แม้จะเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกันไป แต่ดาราสาว “เมิ่งเจียฮุ่ย” กลับยอมรับว่าเธอไม่มีแผนที่จะมีลูกให้กับสามี “เจิ้งอี้เจี้ยน” แต่อย่างใด เพราะเห็นถึงความยุ่งยากเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกจากคนรอบตัวมาเยอะ และสามีก็เห็นด้วยกับเธอ
หลังแต่งงานกันที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนก่อน ก็เกิดคำถามขึ้นทันที่ว่าเมื่อไหร่ที่ เมิ่งเจียฮุ่ย วัย 39 ปี จะมีลูกให้กับสามี เจิ้งอี้เจี้ยน วัย 45 ปี เสียที
อย่างไรก็ตามล่าสุดฝ่ายหญิงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในฮ่องกง ระหว่างโปรโมตซีรีส์เรื่องใหม่ A Great Way to Care II ที่เธอยอมรับว่าตนเองและเขายังไม่มีแผนการเรื่องลูกแต่อย่างใด
โดยเธอยอมรับว่าสำหรับตัวเอง การมีลูกคือ “ฝันร้าย” โดยเฉพาะหลังจากได้เห็นเพื่อน ๆ ที่มีลูกเล็ก ๆ ที่ต้องวุ่นวายไปกับปัญหาต่างๆ มากมาย “ต้องกังวลเรื่องโรงเรียนของลูก และอีกเยอะแยะ ปกติฉันเองก็เกลียดเรื่องการกรอกเอกสารต่างๆ อยู่แล้ว คงต้องมีแบบฟอร์มมาให้กรอกเต็มไปหมด ฉันว่าเขา (เจิ้งอี้เจี้ยน) คงเป็นทุกข์มากๆ แน่ ฉันเองก็คงเป็นทุกข์เหมือนกัน ตอนนี้ฉันกับเขาก็ยังเห็นเหมือนกันนะคะ ว่าเราคงยังไม่คิดเรื่องลูกหรอก”
“ถ้าต้องตั้งท้อง ฉันรู้สึกว่าเหมือนตัวเองต้องติดคุกอยู่เกือบ 10 เดือน โดยเฉพาะก่อนจะคลอดลูก 4 เดือน และหลังคลอดอีก 6 เดือน คงเหมือนติดคุกอยู่เป็นปีเลย เราเลี้ยงแมวกันอยู่ด้วย ฉันมีเพื่อนที่ขนแมวทำให้ลูกแพ้จนต้องเข้าโรงพยาบาลถึงขั้นห้องฉุกเฉินเลย ถ้าต้องเลิกเลี้ยงแมว ก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันจริงๆ ค่ะ”
ในเวลาเดียวกัน เมิ่งเจียฮุ่ย ก็ยังกล่าวแสดงความขอบคุณไปถึง มารดาของ เจิ้งอี้เจี้ยน ที่ไม่เคยกดดันเธอในเรื่องนี้เลย พี่ชายของเขามีลูกกันแล้ว คุณแม่ของเขาก็เลยไม่กดดันอะไรฉันเลย” นอกจากนั้นเธอยังบอกว่าความเป็นคนใจดีของสามี ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอเลิกคิดเรื่องการมีลูก “เขาคงตามใจลูกแย่เลย อีกหน่อยถ้าเราต้องสอนลูก คงทะเลาะกันเรื่องวิธีการเลี้ยงน่าดู”
ดาราวัย 39 ปี ยังพูดถึงชีวิตหลังแต่งงานว่าอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก “ที่จริงฉันก็ทำงานบ้านเองอยู่แล้วนะคะ ก็เลยไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่”
และนอกจากเรื่องลูกแล้ว เมิ่งเจียฮุ่ย ที่ยอมรับว่าตนเองเคยมีอาการโรคซึมเศร้า ยังบอกอีกว่าตอนนี้การตื่นขึ้นมาพบว่ามีอีกคนที่นอนอยูข้างๆ กลับทำให้เธอรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
“หลายปีก่อนฉันกดดันเรื่องงานมากๆ กลัวจะไม่มีงาน เวลาซีรีส์เรื่องที่แสดงจบลงก็จะเครียดทันที ตอนนี้ไม่มีอะไรกังวลอีกแล้ว ฉันถ่ายงานเรื่องหนึ่งเสร็จไป ก็ไม่ได้คิดอีกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคต เมื่อก่อนเวลาฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก็จะคิดกังวลถึงเรื่องต่างๆ ทันที ทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัว จนเมื่อได้พบหมอจึงรู้ว่านี่คือโรคซึมเศร้า”
“เขา (เจิ้งอี้เจี้ยน) เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับฉันในเรื่องนี้ค่ะ เขาจะไม่จำเรื่องที่ไม่ดีในชีวิต ไม่จำเวลาที่เครียดกับงาน สิ่งที่เขาจะจำก็คือความสุข ก่อนจะคบกันฉันเคยคบคนอื่นมาก่อน แต่ก็จบลงแบบไม่ค่อยมีความสุขนัก ฉันเลยรู้สึกกดดันกับเรื่องความรักมาก แต่ตอนนี้ถึงได้เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องยากๆ ในชีวิตพวกนี้ ฉันควรจะมีความสุขกับการต่อสู้ และเอาชนะปัญหามากกว่า”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |