xs
xsm
sm
md
lg

“ดอกไม้พลาสติก” ...บทเพลงคลาสสิกจาก “เต๋อ 2/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด(skbon109@hotmail.com)
เต๋อ : เรวัต พุทธินันทน์ 1 ในบุคคลสำคัญของวงการเพลงไทย(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
“เวลาดูดอกไม้ปลอมๆบางดอก ดูสวยเกินใคร ดูๆไปมันไร้คุณค่า เพราะว่าเป็นพลาสติก ถึงแต่งเติมสีเข้าไป ไม่จับใจเหมือนของจริง เวลาดูผู้หญิงบางคน ที่แต่งเติมสวยเพียงอย่างเดียว...”

ดอกไม้พลาสติก : เรวัต พุทธินันทน์

หลังจาก “น้าเต๋อ : เรวัต พุทธินันทน์” จับมือกับ “อากู๋ : ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ก่อตั้งบริษัทแกรมมี่ เอนเตอร์เทรนเมนต์ หรือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ขึ้น ในปี พ.ศ. 2526 ที่ถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการเพลงไทย ซึ่งอุดมการณ์ทางดนตรีของแกรมมี่ในวันนั้นแตกต่างจากแกรมมี่ในวันนี้อย่างสิ้นเชิง

ในปี 2526 เช่นเดียวกัน น้าเต๋อได้ออกอัลบั้มชุดแรก “เต๋อ 1” มาเขย่ายุทธจักรวงการเพลงไทย

อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จทั้งยอดขาย ชื่อเสียง ได้ชื่อว่าเป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา ซึ่งเมื่อกาลเวลาผ่านพ้นมา อัลบั้มเต๋อ 1 ได้กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มคลาสสิกของวงการเพลงไทย มีเพลงดังๆที่คงอมตะมาจนถึงวันนี้ อาทิ “ที่แล้วก็แล้วไป”, “มือน้อย”, “เจ้าสาวที่กลัวฝน”, “หมู่บ้านในนิทาน” และ “ยิ่งสูงยิ่งหนาว”

ทิ้งช่วงไปประมาณ 2 ปี น้าเต๋อได้ส่งอัลบั้ม “เต๋อ 2” ออกมาสู่วงการเพลง อัลบั้มชุดนี้ยังคงได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่หนีห่างไปจากเต๋อ 1 ไปสักเท่าไหร่ แม้โดยรวมอาจจะไม่ถึงขั้นเต๋อ 1 ก็ตาม
อัลบั้มเต๋อ 2
อัลบั้มเต๋อ 2 ภาคดนตรีโดยรวมยังคงเป็นป็อบร็อกเหมือนกับชุดแรก แต่ว่าดนตรีมีความลึก ซับซ้อน ความเป็นป็อบถูกลดทอนลงไป แทนที่ด้วยฟังก์ แจ๊ซ รวมไปถึงกลิ่นของโปรเกรสซีฟ ที่ชวนให้นึกถึงชุด “เรามาร้องเพลงกัน” ที่เป็นการร่วมงานกันระหว่างเต๋อกับกลุ่มคีตกวี อัลบั้มเต๋อ 2 จึงมีเพลงที่ติดหูน้อยกว่า ฟังยากกว่าชุดเต๋อ 1

ส่วนด้านภาคเนื้อหานั้นก็ยังคงความหลากหลาย มีทั้งเพลงรัก อย่าง“เมื่อรักมาเยือน” เพลงเพื่อเด็ก คือ “บทเพลงเพื่อเด็ก” เพลงให้กำลังใจ ได้แก่เพลง “กำลังใจ” บทเพลงธรรมะพูดถึงกฎแห่งกรรมอย่าง “เป็นเวรเป็นกรรม” บทเพลงเชิงอุดมคติกับซาวนด์ดนตรีล้ำแบบโพรเกรสซีพอย่าง “ณ โลกสีขาว”

ขณะที่เพลงเด่นเพลงดังในอัลบั้มนี้ มี อยู่ 4 เพลง ที่ผมจะขอหยิบยกมาบอกเล่ากัน ได้แก่ “ชายแปลกหน้า”(เพลง 4) บทเพลงเศร้าๆพูดถึงชายที่ผิดหวังจากความรักของคนจึงเปลี่ยนใจไปรักหมาแทน

มันแปลกดีนะ” (เพลง 3) มาในกลิ่นดิสโก้ฟังก์ เด่นและฟังแปลก(สำหรับยุคนั้น) ด้วยเทคนิคการให้น้าเต๋อร้องนำ และมีคอรัสเป็นลูกคู่ร้องตามในเนื้อหาที่แตกต่าง พูดถึงอิทธิพลของแฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม ที่คนไทยเราได้รับอิทธิพลมาจากต่างแดน แล้วน้าเต๋อตั้งคำถามว่า ทำไมเราต้องทำตามเขาด้วย ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครที่ไหน พ่อแม่ก็ไม่ใช่

