“แท่ง” รับ “บอย” ทาบให้เป็นผู้จัดละครและผู้กำกับ แต่ตนยังชั่งใจอยู่เหตุกลัวงานเบื้องหน้าจะหายไป แย้มบิ๊กบอสบอยให้เพื่อนดาราในค่ายคิดโปรเจ็กต์ไปเสนอ แง้มผู้ใหญ่บอกให้เตรียมตัวให้พร้อมเพราะ ก.ย.นี้ ทีวีเมืองไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อยู่ทำงานเบื้องหน้าในวงการบันเทิงมาหลายสิบปี สำหรับหนุ่ม “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” ที่ล่าสุดว่ากันว่าบิ๊กบอส “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ได้ชักชวนมาทำงานเบื้องหลังเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวยอมรับว่ามีการพูดถึงจริง แต่หวั่นว่าถ้าหันเหไปลุยงานเบื้องหลังแล้วจะทำให้งานเบื้องหน้าของตนที่มีอยู่หายไป
“ข่าวถูกดึงตัวให้ไปเป็นผู้กำกับละคร จริงครับ พอดีมีโอกาสได้ดูละครกับพี่บอยที่บ้านแก ผมก็บอกพี่บอยว่าเรื่องต่อไปน่าจะทำแบบนี้นะ พี่บอยบอกว่าก็ทำเองสิ คือส่งสัญญาณมาว่าอยากเล่นอะไรหรืออยากเห็นละครแบบไหนก็มาทำเองสิ มากำกับ เป็นผู้จัดเอง แต่ผมก็ยังสนุกกับการเล่นละครนะครับ ถ้าเริ่มงานเบื้องหลังเมื่อไหร่ เวลาทั้งหมดก็จะถูกใช้ไปกับการทำงานเบื้องหลังทันที อาจจะได้เจอผมน้อยลง ผมยังคิดถึงทุกคนอยู่ แต่ทุกคนก็อยากเห็นผมโชว์ฝีมือเพราะอยู่กับบริษัทมานาน มาช่วยงานบริษัทในอีกมุมหนึ่งบ้าง เขาก็เห็นผมเป็นคนชอบเสนอไอเดียก็เลยคิดว่าลองมาเป็นผู้กำกับไหม”
“ก็คิดว่าคงต้องเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยก่อน ที่ปรึกษา โปรดิวเซอร์ เครเอทีฟ คนคิดงานก่อน เวลาลงสนามแบบเต็มๆ เราอาจจะไม่มีเวลาขนาดนั้น ตอนนี้ที่เห็นเพื่อนเอาจริงเอาจังก็จะมี อ้อม (พิยดา จุฑารัตนกุล) กัปตัน(ภูธเนศ หงส์มานพ) แล้วก็อีกหลายคน ในบริษัทเราจะเรียกว่ากล่อง ทุกคนจะมีกล่องเป็นของตัวเอง ผมก็อาศัยว่าขอเป็นที่ปรึกษาอยู่ทุกกล่อง จะได้รับงานเงินทุกกล่อง”
“เดี๋ยววันที่ 15 กันยายนนี้จะเป็นวันที่ทุกคนเข้าไปคุยกับพี่บอยหมด แล้วจะรู้ว่าคนไหนซีเรียสและเอาจริง ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนพร้อมแล้ว โดยเฉพาะสาวๆ เหมือนเป็นความฝันของเขา ก็ตั้งใจทำ ส่วนเรา นอกจาก อ้อม-เจี๊ยบ ก็มีบริษัทเป็นของตัวเอง มีทีมงานและเขาก็พยายามจะเพิ่มงานเข้าไปในบริษัทเพื่อให้ดูแข็งแรงและมั่นคงขึ้น เขาก็เลยขยายงานของตัวเอง ผมดูและมีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ 2 คนนี้ครับ”
“ส่วนตัวผมก็คงทำงานโปรดักชั่นที่ง่ายที่สุดก่อน เป็นการฝึกและได้ทดสอบความสามารถของตัวเองและทีมที่ตัวเองเซ็ตขึ้นมาก่อนว่า สามารถรับโปรเจกต์ใหญ่ๆ ต่อไปได้หรือเปล่า แนวละครผมชอบแนวครอบครัวนะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเบาไปหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้ละครต้องแรงๆ ดุเดือดถึงจะได้รับการติดตาม ดูแล้วมันทุกตอน ต้องมีเรื่องแอ็คชั่น บู๊ เชือดเฉือน ดราม่าสุดๆ ตอนนี้โลกของการดูละครก็ออกแนวนั้นแล้ว ยิ่งเราอยู่ในช่องเล็ก โอกาสที่จะโดดเด่นขึ้นมา ก็ต้องสู้กันที่ตัวเรื่องเข้มข้นจริงๆ ฉะนั้นก็ต้องคิดว่าอะไรที่จะดึงดูดผู้ชมให้หันมาสนใจเราได้มากที่สุด”
“นอกจากงานตรงนี้แล้วก็จะมีงานมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งระบบเคเบิ้ล ดิจิตอล ทางผู้ใหญ่บอกว่าเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเดือนกันยายนนี้เป็นการประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของทีวีที่เกิดขึ้นในเมืองไทย เราเป็นคนทำงานก็คงจะมีงานที่เหมาะกับเรา อันไหนช่วยได้ก็คงไปช่วยทำครับ”