“ณวัฒน์” พานางงามเสี่ยงระเบิดปัตตานี หวังผลไกลปลายปีผุดประกวดนางงามระดับโลก

ฮือฮา “ณวัฒน์” พาผู้เข้าประกวดมิสไทยแกรนด์ไทยแลนด์เก็บตัวที่ปัตตานี ยันรักษาความปลอดภัยระดับนายกรัฐมนตรี เผยเหตุที่ต้องลงไปเพราะอยากไปให้กำลังใจคนปัตตานีให้มีความสุข และคอนเซ็ปต์ของการประกวดก็เชื่อมโยงกับการประกวดระดับโลกที่เจ้าตัวจะผุดขึ้นปลายปี

ฮือฮาตั้งแต่ตอนที่โดนปลดจากกองประกวดมิสไทยแลนด์ของช่อง 3 แล้ว สำหรับ “ณวัฒน์ อิศรไกรศีล” แต่ล่าสุดณวัฒน์ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้ง โดยการร่วมมือกับช่อง 7 จัดการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และได้เลือกที่จะไปลงพื้นที่เก็บตัวนางงามที่จังหวัดปัตตานี แถมตารางสถานที่นางงามไปไปทำกิจกรรมก็ล้วนเป็นพื้นที่เคยเกิดเหตุรุนแรงมาแล้วทั้งสิ้น แม้แต่โรงแรมที่เข้าพักก็เคยเกิดเหตุระเบิดโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในปัตตานีมีคนตายหลายคนเลยทีเดียว

งานนี้ณวัฒน์ให้เหตุผลในการไปจัดกิจกรรมที่ปัตตานีว่า เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของการประกวด และปลายปีก็จะผุดการประกวดเวทีระดับโลกที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง โดยมีคอนเซ็ปต์ในการประกวดของนางงามคือ STOP THE WAR ส่งผลให้การประกวดในไทยครั้งนี้จะต้องมีคอนเซ็ปต์ที่เชื่อมโยงกันกับเวทีระดับโลกที่จะเกิดขึ้นปลายปี

“ที่ต้องไปเก็บตัวที่ปัตตานี เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ของการประกวด เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ผู้ที่ได้จะต้องเป็นทูตอย่างเป็นทางการให้กับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฉะนั้นสิ่งที่แข็งแรงที่สุดก็คือกิจกรรมที่จะต้องชี้ชัดถึงวัตถุประสงค์หลักของการประกวด ณขณะนี้สิ่งต่างๆ มันน่าช่วยเหลือมันมีเยอะแยะ เวทีนางงามต่างๆ ที่จัดกิจกรรมก็ยังไม่มีใครเคยไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”

“การทำกิจกรรมตรงนี้มันชัดเจนกับการประกวด และเราก็อยากไปจริงๆ สิ่งที่ทำมันจะไม่ได้ทำให้เห็นว่ามันไปทำให้คนในปัตตานีดีขึ้น แต่สิ่งที่เขาน่าจะได้คือกำลังใจ อย่างน้อยๆ 3-4 วันที่ลงไปคาดหวังว่าจะเป็นภาพบวกผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์หรือโทรทัศน์ให้มากที่สุด ให้คนทั่วประเทศเขาได้รู้สึกว่า ไม่ใช่ปัตตานีขึ้นหน้า 1 จะมีแต่ข่าวระเบิดหรือยิงคนตาย”

“จริงๆ ทุกจังหวัดมีหมดแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเด็ก ปัญหาสตรี ปัญหาคนแก่ ปัญหาเรื่องนั้นเรื่องนี้สารพัดสิ่ง เราเองก็อยากช่วย แต่ 3 จังหวัดตรงนี้ส่วนมากภาครัฐบาลเป็นคนช่วย ยังไม่มีกิจกรรมอีเว้นท์หรือกิจกรรมบันเทิงที่ลงไปทำแบบเอาจริงเอาจัง”

ก่อนไปทำกิจกรรม นางงามถอนตัว เพราะผู้ปกครองกังวลเรื่องความปลอดภัย
“เรื่องนี้เราแจ้งกับผู้เข้าประกวดอย่างชัดเจน มีการเขียนไว้ในเว็ปไซต์อย่างชัดเจนว่าเราจะกิจกรรมอะไรในปีนี้ ซึ่งทุกท่านก็ทราบดีว่าจะต้องถูกเก็บตัวที่ปัตตานี ซึ่งช่วงแรกๆ จะเป็นแบบนี้ปีหน้าเราจะไปยะลาและปีถัดไปก็ไปนราธิวาส”

“ซึ่งพอเราจะไปทำกิจกรรมกันก็มีนางงามหนึ่งคนครับที่ถอนตัว คือจริงๆ น้องเขาไม่อยากถอนน้องเขาอยากไปมากแต่เป็นการตัดสินใจของผู้ปกครอง คุณแม่เขาก็โทร.มาบอกว่าไม่อยากให้ไปก็โทรมาสละสิทธิ์แทนน้อง ผมก็ตำหนิไปนิดนึงว่า วันที่เราได้ผู้เข้ารอบ 37 คนเราได้มีการปฐมนิเทศเราพูดถึงประเด็นนี้ไปชัดเจนถ้าใครไม่พร้อมก็ขอให้แจ้งทันทีในวันรุ่งขึ้น จะได้ไม่ทำให้อีเว้นท์ของเราเกิดความล่าช้า ก็ได้บอกไปแล้วว่า ถ้าเราช่วยใครไม่ได้ก็อย่าทำให้ใครต้องเสียโอกาส แต่น้องเขามาแจ้งหลังจากนั้นประมาณ 7 วัน”

ปัตตานีเตรียมพร้อมความปลอดภัยสูงสุดระดับนายกรัฐมนตรี
“สำหรับทางปัตตานีผมเชื่อว่าตอนนี้เขาก็ค่อนข้างมีความสุขกันพอสมควรนะครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำประชาสัมพันธ์ไปทุกรูปแบบของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น วิทยุท้องถิ่น ป้ายคัตเอาท์ตอนนี้ขึ้นเต็มไปหมดตั้งแต่สนามบินไปจนถึงตัวจังหวัดเลย”

“ส่วนทางด้านความปลอดภัยผมเชื่อว่าดีที่สุดแล้ว ผมพูดไม่ได้ว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์แต่ผมพูดได้ว่าดีที่สุดแล้ว คงไม่มีอะไรที่จะต้องวิตกกังวลทหารก็มาตำรวจก็มา ไม่อยากให้มีความรู้สึกว่าเรากลัวกันจนเกินไป เราอยู่กันแค่ไม่กี่วันแล้วคนที่อยู่ในพื้นที่จะกลัวขนาดไหน”

“อันดับแรกที่เราสามารถทำได้เลยก็คือทำประกันชีวิตให้กับทุกคน อันดับต่อไปก็คือเรื่องตำรวจทหารที่ดูแลก็มีทั้งนอกเครื่องแบบในเครื่องแบบ และก็มีตำรวจหญิงที่จะมาปะปนอยู่ด้วย ที่โรงแรมที่เราพักก็จะมีนอกเครื่องแบบมาปะปนกับเราด้วย ก่อนเดินทางก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่เราจะไปก่อน เส้นทางก็มีการสับขาหลอกในการใช้ถนนบ้างนิดหน่อย ซึ่งเราเปิดเผยไม่ได้ว่าจะใช้เส้นทางไหน”

“เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีมากๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการประชุมเป็นวาระหลายครั้งนะครับเมื่อวานยังคอนเฟอเรนซ์กันทางบริษัทผมก็ยังประชุมด้วย อยากจะบอกว่าความปลอดภัยของเรามันสุดยอดที่สุดแล้ว มากไปกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว เรียกว่าความปลอดภัยสูงสุดระดับนายกรัฐมนตรีเลยครับ”

พื้นที่ไปทำกิจกรรมล้วนเคยเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงมาแล้วทั้งสิ้น
“พื้นที่ไปทำกิจกรรมก็ไปหมู่บ้านประชาชน ไปชุมชนส่งเสริมวัฒนธรรม ไปเรียนทำอาหารชาวมุสลิม ไปโรงพยาบาล ไปโรงพัก ไปค่ายทหารใหญ่ที่สุด ไปโรงเรียน ไปศาลากลางจังหวัด สถานกีฬาจังหวัดปัตตานี้เพื่อเปิดวันสตรีสากลปัตตานี”

“นอกจากนั้นแล้วเราก็ไปวัดช้างไห้ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแต่ตอนนี้เงียบมาก สุเหร่ากรือเซะที่เสียชีวิตกันถล่มทลายอันนี้เราก็ไปครับ เพื่อให้ความเคารพต่อสิ่งที่คนปัตตานีส่วนมากให้ความนับถือ เราก็ให้ความเคารพนางงามทุกคนก็จะแต่งตัวเป็นมุสลิมเลยคือชุดยาวมีผ้าคลุมหน้า”

“ซึ่งการเก็บตัวครั้งนี้ไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำครับเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ ชุดที่ใส่ทั้งหมดทุกวันก็ห้ามโป๊ เราจออกกฎเลยการจัดงานกาล่าที่โรงแรมก็จะใส่ชุดเอาใจชาวใต้เลย ใส่ชุดชาวใต้ปัตตานี ส่วนชุดว่ายน้ำเราจะใส่ที่กรุงเทพครับ”

“พื้นที่ที่เราจะไปก็ล้วนเคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วครับ ก็มีไปตรงที่เกิดเหตุการณ์ด้วย โรงแรมซี.เอส.ที่เรานอนก็เกิดระเบิดใหญ่ขึ้นที่นั่น เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นอาทิตย์ เคยเกิดเหตุการณ์ระเบิดโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในปัตตานี แต่เราก็ยังเลือกโรงแรมนี้เพราะว่าโรงแรมนี้ใหญ่ที่สุดในปัตตานี้แล้วสามารถรองรับเราได้ และก็ถูกถล่มเกือบ 2 ชั้น มีผู้เสียชีวิตเยอะ ทางด้านโรงแรมต้องการจะให้ทุกท่านรู้ว่าพร้อมแล้วที่จะกลับมายืนอีกครั้งหนึ่ง เราก็ให้ทุกคนได้เข้าพักเพื่อช่วยเหลือโรงแรมและจังหวัดปัตตานี”

