สมาชิกวง Pink Floyd ต่างร่วมกันสดุดีความยอดเยี่ยมในผลงานของ “สตอร์ม ธอร์เกอร์สัน” ศิลปินผู้มีส่วนสร้างสรรค์หน้าปกอัลบั้มหลายๆ ชุดของวง ที่กลายเป็นตำนานแห่งวงการดนตรีร็อกไปแล้ว ซึ่งได้เสียชีวิตลงเมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อกอันลุ่มลึกซับซ้อนแล้ว งานศิลปะบนปกอัลบั้มโดย สตอร์ม ธอร์เกอร์สัน ก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลงานหลายๆ ชุดของ Pink Floyd เป็นที่จำจดมาอย่างยาวนาน จึงนับเป็นเรื่องเศร้าของวงการดนตรีไม่น้อย เมื่อศิลปินคนดังได้เสียชีวิตด้วยวัย 69 ปี ด้วยสาเหตุเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.หลังต่อสู้กับมะเร็งมาพักใหญ่
เส้นทางอันยิ่งใหญ่ของ ธอร์เกอร์สัน หนุ่มเชื้อสายนอร์เวย์ชาวอังกฤษเริ่มต้นขึ้นในปี 1968 ที่เขาได้ร่วมกับเพื่อนศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง อาทิ ออเบรย์ พาวล์ และ ปีเตอร์ คริสตอฟเฟอร์สัน ตั้งกลุ่ม Hipgnosis ขึ้นเพื่อรับงานกราฟฟิกดีไซน์ และมีโอกาสได้รับงานออกแบบปกอัลบั้มให้กับศิลปินชื่อดังมากมาย แม้ Hipgnosis จะแยกตัวไปในปี 1983 แต่ ธอร์เกอร์สัน ก็ยังมีผลงานต่างๆ ออกมาอีกมากมาย ทั้งการออกแบบปกอัลบั้มให้กับงานของ Led Zeppelin, Black Sabbath, Genesis, Muse, Ween, AC/DC, และ Paul McCartney & Wings อันเป็นงานซึ่งเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถือเป็นเหมือนสิทธิพิเศษที่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำงานท่ามกลางเสียงเพลง จึงทำงานเหล่านี้อย่างมีความสุข”
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นเป็นตำนานของ ธอร์เกอร์สัน ก็คือปกอัลบั้มชุด The Dark Side of the Moon ของ Pink Floyed อันเต็มไปด้วยความเรียบง่ายแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง กับภาพของแสงที่ผ่านแก้วพริสซึมจนออกมาเป็นสายรุ้ง บนพื้นหลังสีดำ หนึ่งในหน้าปกอัลบั้มของงานเพลงร็อกที่ดังที่สุดตลอดกาล
“ผมคิดว่ารูปสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความคิด และความทะเยอทะยาน คือประเด็นในเนื้อเพลงของ โรเจอร์ (วอลเตอร์)” ธอร์เกอร์สัน กล่าว “เพราะฉะนั้นภาพสามเหลี่ยมจึงใช้ได้ผลมาก โดยเฉพาะเมื่อปรับออกมาให้เป็นในรูปของพริสซึม จนตอนนี้ พริสซึม คือส่วนหนึ่งของ Pink Floyd ไปแล้ว”
ซึ่งนอกจากงานชุดนี้แล้ว เขาก็ยังออกแบบสร้างสรรค์ปกอัลบั้มให้กับ Pink Floyed อีกหลายชุด อาทิ Wish You Were Here, Animals, A Momentary Lapse of Reason, Delicate Sound of Thunder และ The Division Bell เป็นต้น
เดวิด กิลเมอร์ สมาชิกของ Pink Floyed กล่าวว่า ธอร์เกอร์สัน เป็นทั้งเพื่อนที่ยอดเยี่ยม และเป็นคนที่สามารพึ่งพิงได้ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว
"เราพบกันตอนที่ต่างฝ่ายอายุแค่ 10 กว่า ๆ ในสถานที่ซึ่งเรียกว่า Sheep's Green บริเวณแม่น้ำที่แคมบริดจ์ ตอนนั้น สตอร์ม มักจะพูดไปเรื่อย, เป็นคนออกเสียงมากที่สุด, ระเบิดไอเดีย และความกระตือรือร้นออกมา และเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ... เขาคือแรงผลักดันในชีวิตของผม ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว เป็นคนคอยปลอบใจ และเป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม งานศิลปะที่เขาสร้างขึ้นให้กับ Pink Floyd ตั้งแต่ปี 1968 จนถึงปัจจุบันไม่สามารถแยกออกไปจากงานของเราได้เลย" กิลเมอร์ กล่าว "ผมคงจะคิดถึงเขาจริง ๆ"
ส่วน นิค เมสัน ก็บอกว่า ธอร์เกอร์สัน คือคนที่ทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อยเพื่อผลงานที่ดีที่สุด และยกย่องว่าเป็นผู้ปกป้องศิลปะจากการค้ามาตลอด เป็นศิลปินที่ไม่สามารถมีใครมาแทนที่ได้ และจะไม่มีใครลืมเลือนไปตลอด
"สองวันก่อนที่เขาจะจากไป ก็ยังเหนื่อยอ่อนกับการตรวจผลงานในขั้นตอนอันยาวนานกับเหล่าผู้ช่วยที่ภักดีอยู่เลย" นิค เมสัน เล่าถึงวาระสุดท้ายของยอดศิลปิน ที่ก็ยังคงทำงานศิลปะของเขาอยู่เสมอ
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |