“นาวิน ต้าร์” เลิกกับ “พลอย เฌอมาลย์” ทำเอาเสียศูนย์ต้องหาจุดสมดุลให้กับชีวิต หันเล่นกีฬาอย่างหนักหวังจะไปแข่งไตรภาคระดับโลกก่อนอายุ 40 เผยตอนนี้ซ้อมกีฬาเช้า-เย็น เอาความเจ็บมาลงกับการออกกำลังกาย
เลิกกับ “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ทำเอาดอกเตอร์ “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” เสียศูนย์ ตอนนี้เจ้าตัวหันไปทุ่มเทให้กับการเล่นไตรกีฬา ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬา 3 ประเภทต่อเนื่องกันรวดเดียว ก็คือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน และ วิ่ง เรียกว่าบ้าพลังสุดๆ แถมต้าร์ไม่ได้เล่นแค่ให้ลืมช้ำ แต่เอาจริงเอาจังถึงขั้นฝันจะไปแข่งระดับโลกให้ได้ก่อนตัวเองอายุ 40 พร้อมเปิดหมดหัวใจทุกวันนี้ทำทุกอย่างเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
“จุดเริ่มต้นก่อนไปเล่นไตรกีฬามาจากการวิ่งก่อน วิ่งคือต้าร์ลงกรุงเทพมาราธอน ซึ่งมาราธอนนี่ 42 กิโลฯครับ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็ซ้อมมาทั้งปีเพื่อจะลงงานนั้น สุดท้ายแล้วก็ผ่านมาได้ใช้เวลา 4.15 ชม.เริ่มวิ่งตั้งแต่ตี 3 เสร็จตอน 8 โมงเช้า ก็คิดว่าจะทำได้ดีกว่านี้ คิดว่าปลายปีนี้เดี๋ยวก็จะลงใหม่จะเอาให้มันได้ต่ำกว่า 4 ชม.ให้ได้ มันก็ทำให้เรารู้ว่ากีฬาประเภทนี้มันจะทำให้เราได้ดีพอสมควร ทีนี้พอมีเวลารายการวิ่งต่างๆ เราก็จะไปก็สนุกดีครับ ได้เจอผู้คน”
“แรงบันดาลใจก็คือตัวเรา เพราะต้าร์ทำได้ในกีฬาที่ใช้ความทนทาน ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง ว่ายน้ำ จักรยาน วิ่ง ก็เลยว่ามันเป็นสามกีฬาที่เรารู้สึกว่าทำได้ดี เราก็เลยอยากมาลองแข่งดู ที่ทุ่มเทขนาดนั้นเพราะแรงมันเหลือครับสำหรับตัวต้าร์ จริงๆ รู้ตัวเองว่าไม่มีทักษะเรื่องกีฬาดีสักแค่ไหน เล่นปิงปองเล่นสนุกก็ยังเล่นไม่ได้เลย มันเป็นลูกกลมๆ อะไรอย่างนี้ มันก็ยาก แต่ถ้าให้เอาแรงใจมาสู้กันต้าร์ก็สู้ไม่ถอย คือถ้าสภาพร่างกายเท่ากัน แล้วไม่ต้องใช้ทักษะนะ ประเภทกีฬาที่ต้องใช้ความอดทน อย่างเช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน มันเป็นกีฬาที่ใช้ความทนทาน ถ้าร่างกายเท่ากันเอาใจมาวัดกัน ต้าร์ก็มั่นใจว่าใจเราชนะเสมอ (หัวเราะ)”
เป้าหมายสูงสุดคือไปแข่งไตรกีฬาที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
