ไม่เคยปริปากพูดเรื่องครอบครัวมาก่อนสำหรับ “แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” แต่วันดีคืนดีจู่ๆ ก็งานงอกเมื่อมีคนที่ใช้ชื่ออินสตาแกรมว่า “Chanikaapichai” มาคอมเมนต์ข้อความตัดพ้อว่า “เงินที่แทคซื้อรถให้พ่อคือเงินที่ได้มาจากแม่บังเกิดเกล้าซึ่งไม่เคยได้รับการดูแลจากลูก” ใต้รูปภาพที่แทคโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวซึ่งเป็นภาพคุณพ่อของเขากับรถคลาสสิกคันใหม่ที่แทคให้เป็นของขวัญ ทันทีที่คอมเมนต์ดังกล่าวปรากฏขึ้นก็เกิดข้อความโต้ตอบกันไปมาระหว่างแทคกับผู้หญิงคนดังกล่าว โดยแทคบอกให้ไปคุยกับสมชายซึ่งก็คือคุณพ่อของเขาเอง ส่วนฝ่ายหญิงที่อ้างว่าเป็นแม่ก็ตอกกลับว่า “คำตอบอยู่ที่ลูก และถ้าคิดว่าไม่มีแม่ก็คืนเงินมาทั้งลูกทั้งพ่อ” โดยคอมเมนต์ตอบโต้กันดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาว่าแท้จริงแล้วดาราหนุ่มแทค ภรัณยู เนรคุณแม่แท้ๆ จริงหรือไม่?
หลังจากเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงกันในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก แทคก็อดรนทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาโพสต์ข้อความแรงๆ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “กับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องครอบครัวครับ อะไรเป็นอะไร มี 3 คน ที่รู้ ผม พ่อ และแม่เท่านั้น ผมไม่ขอพูดอะไรมากครับ (แม่ก็คือแม่) ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนคนไม่รู้อะไร หรือจะว่าอะไร ถ้าไม่รู้จริงหุบปากไป อย่าเสือกเรื่องครอบครัวครับ ขอบคุณมากครับ (และผมไม่เคยพูดจาไม่เคารพ และไม่เคยพูดว่าโดนแม่ทิ้ง)”
นับว่าเป็นข้อความที่แสดงออกถึงความอึดอัดคับข้องใจที่ล้นจนแทบจะระเบิดออกของหนุ่มแทคได้เป็นอย่างดี และผู้ชายที่เคยออกมายอมรับว่าตัวเองก็ “เหี้ย” คนนึง ก็เลือกที่จะระบายความอึดอัดใจออกมาด้วยข้อความที่ดุเดือดตามสไตล์ของเขา ก่อนที่คุณพ่อสมชายจะเตือนสติว่าแทคเป็นบุคคลสาธารณะ จะพูดหรือแสดงออกอะไรควรคิดไตร่ตรองให้มากกว่านี้ แทคจึงยอมที่จะออกมาโพสต์ข้อความยอมรับผิดว่า “บางข้อความที่เกิดขึ้นที่ผม ลงใน IG เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวผมที่เกิดขึ้น บางอย่างอาจใช้คำไม่สุภาพ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ เพราะมันเป็นอารมณ์ที่สุดๆ แล้วจริงๆ (รู้ว่าเป็นคนของประชาชนต้องรักษาภาพลักษณ์) แต่บางอย่างมันจี้จุดที่ใหญ่มาก จนทนไม่ไหว ขอให้เข้าใจผมด้วยนะครับว่าอยู่ตรงกลางมันลำบากจริงๆ ไม่สามารถพูดอะไรได้”
ตลอด 28 ปีที่ผ่านมา ชายหนุ่มที่ชื่อ “แทค ภรัณยู” มีพ่อ “สมชาย โรจนวุฒิธรรม” เป็นดั่งฮีโร่ โดยเฉพาะหลังจากที่คุณแม่ “ชนิกา อภิชัย” แยกทางกับคุณพ่อสมชายตั้งแต่ตอนที่แทคอายุได้ 8 ขวบ หลังจากที่ธุรกิจร้านขายของชำ ขายไส้กรอก และสุรา ที่สมชายร่วมกันทำกับชนิกาซึ่งเปิดเป็นเจ้าแรกที่อำเภอแม่ริมไปไม่รอด การเดินจากไปของชนิกาทำให้สมชายต้องต่อสู้ดิ้นรนทั้งทำงานและเลี้ยงดูลูกทั้งสองเพียงลำพัง
และนั่นก็ทำให้ภาพความทรงจำที่แทคมีต่อแม่อาจไม่ค่อยสวยงามนัก ฝั่งแม่ชนิกาบอกว่าพ่อสมชายเป่าหูลูกให้เกลียดตน ซึ่งสมชายก็บอกว่าชนิกาดูละครมากไป และแทคเองก็เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เขายืนยันว่าไม่เคยทำแบบนั้นแน่นอน
ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเรื่อง สมชายเลือกที่จะบินลงมาจากเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่เขาปักหลักอยู่อาศัยและทำธุรกิจโรงแรมที่เจ้าตัวบอกว่ากำลังไปได้สวยเพื่อเคลียร์ข่าวนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวกระทบจิตใจลูกชาย ส่วนแทคที่ยืนยันว่ารู้สึกลำบากใจเพราะเป็นคนกลางที่อยู่ระหว่างทั้งพ่อและแม่เลือกที่จะปิดปากเงียบหลังจากที่ได้ระเบิดระบายผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวไปแล้วชุดใหญ่
ทุกสื่อทุกช่องทางที่สมชายออกไปพูด เขาจะเล่าเรื่องราวในอดีตเหมือนกันตลอดว่าการแยกทางระหว่างเขากับชนิกาเกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็ได้เอ่ยปากร้องขอว่าไม่อยากมีถึงขั้นหย่าร้างเพราะสงสารลูก แต่ชนิกาก็ตัดสินใจเดินจากไปโดยให้สมชายเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกตามลำพัง โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมาสมชายบอกว่าไม่ได้คุยหรือติดต่อกับชนิกาเลย ทั้งสองต่างมีสภาพเหมือนคนตายจากกันไปแล้ว
ส่วนฝ่ายแทคยังคงติดต่อกับคุณแม่บ้างแบบนานๆ ที ซึ่งระยะแรกก่อนที่แทคจะมีผลงานในวงการบันเทิง คุณแม่ชนิกาก็ส่งเงินมาจุนเจือแทคกับน้องบ้าง แต่แทคก็ยังคงสนิทกับพ่อมากกว่าเนื่องจากพบเจอ พูดคุย และพักอยู่ด้วยกันมาตลอด
ชนวนเหตุที่ชนิกาปรี๊ดแตกจนต้องคอมเมนต์ข้อความแฉแทคในที่สาธารณะมาจากภาพที่แทคโพสต์ลงในอินสตาแกรมของเขา ซึ่งเป็นภาพคุณพ่อสมชายกับรถคลาสสิกคันใหม่ที่แทคซื้อให้เป็นของขวัญ โดยก่อนที่แทคจะมอบรถคันนี้ให้พ่อ แทคเป็นฝ่ายเดินมาถามคุณพ่อด้วยตัวเองว่าอยากได้รถคลาสสิกสักคันไหม เพราะรู้ดีว่าพ่อของตัวเองชอบรถคลาสสิกมาก เมื่อพ่อสมชายตอบตกลง แทคก็มอบรถคันนี้ให้เป็นของขวัญ ซึ่งแม่ชนิกาบอกว่ารถคันนี้ใช้เงินจำนวนห้าแสนบาทที่ตนมอบให้แทคซื้อมา ซึ่งนี่เป็นสาเหตุของความน้อยเนื้อต่ำใจที่เกิดขึ้นจนต้องคอมเมนต์แฉไปว่าที่ผ่านมาลูกชายคนนี้ไม่เคยดูแลส่งเสียตนเอง ไม่เคยโทรศัพท์มาหา ช่วงสงกรานต์ก็ไม่เคยกลับไปเยี่ยมคุณตาที่ต่างจังหวัด ทำเสมือนกับว่าไม่เคยมีแม่อยู่ร่วมโลก และสุดท้ายชนิกาก็บอกว่าถ้าคิดว่าไม่มีแม่ก็ขอให้ทั้งพ่อสมชายและแทคคืนเงินจำนวนห้าแสนบาทที่เธอให้ไปด้วย
ซึ่งเรื่องการให้เงินก้อนดังกล่าวสมชายปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยได้รับเงินจากชนิกาเลย ไม่ว่าจะให้ยืมหรือให้เปล่า เขาบอกว่าที่ผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวเองมาโดยตลอด และเชื่อว่าสาเหตุลึกๆ ที่อยู่ดีๆ แม่ของแทคโผล่ออกมาเรียกร้องการตอบแทนบุญคุณจากแทคก็เพราะเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจหลังจากที่เห็นและรับรู้เรื่องราวความรักความสนิทสนมระหว่างเขากับลูกชายมาโดยตลอด
“กับผมเขาจะติดต่อกับผมตลอด แบบเวลาเขาโทร.มา เขาก็จะบอก สมชายไปไหน สมชายก็คือผม ผมก็จะบอก แล้วภรัณยู อยู่ไหน ประมาณนี้ คือ เราถามห่วงใยกันตลอด เหมือนเป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็บอกกันสอนกัน”
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าด้วยปมเล็กๆ แต่ลึกที่สมชายสันนิษฐานเป็นเหตุให้ชนิกาต้องใช้ยุทธวิธีแฉลูกตัวเองออกอากาศเช่นนี้เลยหรือ หรือแท้จริงแล้วจะมีสาเหตุอะไรกันแน่ที่วันดีคืนดีคุณแม่ที่เงียบหายไปนานกว่า 20 ปีจะลุกขึ้นมาประกาศว่าที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเลี้ยงดูหรือติดต่อตนเองเลย เพราะ ณ วันนี้คงมีเพียงคนสามคน นั่นคือ พ่อสมชาย แม่ชนิกา และคนเป็นลูกอย่างแทคเท่านั้นที่จะรู้ดีว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาละเอียดอ่อนสำหรับสังคมไทยเช่นนี้คืออะไร
.........................................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 195 วันที่ 29 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2556