เนื้อหาเพลงนี้สะท้อนสังคมในยุคนั้นที่แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้ว แต่บ้านเราก็ยังคงนิยมลอกเลียนและเดินตามเขาอยู่ไม่เสื่อมคลาย แถมยุคหลังๆมานี่ ดูเหมือนจะยิ่งหนักหนาสาหัสมากขึ้น เอ้อ ฟังแล้วก็ “มันแปลกดีนะ”

อกหักไม่ยักกะตาย”(เพลง 2 ) บทเพลงในอารมณ์แจ๊ซฟังก์ ไลน์เบสกระตุกๆฟังมัน กีตาร์ตีคอร์ดเล่นลูกหยอด ลูกขัดได้น่าฟัง ท่อนกลางมีแซกโซโฟนโซโลเจ๋งทีเดียว

เพลงนี้ฟังผ่านๆเป็นบทเพลงสนุก มองความรักที่ผิดหวังในแง่บวกว่าอกหักไม่ยักกะตาย แต่ถ้าฟังกันแบบจับใจความสำคัญนี่คือบทเพลงให้กำลังใจชั้นดีที่นำเสนอได้อย่างแยบยล

มาถึงเพลงดัง เพลงสำคัญประจำอัลบั้ม นั่นก็คือ “ดอกไม้พลาสติก” เพลงนี้เป็นเพลงเปิดอัลบั้ม อะคูสติกกีตาร์เล่นปิ๊กกิ้งนำมา เป็นหนึ่งในลูกปิ๊กกิ้งยอดฮิตที่คนสมัยนั้นนิยมแกะเล่นกันมาก จากนั้นดนตรีส่งเข้าตัวเพลงที่มีความเป็นป็อบ ฟังติดหูที่สุดในอัลบั้ม

ดอกไม้พลาสติกพูดถึงการมองคน หรือมองอะไรก็ตามแต่ อย่ามองแค่เปลือก โดยเปรียบดอกไม้พลาสติกกับผู้หญิงที่แม้หน้าตาและรูปกายของเธอจะดูสวย แต่เธอเป็นประเภทของปลอม เป็นดอกไม้พลาสติก ที่จิตใจนั้นไม่สวยเลย

“...ดอกไม้พลาสติก ถึงสวยก็ทำด้วยพลาสติก ฮืม...พลาสติก ของแท้ดูกี่ครั้งก็ดูดีนะ ของแท้มีชีวิต ชีวาดีนะ ของแท้แม้ไม่สวยก็ดูดี แต่ดอกไม้พลาสติก ถึงสวยก็ทำด้วยพลาสติก ฮืม...พลาสติก จึงเป็นเพียงสิ่งปลอมๆ...”

เพลงนี้ ในยุคนั้น ผมยังเป็นเด็กอยู่ฟังแล้วจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อมาฟังในยุคนี้พบว่ามันยังคงร่วมสมัยและสะท้อนความจริงออกมาได้เป็นอย่างดี

ประทานโทษ!?! ผู้หญิงบางคนนะ รูปร่างหน้าตาแม้จะดูสวยงามเฉิดฉาย แต่จิตใจเธอนั้นกลับน่ากลัว สามารถให้ร้าย ทำร้าย ทำลายประเทศชาติแผ่นดินเกิดได้ ผู้หญิงประเภทนี้นอกจากสวยแต่รูปจูบไม่หอมแล้ว เธอยังเป็นประเภทสวยแต่โง่อีกด้วย

ด้วยความลงตังของเนื้อหา ดนตรี และวิถีคิด ทำให้เพลงดอกไม้พลาสติก กลายเป็นเพลงที่ฮอตฮิตโด่งดังที่สุดในอัลบั้มเต๋อ 2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบทเพลงของน้าเต๋อที่ยังคงความเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้
อัลบั้มเต๋อ 3
หลังอัลบั้มเต๋อ 2 ไปได้สวย ประสบความสำเร็จเดินตาม เต๋อ 1 ปี 2529 น้าเต๋อ ส่งอัลบั้มเต๋อ 3 ออกมา

อัลบั้มชุดนี้ความสำเร็จเทียบไม่ได้กับ 2 ชุดที่แล้ว แม้น้าเต๋อจะยังคงมีไอเดียในการทำเพลง แต่ด้วยความที่เต๋อ 1 ออกมาสร้างความแปลกใหม่ เต๋อ 2 คนเริ่มจับทางถูก เต๋อ 3 จึงไม่หวือหวาเท่าที่ควร

แต่กระนั้นอัลบั้มชุดนี้ก็มีเพลงเด่น เพลงดัง เพลงดี ได้แก่ “สองเราเท่ากัน” พูดถึงความเท่าเทียมกันของหญิงชาย เพลงนี้น้าเต๋อใส่เสียงพูดนำในต้นเพลง ถือเป็นความแปลกใหม่ไม่น้อยในยุคนั้น ขณะที่ภาคดนตรีนั้นก็ถือว่าไพเราะ น่าฟังมาก

สมปองน้องสมชาย” ที่สามารถสร้างวลีฮิตสมปองน้องสมชายขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ เพลงนี้แม้ดนตรีฟังสนุก เต็มไปด้วยสีสันโดยเฉพาะเสียงเพอร์คัสชั่น แต่เนื้อหานั้นออกไปทางรันทดว่าด้วยสมปองน้องสมชายที่ต้องจากบ้านเกิดเพราะเงินไม่มี มาดิ้นรนต่อสู้มาทำงานกินเงินเดือนน้อย ซึ่งเขามักจะคิดถึงบ้านน้ำตาไหลทุกทีไป อ้อ!! เพลงนี้ในช่วงคอรัสบางช่วงมีเสียงคอรัสของผู้ชายเสียงแหลมฟังเด่นชัด เขาคนนี้ก็คือ พี่โต้ ชีริก “ติ๊ก ชีโร่”นั่นเอง

ฝัน” บทเพลงเนื้อหาดี พูดถึงความฝันของคนเราที่เมื่อตอนวัยเยา ตอนเป็นหนุ่ม-สาว เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งไฟฝันอันลุกโชน แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาต้องอยู่ในโลกแห่งความจริง ความฝันได้ถูกเซาะกร่อน กลายเป็นความฝันที่เจือจาง หรือกลายเป็นฝันที่ตายแล้วสำหรับบางคน นี่คือบทเพลงเตือนใจ ที่หากใครมีโอกาสก็น่าที่จะไปทบทวนตัวเอง หาเวลาไปตามหาฝันในอดีตบ้างก็ดี

เมืองใหญ่เมืองนี้” เพลงร็อกหนักๆ ภาคกีตาร์เจ๋งมาก ทั้งไลน์เมโลดี้หลัก ลูกโซโล ลูกริทึ่ม บทเพลงนี้ฉายภาพวิถีเมืองกรุงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กับเมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใครๆที่หลายๆคนต่างหลั่งไหลเดินทางเข้ามาอยู่อาศัย แต่ทว่าในเมืองที่ผู้คนมากมายนั้นกลับไร้น้ำมิตรจิตใจ แก่งแย่งแข่งขัน มากไปด้วยปัญหาสารพัน

“...เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใครๆ ทั้งที่คนมากมาย ดู ๆ ไปเหมือนไร้ผู้คน
มองดูเพลิน ๆ คนเดินมาแล้วเดินไป คนเดินเป็นใคร ไม่รู้จัก ไม่ทักมาย
สายตาที่เห็น เห็นเพียงผ่านไป ไร้คนเข้าใจ ไม่มีใครเห็นความเป็นคน...”

นี่คือเนื้อเพลงที่สื่อออกมาได้ตรงและโดนมาก

ปากคน” บทเพลงฟังกี้มันๆ พูดถึงปากคนที่มีทั้งนินทา ปากเสีย ปากหมา แต่งเสริม เติมแต่ง บิดเบือน สารพัด เพลงนี้กีตาร์มีการนำเทคนิค Slap Guitar มาใช้ ถือเป็นเจ้าแรกๆในวงการเพลงไทย

คงมีสักวัน” บทเพลงเนื้อหาดี ให้กำลังใจ ที่วันนี้ยังคงถูกมาร้องกันในหลายโอกาสหลายวาระ เพื่อให้กำลังใจกันและกัน
อัลบั้มชอบก็บอกชอบ
จากอัลบั้มเต๋อ 3 น้าเต๋อ ส่งอัลบั้ม “ชอบก็บอกชอบ” มาในปี 2530 ชุดนี้มีเพลงใหม่เพียง 2 เพลง คือ “ชอบก็บอกชอบ” และ “อย่างน้อยก็คิดดี” ที่เหลือเป็นการรวมเพลงดังเพลงเด่นจากอัลบั้มเต๋อ 1 ถึง เต๋อ 3 อาทิ “ยิ่งสูงยิ่งหนาว”, “เมืองใหญ่เมืองนี้”, “มือน้อย”, “ที่แล้วก็แล้วไป”, “เจ้าสาวที่กลัวฝน”, “ดอกไม้พลาสติก” เป็นต้น

จบจากอัลบั้มชอบก็บอกชอบ น้าเต๋อก็ไม่ได้มีผลงานสตูดิโออัลบั้มออกมาอีกเลย หากแต่ได้หันไปทำงานเบื้องหลัง เป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง สร้างความสำเร็จให้กับนักร้องนักดนตรีมากมาย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2539 ความเศร้าได้มาเยือนวงการเพลงบ้านเราอีกครั้งเมื่อ น้าเต๋อ เรวัต ได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็ง อำลาจากโลกนี้ไป ปิดตำนานนักร้องหนวดงาม พี่ชายใจดี

ที่วันนี้แม้น้าเต๋อได้จากไปนานแล้ว แต่ชื่อของเขา บทเพลงของเขา และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาสร้างมายังคงอยู่

ขอคารวะแด่ เรวัต พุทธินันทน์ อีกหนึ่งบุคคลสำคัญของวงการเพลงไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น