สูตรสำเร็จวงการหนังเกาหลี: คนแก่, คนโสด, คนเครียด

เมื่อปีก่อนหนังเกาหลีกลับมารุ่งเรืองสุด ๆ อีกครั้ง ด้วยการสร้างฐานความนิยมในประเทศ ชาวเกาหลีจำนวนมากแห่ไปดูหนังท้องถิ่นกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือการสร้างหนังที่ดี จนสามารถดึงดูดกลุ่มคนดูที่ปกติไม่ค่อยเข้าโรงให้กลับมาเป็นลูกค้าอีกครั้ง

แม้แต่คนทำหนังแห่งค่าย "อันดับ 1" แห่งอุตสาหกรรมหนังเมืองไทย "จิระ มะลิกุล" ยังยอมรับว่าปัญหาอย่างหนึ่งของวงการหนังไทยก็คือ ตอนนี้โรงหนังกลายเป็นของ "นักศึกษา" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตลาดหนังแทบจะทั้งหมดอาจจะถึง 80% ของยอดขายตั๋วหนังทั้งหมดมาจากกระเป๋าตังของเด็กวัยรุ่นอายุเพียง 18 - 22 ปี เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน อาจจะเริ่มต้นสร้างครอบครัวตั้งต้นชีวิตผู้ใหญ่ คนส่วนใหญ่ก็แทบจะหันหลังให้กับโรงหนังไปโดยปริยาย ยิ่งผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุก็ยิ่งแทบจะไม่เข้าโรงหนังกันเลยถ้าไม่ได้มากับลูกหลาน

ภาพของโรงหนังจึงกลายเป็นศูนย์รวมของวัยรุ่นในชุดนักศึกษาที่มาดูหนังกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ หนังที่ผู้สร้างชาวไทยสร้างออกมาก็พยายามตอบสนองคนดูกลุ่มนี้เป็นหลัก ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่หนังตลกโปกฮา ก็ต้องเป็นหนังสยองขวัญสั่นประสาท และดูจะสนุกเป็นพิเศษกับการมาดูกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ หัวเราะและกรี๊ดในโรงไปด้วยกัน

ในทางตรงกันข้ามส่วนใหญ่คนมีอายุหน่อยก็คงไม่ตื่นเต้นอะไรกับหนังประเภทนี้แล้ว

วงการหนังเกาหลีใต้กลับทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป พวกเขากลับพยายามดึงคนดูทุกกลุ่มให้มาใช้บริการในโรงหนัง เพราะฉะนั้นโรงภาพยนตร์ในเกาหลีจึงเป็นศูนย์รวมของคนทุกกลุ่ม มีทั้งหนังมหาชนที่คนทั้งประเทศตีตั๋วไปดูกันอย่างถ้วนหน้า และความบันเทิงเฉพาะกลุ่มไม่ว่าจะเป็นหนังวัยรุ่น หรือหนังสำหรับคนสูงวัย

ความสำเร็จของเกาหลี

ในปี 2012 วงการหนังเกาหลีกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ด้วยการทำยอดขายตั๋วทะลุไปถึง 109.4 ล้านใบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และกินส่วนแบ่งแซงหนังต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยมีหนังเด่นแห่งปีคือ The Thieves กับ Masquerade ที่ขายตั๋วเกิน 10 ล้านใบทั้งสองเรื่อง ส่วนในปีนี้แค่ผ่านไปได้ 2 เดือนเกาหลีก็มีหนังฮิตถึง 2 เรื่องแล้วทั้งหนังแอ็กชั่น The Berlin File ของ "ยัยตัวร้าย" จอนจีฮยอน และหนังตลกเกี่ยวกับโลกหลังลูกกรง Miracle in Cell No. 7 ที่ขายตั๋วไปได้ถึง 6 และ 9 ล้านใบตามลำดับ

จากข้อมูลของสภาภาพยนตร์เกาหลีที่เปิดเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนในเดือน ม.ค. ของปี 2013 ยอดขายตั๋วหนังทุกประเภทในประเทศมีจำนวนสูงถึง 20.36 ล้านใบเพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค. ของปี 2012 ถึง 23.8% หากคิดเฉพาะสำหรับหนังเกาหลีอย่างเดียวก็ถือว่าเพิ่มขึ้น 40.2% เลยทีเดียวแสดงให้เห็นว่าคนเกาหลียิ่งตีตั๋วกันเข้าไปดูหนังท้องถิ่นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป มีการคาดการณ์กันไปว่าปี 2013 ยอดขายตั๋วหนังท้องถิ่นในเกาหลีน่าจะสูงถึง 200 ล้านใบเลยก็ได้

คนเกาหลีดูหนังคนเดียวมากขึ้น

ขณะที่ในบางสังคมการดูหนังเป็นเรื่องของคู่รัก หรือเพื่อนหนุ่มใหญ่ แต่ตัวเลขจาก Maxmovie ผู้ขายตั๋วหนังออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศชี้ว่า ในปี 2012 มีตัวเลขของคนที่ไปดูหนังคนเดียวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17% และมากกว่า 10 ปีที่แล้วถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

โดยพนักงานขายตั๋วที่โรงหนัง Megabox ก็บอกอย่างเดียวกันว่า "เมื่อก่อนส่วนใหญ่คนที่ดูหนังคนเดียวมักจะมากันในวันธรรมดา แต่เดียวนี้แทบจะมากันทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์" ซึ่งพนักงานขายตั๋วบอกว่าแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของนักดูหนังในยุคนี้ ที่มองว่าการไปดูหนังคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรแปลกประหลาดต้องอับอายอีกแล้ว

ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับข้อมูลสถิติของประชากรชาวเกาหลี ที่ตอนนี้มีอัตราคนเป็นโสดมากขึ้นเรื่อย ๆ

คืนโรงหนังให้ผู้ใหญ่

เช่นเดียวกับทุกที่ในโลกที่คนดูหนังส่วนใหญ่จะอยู่ในวัย 20 ปี ในเกาหลีเองก็เช่นเดียวกันคนอายุ 20 คือคนดูกลุ่มหลักในตลอด 30 ปีที่ผ่านมาแต่เมื่อปี 2013 จำนวนคนดูอายุ 40 ขึ้นไปก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตามอง

โดยจากข้อมูลตัวเลขคนดูอายุ 40 - 49 ของหนังเพลงจากฮอลลีวูด Les Misérables มีจำนวนถึง 40.66% ของยอดตั๋วทั้งหมด ส่วนใหญ่ปีนี้หนังดังของช่วงต้นปี Miracle in Cell No. 7 มีคนดูอายุ 40 ปี ถึง 37.06% เลยทีเดียว ส่วนคนดูกลุ่มใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมที่วัย 20 ปีกลับตีตั๋วไปดูหนังตลกเรื่องนี้แค่เพียง 29.6% เท่านั้น

เช่นเดียวกับหนังฮิตอีกเรื่องอย่าง The Berlin File ที่ผู้สร้างหมายมั่นปั้นมือว่าน่าจะถูกใจวัยรุ่น แต่สุดท้ายกลุ่มที่ไปดูหนังกันมากที่สุดกลับเป็นคนอายุ 40 ปีที่มีจำนวนมากถึง 35.87% ตรงกันข้ามกับคนดูวัยรุ่นอายุ 20 ปี ที่ผู้สร้างคาดหวังเอาไว้กลับมาดูหนังกันแค่ 17.81% เท่านั้น

CJ CGV เครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีก็เริ่มปรับราคาค่าตั๋ว และออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับดึงดูกลุ่มคนดูผู้ใหญ่กันแล้ว ด้วยการเสนอส่วนตั๋วราคาพิเศษสำหรับเวลาก่อน 4 โมงเย็นในวันธรรมดา สำหรับโรงภาพยนตร์ในเขตย่านที่อยู่อาศัยในกรุงโซล หวังดึงดูดกลุ่มแม่บ้านอายุ 40 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ ที่ลูก ๆ เข้าสู่วัยเรียน ส่วนใหญ่จะมีเวลาว่างในตอนบ่าย ๆ ให้มาใช้เวลาเข้าโรงหนังกัน

ทำหนังให้ประทับใจคนดูซ้ำเกิน 1 รอบ

เป็นที่รู้กันดีว่าหนังที่ทำเงินมาก ๆ รายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากคนดูที่ประทับใจในตัวหนังมาก ถึงขั้นตีตั๋วดูซ้ำเกิน 1 รอบ

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหนังฮิตหลาย ๆ เรื่องก็สามารถดึงดูให้คนดูมาตีตั๋วซ้ำได้เช่นเดียวกันทั้ง Miracle in Cell No. 7 ที่มีคนดูหนังซ้ำเกิน 1 รอบ 6.4%, Les Misérables 6.3% และ The Berlin File 5.5% สำหรับภาพรวมมีคนดูหนังที่ตีตั๋วหนังเรื่องเดิมซ้ำ 3% จากเมื่อปีก่อน 2%

คิมฮยองโฮ แห่งเว็บไซต์จองตั๋วหนัง Maxmovie ยังให้ข้อมูลเสริมอีกว่า กลุ่มที่ดูหนังเรื่องเดิมซ้ำมากที่สุดก็คือคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มักจะไปดูหนังคนเดียวก่อนพาครอบครัวมาดูด้วยทีหลัง

ความบันเทิงไม่ใช่การคลายเครียด

อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่จะดึงคนดูโดยเฉพาะรุ่นใหญ่ให้กลับเข้าโรงหนังก็คือ ตัวหนังนั่นเอง

ในแถลงการณ์แสดงความยินดีของสภาภาพยนตร์เกาหลีใต้ หน่วยงานด้านภาพยนตรได้กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ว่าสุดท้ายแล้วจำนวนตั๋ว และรายได้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพียงอย่างเดียว แต่ความสามารถในการส่งผลงานแนวต่างๆ ให้กับนักดูหนังชาวเกาหลีได้มีตัวเลือกอันหลากหลาย “กับงานในหลายๆ แนวทาง ... แม้แต่การแตะไปถึงประเด็นทางสังคม และการเมือง เป็นสิ่งที่ทำให้นักดูหนังชาวเกาหลีสนใจในงานภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ”

นอกจากนั้นไม่ใช่แค่หนังแอ็กชั่น, หนังตลก หรือหนังรักที่สามารถทำเงินได้ในเกาหลี แต่หนังการเมือง, หนังที่สร้างมาจากคดีล่วงละเมิดทางเพศสุดอื้อฉาว เรื่องราวที่ต้องใช้ความคิดในการย่อยสูง ก็กลายเป็นความบันเทิงที่คนเกาหลีส่วนใหญ่พร้อมตีตั๋วเข้าไปดูกัน

ชนิดที่ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับชาวฮ่องกงยอมรับว่าเขาอิจฉาคนทำหนังเกาหลี ซึ่งมีคนดูที่มีคุณภาพ และพร้อมเสมอกับการเสพสื่อบันเทิงที่หนักหัว หรือไม่ก็สนุกไปกับหนังที่เล่าเรื่องด้วยความเชื่องช้า ไม่จำเป็นต้องหวือหวารวดเร็วอย่างเดียว



ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก