xs
xsm
sm
md
lg

“แพนเค้ก” หน้าแหก น้องชายริเป็นขโมย ?!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ต๊ายตาย!! ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องโอละพ่อธรรมดาเสียแล้วสำหรับข่าวขโมยขึ้นบ้านของนางเอกสาว “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” หลังจากที่เธอกับคุณแม่หน่อย “นวลนงค์ จามิกรณ์” ตกอกตกใจยกหูกริ๊งกร๊างไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเพราะนาฬิกาโรเล็กซ์และเครื่องเพชรของแพนเค้กหายไป แถมทั่วบ้านยังมีร่องรอยเท้าเดินตามที่ต่างๆ อีก

เคสนี้ตำรวจคงไม่ปล่อยเอาไว้นานเพราะนอกจากจะเป็นดาราดังแล้ว แฟนหนุ่มของแพนเค้กยังมีดีกรีเป็นถึงสารวัตรอีกต่างหาก หลังจากได้รับแจ้งตำรวจจึงทำงานกันอย่างหนัก ทั้งสอบปากคำสองแม่ลูกและตรวจสอบที่เกิดเหตุจนได้ข้อสรุปว่ามีร่องรอย “คนอื่น” เข้ามาในบ้านจริง แต่หลังจากเป็นข่าวได้เพียงสัปดาห์เศษ แพนเค้กกับคุณแม่ก็จูงมือกันออกมาพูดเสียงอ่อยๆ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด โดยมีสาเหตุมาจากการที่คุณแม่หน่อยสับสนในเรื่องที่เก็บเครื่องเพชรและตอนนี้ก็ได้ของคืนมาหมดแล้ว จึงขอให้เรื่องดังกล่าวจบลงแต่เพียงเท่านี้

แต่แหม...คุณแม่ขา เรื่องแบบนี้จะจบลงง่ายๆ ได้อย่างไร ในเมื่อสัปดาห์ก่อนคุณแม่กับคุณน้องแพนเค้กยังทำหน้าตื่นตกใจบอกตำรวจว่าขโมยขึ้นบ้าน แถมยังพาไปชี้รอยเท้าบนฝารองนั่งชักโครกในห้องน้ำ กับรอยเท้าอื่นๆ ตามจุดต่างๆ ในบ้านกันเป็นตุเป็นตะ มาวันนี้จู่ๆ คุณแม่กลับบอกว่าสับสนเรื่องที่เก็บเพชรและขอให้คดีนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้โดยไม่อธิบายรายละเอียด แบบนี้ชาวบ้านร้านตลาดที่ติดตามข่าวนี้มาตลอดย่อมต้องอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา

เพราะข่าวลือหนาหูมาว่าเรื่องนี้ขโมยตัวจริงคือ “พัตเตอร์ ภัทรนันท์ จามิกรณ์” น้องชายแท้ๆ คลานตามกันมาของแพนเค้ก พัตเตอร์เป็นน้องชายของแพนเค้ก และมีน้องสาวอีกคนชื่อ อิงกมล จามิกรณ์ พัตเตอร์เดินตามรอยเท้าพี่สาว เข้าวงการบันเทิงมาอยู่ภายใต้สังกัดโพลีพลัสของ "นิด อรพรรณ วัชรพล" แต่ผลงานที่ผ่านมานอกจากจะเป็นแค่ตัวประกอบบทรองผลงานของเขายังไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่ด้วย ปัจจุบันพัตเตอร์ได้อำลาวงการบันเทิง ไปเป็นนักฟุตบอลทีม เกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี ซึ่งมีคุณพ่อนทีเทพ จามิกรณ์ เป็นผู้อำนวยการสโมสรด้านประชาสัมพันธ์นั่นเอง

