลยตามธรรมชาติ ยันเลิก “ติ๊ก กลิ่นสี” ด้วยดี ไม่เกี่ยวประเด็นอยากแต่งงานแล้วอีกฝ่ายไม่แต่งเลยประชดหารักใหม่
ตกลงปลงใจเข้าพิธีแต่งงานกับ “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นรอรรถ จันทร์กล่ำ” นักไวโอลินและวาทยากรชื่อดังมาได้สักพักแล้วสำหรับอดีตนางงาม “ลูกจัน จันจิรา จันทร์โฉม” อดีตแฟนสาวของตลก "ติ๊ก กลิ่นสี" ซึ่งเมื่อถามไถ่ถึงชีวิตในตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวเผยด้วยใบหน้าสดใสว่ามีความสุขมากๆ แม้บางอย่างจะต้องมีการปรับตัวบ้าง
“ชีวิตหลังแต่งงานก็รู้สึกดีมีความสุขมีคนดูแลเรา แต่พอมาอยู่ด้วยกันก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน เหมือนเราอยู่คนเดียวมาพอมามีคนอยู่ด้วยก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ต้องเจอกันคนละครึ่งทาง จดทะเบียนค่ะแต่ว่ายังเป็นนางสาวอยู่ เพราะว่าหนึ่งไม่อยากจะมีขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงเอกสารเพราะว่ามีเอกสารหลายอย่าง และอย่างที่สองก็คือว่าเจ้าบ่าวบอกว่าจันจิรา จันทร์โฉมเป็นอะไรที่คนรู้จักอยู่แล้วก็ใช้อันนี้ดีแล้วค่ะ”
“เรื่องทายาทตอนนี้ก็คือว่าน่าจะปล่อยเลย ก็ค่อนข้างที่จะให้เขาเป็นไปตามธรรมชาติ มันก็อายุเท่านี้แล้วเราก็ 30 ไปเตรียมสุขภาพมาไปตรวจเลือดมาหมอก็บอกว่าตอนนี้แข็งแรง เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงปล่อยได้เลย”
ส่วนกรณีที่ก่อนนหน้านี้เจ้าตัวเคยคบหากับ “ติ๊ก กลิ่นสี” แต่อยู่ๆ ก็มีข่าวแต่งงานออกมา เจ้าตัวแจงว่า...“อันนี้ต้องขออนุญาตออกตัวนิดหนึ่ง คือถ้าเป็นบุคคลอื่นๆ ที่ต้องพูดถึงก็จะไม่ขอพูดเยอะนะค่ะ แต่ว่าจันเองก็ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้ว ก็เลยคิดว่ามันคงไม่มีการต้องเกาะกระแสหรือว่าอัพเดทอะไรมากมายหรือต้องพูดถึงความสัมพันธ์อะไร เพราะฉะนั้นไม่ได้อยู่วงการบันเทิงเลยไม่มีใครมารับรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ประเด็นนี้คงมีใครอัพประเด็น แต่ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญเพราะว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น”
“แล้วถ้าถามว่าจันทิ้งระยะห่างจากพี่ติ๊กมาแล้วก่อนจะแต่งงานก็ใช่ค่ะ ก็ต้องว่างนะค่ะ พอเราว่างแล้วเราก็มีโอกาสคบหาคนใหม่ แต่พี่ติ๊กก็ยังเป็นพี่ที่เคารพอยู่ค่ะ แล้วเราก็จบกันด้วยดี พูดคุยกันเข้าใจ มีอะไรก็คงจะนึกถึงกันและช่วยเหลือกัน แล้วถ้าตอนนี้พี่เขายังเฮิร์ทอยู่ก็อยากจะบอกว่ามันรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ที่เราตัดสินใจจะแยกกันแล้วค่ะ พอหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันเราเลยไม่ได้อัพเดทว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
ปัดเลิกเพราะอยากแต่งงานแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแต่ง เลยประชดหารักใหม่เพื่อแต่งงาน...“คงไม่ใช่ประเด็นนั้น เพราะว่าเราโตขึ้น แล้วก็รับรู้ได้ว่าการใช้ชีวิตมันไม่เหมือนกัน ไลฟ์สไตส์ต่างกันความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนั้นเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เราก็เลยพูถึงความต้องการของเราว่าเป็นยังไงก็จบลงด้วยดี ถ้าถามว่ากับพี่ติ๊กมีการพูดคุยเรื่องแต่งงานหรือเปล่า ก็ตามธรรมชาติเราก็คุยกันบ้าง แต่ว่ามันก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง”
“ซึ่งกับเรื่องนี้สามีเขาก็เข้าใจ เพราะว่าคนส่วนใหญ่รับรู้ และเขาก็เข้าใจสถานการณ์ถ้ามีสื่อมวลชนเข้ามาสอบถามเขาก็เข้าใจแต่ว่าตัวเขาเองซึ่งเป็นอาจารย์อาจจะไม่เคยสถานการณ์แบบนี้แต่เราก็บอกว่าไม่เป็นอะไรนะ เพราะว่าเราก็ค่อนข้างชัดเจน ไม่น่าจะมีประเด็นตรงนี้เท่าไหร่”