อาจกลายเป็นตัวล่อระเบิด เพราะถ้าก่อเหตุการณ์ความรุนแรงกับการประกวดได้ก็เป็นเรื่องระดับโลก เพราะตอนนี้ความรุนแรงมันถูกยกระดับให้เป็นปัญหาระดับโลก ตั้งแต่ “นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปลงนามเจรจากับผู้ก่อการร้ายที่มาเลเซีย
“จากข่าวกรองของทหารที่เราได้ข้อมูลมาคือ กิจกรรมแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ และการบอกกล่าวกันตั้งแต่วันที่แถลงการณ์ประกวด ก็ไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรที่ไม่เหมาะหรอกครับ เขาก็ได้มีการสแกนพื้นที่อยู่แล้ว การไปครั้งนี้ผมไม่ได้ไปเช็กดวงครับ แต่ไปเช็กพื้นที่มาแล้วครับโอเคครับ”

“วันที่ไปเช็กนี่ผมไปลดกันกระสุน แต่รถกันกระสุนนี่มันจะหนักมันทำให้เราเวียนหัว กลับมาก็เลยบอกท่านผู้ว่าฯ ว่า รถกันกระสุนยังไงก็ไม่พอกับจำนวนผู้เดินทางอยู่แล้ว ก็เป็นว่ารถทุกคันไม่ต้องกันกระสุนเลย เพราะว่ามันจะทำให้ระยะเวลาวิ่งมันแตกต่างกัน รถกันกระสุนจะวิ่งได้แค่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”

“ก็อยากจะบอกว่าเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และก็ไม่ได้รู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรแน่แท้ เราไม่ได้อยากรู้อะไรไปมากกว่านี้ว่าเป็นเพราะใคร แต่ที่เราไปเพราะความเป็นคนไทยและความเป็นคนที่อยู่ร่วมโลกเดียวกัน ไปเพื่อแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจทุกคนไม่ว่าคุณจะคิดบวกหรือคิดลบกับใครยังไงก็ตาม หรือคุณจะชอบหรือไม่ชอบกับเหตุการณ์ใดๆ แต่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้แบ่งเราให้ความสำคัญกับทุกคน ก็อยากจะให้กำลังใจกับทุกคน การไปครั้งนี้อาจไม่ได้ทำให้ชีวิตของคนที่นั่นเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราไปเพียงแค่ให้รู้ว่า คนที่ปัตตานีไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณมีความสำคัญต่อคนไทยทุกคนเสมอครับ”

ไม่ได้ไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อสร้างกระแส แต่เป็นเพราะเชื่อมโยงกับคอนเซ็ปต์เวทีการประกวดระดับโลก
“จริงๆ แล้วการทำกิจกรรมตัวนี้มันมาจากคอนเซ็ปต์ใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เรายังไม่ได้บอกใคร การประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ครั้งนี้สุดท้ายปลายปีผมจะกำเนิดอีกหนึ่งเวทีคือ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นการประกวดเวทีนางงามระดับโลกโดยที่ประเทศไทยเป็นเจ้าของเวทีเป็นครั้งแรก”

“มันเหมือนกับมิสเอิร์ธที่เป็นของฟิลิปปินส์ มิสยูนิเวิร์สที่เป็นของอเมริกา มิสเวิลด์ที่เป็นของอังกฤษ ในอนาคตอันใกล้นี้มิสแกรนด์ไทยแลนด์เป็นเพียงเวทีย่อยประจำประเทศ เพื่อจะวิ่งเข้าสู่เวทีใหญ่ของโลกคือ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตอนนี้เรากำลังสรรหาให้ทั่วโลกถือลิขสิทธิ์กันอยู่ตอนนี้ได้ 20 ประเทศแล้ว และทั่วโลกก็จะเดินทางมาประกวดในประเทศไทย ครั้งที่ 2 ก็ในประเทศไทย แต่หลังจากนั้นเราก็จะขายลิขสิทธิ์ในแต่ละปีให้กับประเทศที่เป็นสมาชิก”

“แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมตั้งเอาไว้ก็คือเรื่องประโยชน์ เพราะการเป็นเวทีของโลกจะต้องมีความชัดเจน อย่างมิสเอิร์ทจะเป็นนางงามดูแลโลก มิสเวิล์ดนางงามเพื่อการกุศล ซึ่งคอนเซ็ปต์ของเราก็คือ STOP THE WARครับ เวทีนี้เพื่อยุติสงครามไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกประเทศ และนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์จะต้องไป 3 จังหวัดชายแดนภายใต้”

“เราเชื่อว่าประเทศอังกฤษที่เป็นแกรนด์สแลมจะต้องการันตีให้เราเป็นติด 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 3 ของการประกวดระดับโลกก็หวังไว้อย่างนั้น เพราะเราก็อยากจะต่อยอดการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ดังไปทั่วโลกผ่านวิธีการแบบนี้”