“เป้าหมายของไตรกีฬาคือสิ้นปีนี้จะลงไตรกีฬาให้ได้ แล้วก็จะชนะเข้าเส้นชัยให้ได้ แล้วเป้าหมายระยะยาวก็คิดว่าก่อนอายุ 40 ปี อยากจะไปแข่ง ไอรอนแมน (Ironman) ที่ฮาวายสหรัฐอเมริกาให้ได้ เป้าหมายโหดนะ ใช้เวลา 10 ชม.ในการแข่ง คือว่ายน้ำในทะเล 3.6 กิโลฯ แล้วก็ขึ้นมาปั่นจักรยานอีก 199 กิโลฯ วิ่งต่อ 42 กิโลฯ คนเขาก็ทำกัน 9-10 ชม.ถ้าจะทำถึงขั้นนั้นร่างกายก็ต้องพร้อม แต่อันนี้ต้าร์คงยอมรับว่าคงยังทำไม่ได้ แต่ต้าร์ก็จะเริ่มจากระยะ Sprint สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่น ต้าร์จะเริ่มในเมืองไทยก่อน คิดไว้ว่าอีก 2-3 ปีจะไปให้ได้ ตอนนั้นก็น่าจะอายุ 36-37 พอดี”
“ทุกวันนี้วันนึงๆ นอกเหนือจากการทำงานไม่นับทานข้าวต้าร์ก็ออกกำลังอยู่ ส่วนใหญ่ก็จะซ้อมแทบทั้งวัน ก็ตื่นเช้ามาตี 5-6 โมงเช้า บางทีเราก็ไปวิ่งแล้ว บางครั้งก็จะเริ่มจากว่ายน้ำก่อน ก็ประมาณสัก 1 ชม.พอทำงานที่มหาวิทยาลัยจาก 8 โมงเช้า เลิก 4 โมงครึ่ง เย็นๆ บางทีก็เวตเทรนนิงบ้าง เสร็จปุ๊บทานข้าวตอนดึกก็ออกไปปั่นจักรยานต่อ ก็ทำวันละ 3 รอบ”
“ต้าร์เชื่อว่าทำอะไรถ้าเรามีแรงใจพอ ยังไงๆ มันก็สำเร็จครับ แล้วของบางอย่างถึงแม้ว่ามันดูเหมือนว่าจะไม่ได้อะไร แต่มันคือการฝึกความอดทน ฝึกการมองในแง่บวก ฝึกกำลังใจของตัวเองชนะใครไม่เท่าชนะตัวเอง การที่เราจะดีที่สุดอยู่ในจุดที่ดีที่สุดแบบตัวเองได้เนี่ย ดีที่สุดในแบบต้าร์ คือการที่ดีที่สุดของตัวเอง มันไม่เกี่ยวเลยนะว่าคุณจะชนะการแข่งขันหรือคุณจะได้เหรียญได้สถิติโอลิมปิก แต่มันเกี่ยวแค่ว่าเราต้องมีความพยายามพอ เราพยายามพอที่จะเอาชนะอุปสรรคที่มันวางเอาไว้ข้างหน้าเท่านั้นเอง”
“มีความพยายามพอที่จะชนะอุปสรรคที่วางเอาไว้ ไม่ใช่คนอื่นวางด้วยนะ มันไม่เกี่ยวเลยว่าเราจะแข่งกับใคร มันเกี่ยวกับสิ่งที่เราเองตั้งว่าเราทำให้ได้เอง แล้วการที่เราเอาชนะของพวกนี้ได้ มันนั้นคือสุดยอดนะ ชนะใครไม่เท่าชนะใจตัวเอง นึกออกไหม เพราะว่าใจเรามันกลัวไปเอง ใจเรามันสร้างขอบเขตที่เราสร้างมันเอง พอเราชนะมันได้ เรากลับเป็นคนที่ดีขึ้น เรากลับเป็นคนที่ไปในจุดที่เราไม่เคยไป ต้าร์ออกจาก comfort zone ตัวเองทุกวัน แล้วเราไปต่อได้อีก พอตอนนี้เรารู้ว่าเราสบายแล้ว เราก็ก้าวออกไปอีก เอาให้มันหนักขึ้นอีก พอรู้ว่าสบายก็เอาให้มันหนักขึ้นอีก ทุกๆ นาทีที่วิ่ง ว่ายน้ำอยู่ เราก็ชนะความเจ็บปวด มันเจ็บปวด แต่เราก็ทนได้”
“ที่สดใสขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะตรงนี้ครับ มันช่วยครับๆ ตอนนี้ต้าร์แข็งแรงมากๆ หัวใจต้าร์เต้นขณะตอนที่พักอยู่ 44 ครั้งต่อนาที คือแทบไม่เต้นเลยก็เป็นเรตของนักกีฬาเลย ตอนนี้ก็คือเวลาที่ไปแข่งวิ่งหรืออะไรต้าร์ก็ชวนให้มาแข่งด้วยกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าต้าร์ไม่ชาร์จไม่เกี่ยวกับได้หรือชนะ คือเอาจริงๆ บางทีเวลาคนเขามาวิ่งแล้วเค้าเห็นเราเป็นดาราเขาคิดว่าเราจะวิ่งแบบสบายๆ ชิลล์ๆ มาเอาแบบบันเทิงอะไรอย่างนี้ ความจริงไม่ใช่ครับ ต้าร์วิ่งเอาจริงครับ แล้วต้าร์ทำเวลาด้วยเอาให้มันเร็วด้วย”
บ้าพลัง! ทุกครั้งที่เครียดกับอะไรมาจะมาลงกับกีฬา
“ก็คงประมาณนั้นแหละครับ ต้าร์ก็ใช้เหมือนกันนะเวลาเครียดเวลาโกรธก็จะมาลงกับพวกต่อยมวย โมโหอะไรเราก็ซัดเข้าไปเลย สุดท้ายแล้วตัวเราเองที่หมดแรงเอง เพราะว่าเทรนเนอร์เขามีป้องกันสุดยอดอยู่แล้ว ก็ทั้งเตะทั้งต่อย ที่สุดแล้วเราก็หมดแรง แล้วมันก็เหมือนสู้กับตัวเอง ต้าร์ไม่รู้ว่าดีไม่ดีไหม แต่มันอาจจะใช้อารมณ์ความรู้สึกมากไปนิดหนึ่ง ถ้าเราอยากจะสมดุลกับร่างกายและอารมณ์ของตัวเอง อาจจะต้องนั่งสมาธิบ้างอะไรบ้าง บางทีมันก็สะใจดี”
“แต่ว่าการวิ่งหรือการว่ายน้ำจริงๆ มันคือการทำสมาธินะครับ การตั้งมั่นว่าเราจะทำไปแบบนี้เนี่ย ไปเรื่อยๆ นะการต้องมีสติให้ดีเพราะว่าเราต้องเช็คก่อน ว่าร่างกายเราเป็นไง หัวใจเราเต้นเร็วไหม เช็กดูแขนขายังไหวไหม คือมันเป็นการที่เราต้องมีสติด้วย มันเป็นการที่ว่าเราต้องกะว่าแรงที่เรามีมันต้องไปแค่ไหน แล้วมันเป็นการสอนเราไปในตัว แล้วสิ่งที่ต้าร์รักกับการที่อยู่กับมันคือมันสอนเราไปในตัวให้เราพยายามที่จะมองในแง่บวกอยู่เสมอ เพราะว่าถ้าเรามองในแง่ลบเราไม่มีทางจะทำต่อได้ เราก็จะรู้ว่าเออเนี่ยเราผ่านมาเยอะแล้ว อีกนิดหนึ่งเราจะถึงแล้ว ถึงแม้ว่าได้แค่ครึ่งทาง ถึงจะยังเหลืออีกตั้งเยอะ แต่การที่คิดว่าเราผ่านมาตั้งครึ่งแล้วมันจะวิ่งเร็วขึ้นมาทันทีเลย คือแรงใจมันมา สภาพร่างกายกับจิตใจเรามันสัมพันธ์กัน แล้วสปีดเราก็เพิ่มขึ้นมาทันทีเลย”
เป็นแกนนำตั้งแก๊งวิ่งและขี่จักรยาน “ตูน บอดี้สแลม” ก็เอาด้วย
“ต้าร์มีแก๊งขี่จักรยานและแก๊งวิ่งด้วย กลุ่มที่วิ่งด้วยกันเรามีชื่อว่าแก๊งเต่าน้อย มีต้าร์ พี่ตูน บอดี้สแลม ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นหลายคนมาก แล้วก็มีน้องๆ เดอะสตาร์ด้วย น้องฮั่นก็วิ่ง น้องๆ เดอะสตาร์เต็มไปหมดเลย กำลังจะมีเสื้อทีมด้วยครับ เรานัดเจอกันทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ตอนเช้าตี 5 ครึ่ง เราก็นัดมาเจอกันที่สวนลุมพินี ตอนนี้หน้าฝนมันก็ไม่มีรายการวิ่ง แต่เราก็พยายามซ้อมกันอยู่ แล้วต้าร์ก็มีแก๊งปั่นจักรยานด้วยนะครับ ชื่อแก๊งง้อไบค์ ไบค์นี่คือจักรยาน คือง้อให้มาขี่อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) เรามีโลโก้ ถ้าใครไม่ขี่เราง้อให้มาขี่ ถ้าใครขี่ไม่ชวนเรางอน ก็เคยปั่นไปที่บางแสน ไปอยุธยาประมาณร้อยกิโลฯ ปั่นตอนกลางคืนครับ”
เสียศูนย์หลังเลิก “พลอย” ตอนนี้กำลังหาสมดุลให้ชีวิตอยู่
“ต้าร์ก็พยายามหาสมดุลของชีวิตตัวเองอยู่แล้ว ใครๆ ก็คงอยากให้ลงตัว คือจะบอกว่าลงตัวก็คงไม่ใช่ เพราะว่ายังมีบางอย่างที่อยากต้องทำให้ได้อยู่ แล้วตัวต้าร์ ถ้าต้าร์มีเป้าหมายแล้ว ต้าร์จะไม่มีทางละสายตาจากสิ่งนั้น เพราะว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราเคลื่อนที่ต่อไป มันก็เหมือนจักรยาน มันต้องพุ่งไปข้างหน้ามันถึงจะสมดุลได้ มันต้องเคลื่อนที่ถึงจะสมดุลได้นี่คือไอนสไตน์เคยเป็นคนพูดไว้ แต่ว่าตัวต้าร์ ต้าร์เป็นอย่างงั้นครับ เวลาเห็นเป้าหมายอะไรแล้วเราตกลงใจที่จะทำ เราตื้อไม่เลิก เรากัดยับเลย”
“ก็เหมือนกัน ตั้งเป้าว่าอยากจะไปไอรอนแมนให้ได้ ซึ่งก็ไม่ง่ายเลย แต่ก็จะทำให้ได้ คิดไว้ว่าสัก 3 ปี หรือไม่ก็ 2-3 ปีคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ชีวิตก็เป็นอย่างนี้มาตลอด มันก็ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ต้าร์ตั้งเป้าไว้ มีเรื่องอื่นด้วย แต่การที่เราได้ไปสู่จุดหมายที่เราตั้งเอาไว้ มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าเป้าหมายอะไรมันก็เป็นสิ่งที่ภาพลวงตาสำเร็จ มันก็จะผ่านไป เป้าหมายพอมันถึงเป้าหมายปุ๊บ มันก็หายไป เขาเรียกว่ามันคือสิ่งที่มันเป็น อนิจจัง มันมีอยู่ แล้วก็ดับไป แต่สิ่งที่มันมาเรื่อยๆ มันคืออะไร มันคือชีวิตเราที่ต้องเดินต่อไป มันก็เป็นแบบนี้”
ทุกวันนี้ทำทุกอย่างเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
“การที่เราได้ไปสู่จุดหมายที่เราตั้งเอาไว้มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี แต่สู้แล้วทำไม่ได้ก็มีครับ ถ้าเจอแบบนั้นต้าร์ก็พักก่อนแล้วมาสู้ต่อ ต้าร์เลยจุดที่สู้เท่าไหร่ก็ทำไม่ได้มาแล้ว อย่างตอนที่ทำปริญญาเอก ก่อนที่ทำ เรามีความรู้สึกว่าเรามีความมั่นใจสูงมากว่าจะต้องทำให้ได้สุดยอด เพราะปริญญาโทต้าร์ได้ท็อปของคลาส จบปริญญาโทด้วยคะแนนท็อปเลย แต่พอปริญญาเอกปุ๊บเรากลับได้ยาก มันยากอ่ะ แล้วถึงตอนที่จุดมันท้อ คือเราแพ้มันจริงๆ เราแพ้มันแล้ว เราทำไม่ได้ เราก็พักก่อน แล้วก็สร้างสภาพจิตใจให้ดี แล้วก็กลับไปทำใหม่”
“มันเจ็บกว่าคนอื่นตรงที่เราท็อปมาตลอด เวลาลงเราก็เจ็บนะ แต่มันก็สอนให้เราได้รู้ครับว่าตัวเราเองควรจะประมาณตัวเราเองด้วย มันไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะได้มา ในสิ่งที่เราหวัง มันก็สอนให้เรารู้จักถ่อมตน แล้วก็รู้จักที่จะมองในเรื่องของความเป็นจริงด้วย แต่ตัวต้าร์ก็ยังไม่เข็ด ก็ยังเป็นคนเดิมอยู่เสมอ เราฝันให้มากที่สุด แล้วก็ทำเหมือนว่ามันเป็นวันสุดท้ายในชีวิตเรา ต้าร์ก็ใช้ชีวิตแบบนั้น มันอาจจะโหดไปนิดหนึ่ง”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |