"วิสูตร" โว "พี่มากฯ" 564 ล้านแล้ว ฟุ้งกระแสดี ปัดจีนแบน ซื้อไปแล้วหวังผ่านกองเซ็นเซอร์ที่นั้น เตรียมให้โบนัสนักแสดงในเรื่อง โปรเจตค์ต่อไปปลายปีหนังผีเหมือนเดิม ผู้กำกับคนเดียวกับลัดดาแลนด์
เรียกว่าเป็นหนังที่ทำลายทุกสถิติสำหรับภาพยนตร์เรื่อง พี่มากพระโขนง ที่ยอดรายได้ล่าสุดอยู่ที่ 564 ล้านบาทแล้ว และฉายวันสุดท้ายวัน 31พ.ค. นี้ ซึ่งพอมีโอกาสได้เจอ "วิสูตร พูลวรลักษณ์" ประธานสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติและประธานกรรมการบริหารบจ.จีเอ็มเอ็มไทหับ สอบถามถึงภาพยนต์ดังกล่าวว่าเป็นภาพยนต์ที่กระแสดีมาก รายได้ดีทะลุเป้านั้นมีผลมาจากอะไรนั้นเผยว่า
"พี่มาก ณ เวลานี้ก็ 564 ล้านแล้วครับ ฉายถึงแค่สิ้นเดือนนี้ครับ แต่ตอนนี้ก็เริ่มแผ่วแล้วครับ แค่นี้ก็ถือว่าเกินเป้าแล้วครับไม่รู้กี่เท่าตัวแล้วครับ จริงๆ เราตั้งเป้าไว้ว่าหวัง 200 ล้านแต่ก็ยังคิดว่าหวังเยอะไปหรือเปล่าแต่พอมันทะลุปุ๊บมันก็ไปเร็วมากเลย ครับ จริงๆอยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นหนังของคนดูทุกกลุ่มเลยก็ว่าได้แล้ว ผลตอบกลับก็ดีมาก ประกอบกับว่ายุคนี้เป็นยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค พอคนออกมาจากโรงปุ๊บก็ส่งต่อกันเลยมันเลยทำให้ตัวเลขแทบจะไม่ดรอปเลย มันขึ้นอยู่ตลอดเวลา ถ้าบอกว่าไม่มีเทปผีซีดีเถื่อนมีนะ แต่ทำอะไรเราไม่ได้เพราะว่าคนอยากดูหนังเรื่องนี้เพราะว่ากระแสมากกว่า ก็เหมือนกับอยากเข้ามีส่วนร่วมอยากเข้ามามีประสบการณ์"
โกอินเตอร์ทั่วอาเซียน
"ตอนนี้ที่ฉายจริงๆ จังๆ ก็มีที่อินโดนิเซียแล้วก็กำลังจะไปฉายที่ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ แถบๆ อาเซียนก็จะไปเกือบหมดเลย แต่ที่อินโดนิเซียรอบกาล่าคนเยอะมาก เพราะว่าส่วนหนึ่งคนอาจจะเป็นแฟนของจีทีเอชอยู่ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นแฟนคลับ ของมาริโอ้ (มาริโอ้ เมาเร่อ) ก็ต้องยอมรับว่าชาวอินโดนิเซียตอนนี้เขาชอบดูหนังไทยกันมาก มันเริ่มมาตั้งแต่ที่เราไปเปิดตัวกวนมึนโฮจนมาถึงทุกวันนี้เหมือนเรามีแฟน ประจำอยู่และเขาก็ติดตามเรามาตลอด ตัวเลขก็อยู่ในระดับดีประมาณหนึ่ง แต่ยังสู้ลัดดาแลนด์ไม่ได้ เพราะว่าลัดดาแลนด์เป็นทอปเรคคอร์ดของที่นั่น ตอนนี้ในเรื่องของพี่มากฯเริ่มจะไปขายในพื้นที่ที่เรายังไม่เคยขายอย่างลาว พม่า เวียดนามเขาเริ่มมีการติดต่อ เขามาขอซื้อแต่ยังไม่ได้สรุปราคาครับ"
"ส่วนในเรื่องของทางประเทศจีนที่บอกว่าแบนหนังพี่มากฯไม่ใช่เลยครับ ต้องขอพีอาร์เลยครับว่าจริงๆ มันเป็นข่าวที่เข้าใจผิดกัน ตอนนี้เรามีคนติดต่อซื้อแล้วบริษัทจีนมาซื้อหนังพี่มากฯไปแล้วแล้วก็ยังอยู่ ในการเตรียมการที่กำลังจะเซ็นเซอร์ยังอยู่ในขั้นตอนการเซ็นเซอร์เพราะว่ายัง ไม่ได้เซ็นเซอร์อะไรเลย ฉะนั้นที่มีข่าวบอกว่าไม่ให้ฉายน่าจะเป็นเพราะว่าเขาคงจะไปฟังว่าประเทศจีน มีกฎว่าห้ามหนังผีฉาย ซึ่งผมเองเพิ่งไปปักกิ่งมาเมื่อเดือนที่แล้ว ผมไปคุยกับทีมงานที่เป็นกองเซ็นเซอร์โดยตรง เขาบอกว่าเขาไม่ได้มีข้อห้ามเกี่ยวกับหนังผีแต่ว่าเขามีข้อห้ามเกี่ยวกับว่า หนังที่ทำให้ประชาชนของเขาหวาดกลัว หรือทำให้เขาเกิดในความเชื่อไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เขายกตัวอย่างหนังสือเรียกว่าคนที่ตายไปแล้ว แต่เขาบอกว่าบทสรุปของหนังมาแล้วไม่ได้เป็นหนังผีหรือเป็นสิ่งดีงามไม่ได้ทำ ให้ผู้คนของเขาสบายใจก็สามารถฉายได้ แม้แต่หนังผีเองก็สามารถฉายได้"
ไม่มีแพลนพานักแสดงในเรื่องฉลองรายได้
"ไม่มีครับ ไม่มีแต่ว่าเรามีแพลนว่าวันที่ 29 พ.ค.นี้ จะมีงานใหญ่คล้ายๆ ว่าเป็นงานปิดยอดของรายได้ อันนี้เราจะมีเจ้า ภาพรว่มกัน 8 เจ้าด้วยกัน มีสายหนังด้วย มีโรงหนังด้วย แล้วก็เราจัดที่ "เรทโทรไลฟ์คาเฟ่ "ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติต์ เชิญนักข่าวด้วยครับ ส่วนโบนัสของนักแสดงก็คงเป็นไปตามข้อตกลงอยู่แล้ว อย่างนักแสดงที่เขารับเป็นค่าตัวต่างหากเราก็จะมีเพิ่มโบนัสให้เขาครับ"
เผยโปรเจตค์ต่อไปหนังผีเหมือนเดิม ผู้สร้างคนเดียวกับลัดดาแลนด์
"โปรเจคต์ต่อไปก็คงเป็นของจิม (โสภณ ศักดาพิสิษฏ์)ที่ทำในเรื่องลัดดาแลนด์ แต่คิดว่าอาจจะเป็นปลายปีเลย เป็นเหมือนลัดดาแลนด์แต่แนวคงไม่เหมือนแน่ๆ เพราะว่าจิมเขาก็คงมีทางของเขาเอง เพราะว่าปีละหนึ่งเรื่องเป็นทางของเราที่ต้องทำหนังผีอยู่แล้ว เราไม่กดดันในการทำหนัง เพราะว่าในการทำงานเรามีหนังร้อยล้านอยู่ 8 เรื่องก็ตามเราก็ต้องค้นพบความเป็นจริงว่าหนังก็คือหนังครับ ไม่ได้เป็นคำตอบว่าวันนี้เราได้แล้ว แล้วเราจะได้อีกเราเข้าใจสัจธรรมว่าหนังมันเป็นแบบนี้มันไม่มีสูตรสำเร็จ อะไรที่ตายตัว ถือว่าพี่มากฯเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต อันนี้ก็คือเกิดขึ้นแล้ว แต่อย่าคิดว่ามันจะเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเกิดขึ้นอีก"
