“ยังบาว เดอะ มูฟวี่” วุ่นอีก “อาโจว ยุทธกร สุขมุกตาภา” ผู้กำกับ ต้องพึ่งศาลฟ้องร้อง “ยามาฮ่า” หลังถอนตัวคอนเสิร์ตยังบาว 50 รอบทั่วประเทศ ในขณะที่หนัง แป้ก คนไม่ดู ปัญหารุมเร้า ท่าทางจะเจ๊งไปไม่รอด หนังเข้าโรงแต่รายจ่ายยังไม่มีคนเคลียร์เพราะสปอนเซอร์ถอนตัว วงในเผยผู้กำกับอีโก้สูง เน้นแต่ผล ประโยชน์จาก “เขาควาย” เป้าหมายไม่ตรงจุด แถมพระเอกไม่ดึงดูดสปอนเซอร์หาทางรอดเลยถอนตัวจับเสือมือเปล่า งานนี้ ล้มไม่เป็นท่า!
เรียกว่าเป็นโปรเจกต์ยักษ์ของหนัง “ยังบาว เดอะมูฟวี่” ที่ต้องบอกว่ามีปัญหาตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งหนังเข้าฉายก็ยังมีปัญหาต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที การเปลี่ยนตัวโปรดิวเซอร์จาก “อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร” เป็น “ปึ๊ด ธนิตย์ จิตนุกูล” เข้ามาทำหน้าที่แทน และว่ากันว่าการทำงานของอาโจว ผู้กำกับโฆษณาน้องใหม่มีวิถีการทำงานแตกต่างจาก “อุ๋ย นนทรีย์” ชัดเจนถึงต้องทางใครทางมัน อุ๋ยขอถอนตัวเงียบๆ ท่ามกลางการไปถ่ายทำหนังเบื้องต้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ของทีมงาน
หลังจากเปลี่ยนตัวโปรดิวเซอร์แล้ว ไม่นานนักก็มีเหตุว่า “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องขาร็อกที่จะเข้ามารับบทบาท “แอ๊ด คาราบาว” ขอถอนตัวเช่นเดียวกัน จนมีข่าวว่าอาโจวจะไปฟ้องแกรมมี่ที่ไม่ให้คิวตูน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตูนมีคิวแสดงและตั้งใจเต็มที่กับงานแสดงครั้งนี้ แต่เพราะทีมงานและการทำงานที่ไม่เป็นระบบจึงทำให้ตูนขออนุญาตถอนตัวและแกรมมี่ก็จัดการคืนค่าตัวให้ในที่สุด จนได้ “บอม ธนา เอี่ยมนิยม” เด็กปั้นอีกหนึ่งคนของ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่ค่าตัวอาจไม่ได้ถึงตูน แต่ก็ได้เสียบแทนและทำให้หนังได้เข้าโรงฉายได้สำเร็จ ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า หากเรื่องนี้ตูนไม่เล่น สปอนเซอร์รายใหญ่ อย่าง “ยามาฮ่า ไทยมอเตอร์” ก็หวั่นใจว่าอาจจะถอนตัว แต่ในตอนนั้น ทางผู้กำกับอย่างอาโจวยืนยันว่า สัญญาต่างๆ ไม่มีปัญหาและทุกคนจะได้ชมหนังอย่างแน่นอน
ความพยายามดันทุรังและผลักดันโปรเจกต์นี้ก็สำเร็จ เมื่อหนังได้เข้าโรงฉายอย่างสมความตั้งใจ แม้ว่าจะผ่านปัญหาอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องเงินทุนที่ต้องบอกว่า ได้มาจากสปอนเซอร์รายใหญ่นั่นคือ ยามาฮ่า ที่ให้มาโดยตลอดหลายสิบล้าน และเป็นกองหนุนหลักที่หนังเรื่องนี้จะนำมาใช้จ่ายทั้งเรื่องค่าตัวนักแสดงการถ่ายทำ โปรโมตและคอนเสิร์ต ซึ่งรวมไปถึงการทัวร์คอนเสิร์ตของคาราบาววงใหญ่ วงเล็ก ที่จะมารวมตัวกันทั่วประเทศ ทั้งฉายหนังและมีคอนเสิร์ตประกอบ จนมาถึงวันนี้ คอนเสิร์ตยังคงหยุดชะงัก เพราะไม่มีเงินสำรองในส่วนนี้ เนื่องจากยามาฮ่าของถอนตัว
ร้อนจนอาโจว ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ต้องออกมาแถลงข่าวว่าต้องมีการฟ้องร้อง โดยนาย “อุดม โปร่งฟ้า” ทำหน้าที่เป็นทนาย ยื่นฟ้องยามาฮ่าไทยมอเตอร์ในครั้งนี้ เนื่องจากทางสปอนเซอร์ขอถอนตัวและมีผลกระทบคือ ไม่มีรายได้ไปจ่ายในส่วนต่างอื่นๆ หรือว่ากันง่าย ทางยามาฮ่า ไทยมอเตอร์ เล็งเห็นแล้วว่าในการสนับสนุนครั้งนี้ จะขอเป็นผู้สนับสนุนร่วมเพียงเท่านั้น และไม่ขอเป็นผู้สนับสนุนหลัก เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่าคอนเสิร์ตและภาพยนตร์ที่เข้าฉายอาจไม่เป็นไปตามที่ตกลง ซึ่งน่าจะมาจากการถอนตัวของ “ตูน บอดี้สแลม” ตั้งแต่แรก
ซึ่งแน่นอนว่า ร็อกสตาร์อย่างตูน จะสามารถเรียกความน่าสนใจของกลุ่มคนได้มากกว่าการแสดงของศิลปินเบอร์อื่น ดังนั้น ทางยามาฮ่าจึงอยากยกเลิกสัญญา และขอให้ยกเลิกการใช้โลโก้ของยามาฮ่าด้วย ซึ่งทางอาโจวและทีมงานแกรนด์บิ๊กแบง ซึ่งได้มีการจัดทำของพรีเมียม และป้ายต่างๆ ออกไปแล้ว ต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจงว่าขั้นตอนดังกล่าวได้กระทำไปแล้ว และมีการล็อกคิวศิลปินไว้ตั้งแต่ช่วง เดือนพฤษภา ถึง สิงหาคมแล้ว ซึ่งมีมูลค่านับร้อยล้าน แต่งานนี้ เมื่อสปอนเซอร์รายใหญ่ถอนตัว อาโจวยังไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน?
เรื่องราวของอาโจว์กับสปอนเซอร์ยังคงต้องฟ้องร้องกันอีกยาวไกล เพราะว่าการลงทุนทั้งหมดทั้งมวล แล้วว่ากันง่ายๆ ใครก็อยากได้กำไร แต่เมื่อมองไม่เห็นว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไร ยามาฮ่าจึงต้องทบทวน และทำให้อาโจวต้องออกมาแถลงข่าวพร้อมทนาย และจบลงกันที่ชั้นศาล
ในเรื่องของการตลาดยังไม่จบ แต่ในเรื่ององค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องของหนัง ที่หลายคนดูแล้วนอกจากเรื่องรำคาญหนวด ความรุงรัง ก็เห็นว่าหนังพอใช้ได้ ไม่ถึงกับเลวร้าย และหากเรื่อง “ความเป็นหนัง” แฟนเพลงคาราบาวที่ยังหลงรักเขาควายทั้งหลาย แม้ว่าในวันเปิดตัวรอบสื่อ แกนนำวงคาราบาวจะมาไม่กี่คน แต่ก็ยังสยบข่าวได้ว่าเดินทางไปคอนเสิร์ตต่างจังหวัดและหลังจากเปิดตัวเข้าโรงไม่นาน รายได้ 4 วัน (30 พ.ค.-2 มิ.ย.) อยู่ที่ 2.35 ล้านบาท ซึ่งเรียกว่าหืดขึ้นคอกับเงินลงทุนไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท ที่พอไม่มี “ตูน บอดี้สแลม” ในคอนเสิร์ตที่อยากทัวร์ทั่วประเทศ 50 จังหวัด รายได้จากตรงไหนจะมาใช้จ่ายก็ต้องรอดูกันต่อไปค่าตัวนักแสดงที่ยังจ่ายไม่ครบก็จะได้ทยอยจ่าย
เรื่องราวในโรงฉายก็ถูกบรรเลงไปด้วยหนังที่แฟนคลับคาราบาว ยังไม่ได้เข้าโรงดู แต่ที่แน่ๆ รายได้จากหนังอย่างเดียวคงไม่พอกับงบโปรโมตคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ว่ากันว่า คือจุดขายและจุดทำกำไรของบริษัทแกรนด์บิ๊กแบง ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อสปอนเซอร์ถอนตัว ความฝันล่มสลาย อาโจวจะแก้สถานการณ์เรื่องนี้อย่างไร คงให้ศาลชี้ขาด เพราะยามาฮ่าคงเล็งเห็นแล้วว่า “ไม่น่ารอด” โปรเจกต์เขาควาย ขายได้และมหาศาล ใครก็อยากได้ ผู้กำกับคนนี้ก็คือ 1 ในแฟนคลับตัวยงของ “แอ๊ด คาราบาว” ที่หวงโปรเจกต์นี้ราวกับไข่ในหิน นี่คงเป็นการรับน้องที่แสนสาหัส กับโปรเจกต์ยักษ์ที่ปัญหารุมเร้าตั้งแต่เปิดกล้องจนกระทั่งหนังฉาย และคงไม่จบง่ายแน่นอนสำหรับเรื่องเงินๆทองๆ ซึ่งกำลังรุงรังอย่างหาที่จบไม่ได้ในขณะนี้...
........................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 192 วันที่ 8-14 มิถุนายน 2556