วงในยืนยันว่านอกจากชอบ “เล่น” ฟุตบอลบนสนามแล้ว พัตเตอร์ยังนิยม “เล่น” ฟุตบอลบนกระดาษอีกด้วย และก็เพราะศึกฟุตบอลอังกฤษลีกดังอย่างพรีเมียร์ลีกนี่แหละที่ทำให้พัตเตอร์ถึงขั้น “หมดตูด” จนต้องสวมบทโจรนอกจอ แอบย่องเข้ามาในบ้านหลังที่คุณแม่หน่อย พี่แพนเค้ก และน้องสาวคนเล็กอาศัยอยู่ในยามวิกาล ตามเส้นทางที่แม่หน่อยเคยยืนชี้ให้ตำรวจดู ก่อนจะฉกนาฬิกาโรเล็กซ์ แหวนเพชร และต่างหูเพชรของพี่สาวไป

ว่ากันว่าเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนริเป็นขโมยเสียเอง ทำให้คดีนี้ปิดเร็วกว่าปกติ ทางด้านคุณแม่หน่อยกับแพนเค้กก็จำต้องปิดปากเงียบ ไม่ออกมาเต้นเหยงๆ เหมือนวันแรกที่รู้ว่ามีขโมยขึ้นบ้าน
บรรดานักข่าวที่อยากรู้ความจริงก็พากันไปสอบถามจากปากแพนเค้ก แต่อนิจจา แพนเค้กก็ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์พูดไม่รู้เรื่องตามสไตล์ ยิ่งเมื่อถูกจี้เรื่องน้องชายเป็นขโมยด้วยแล้ว แพนเค้กก็ยิ่งตอบไม่ตรงประเด็น พูดบ่ายเบี่ยงคล้ายลำบากใจที่จะตอบว่า

“ก็คงไม่ได้มีอะไรแบบนั้นค่ะ จริงๆ แล้วเป็นคนในบ้านค่ะทุกคนเป็นคนในบ้านค่ะ ที่สามารถจะทำอะไรก็ได้ในนั้น แพนก็เลยไม่ได้อยากจะเจาะจงว่าจะเป็นน้อง ก็คิดว่าเราได้ของกลับมาแล้วค่ะ ทุกอย่างน่าจะผ่านไปเรียบร้อยด้วยดี”

หลังจากนั้นตลอดการให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลังจากที่แพนเค้กกับแม่ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดนั้น แพนเค้กก็ย้ำในทุกๆ คำตอบว่าขอให้เรื่องนี้จบแต่เพียงเท่านี้ โดยไม่ยอมพูดถึงเรื่องข่าวเมาท์ที่ว่าพัตเตอร์เป็นขโมยแต่อย่างใด แต่ยิ่งตอบอ้อมแอ้มและบ่ายเบี่ยงมากเท่าไหร่ ข่าวลือที่ว่านี้ก็ยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

น้ำหนักของเรื่องพัตเตอร์เป็นขโมยเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อตำรวจที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุยืนยันว่ารอยนิ้วมือที่พบในที่เกิดเหตุโดยเฉพาะบริเวณขอบหน้าต่างเป็นของพัตเตอร์ น้องชายของแพนเค้ก 100% ซึ่งหากพิจารณาจากการให้ปากคำของแม่หน่อยที่บอกว่าคืนเกิดเหตุเธอ และลูกสาวทั้งสองซึ่งพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเวลาสี่ทุ่ม และเมื่อกลับมาแพนเค้กได้ถอดนาฬิกา แหวนเพชร และต่างหูเพชรวางไว้ที่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำชั้นสอง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมที่นางเอกสาวมักจะถอดวางไว้ประจำ โดยที่ตลอดเวลาทั้งก่อนเกิดเหตุไปจนถึงหลังเกิดเหตุพัตเตอร์ไม่ได้เข้ามาในบ้านหลังนี้เลยก็ยิ่งทำให้ความน่าสงสัยในตัวพัตเตอร์ยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ

ขณะนี้ตำรวจได้เชิญตัวแพนเค้กกับคุณแม่เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่นางเอกสาวกับคุณแม่ยังไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำ ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถจะปิดคดีได้ ถึงแม้แพนเค้กกับคุณแม่จะออกมาให้ข่าวว่าไม่เอาความและขอให้เรื่องนี้จบลงแล้วก็ตาม
เนื่องจากคดีลักทรัพย์เป็นคดีอาญาการจะยอมความได้จะต้องขึ้นอยู่กับคนในบ้านซึ่งหากเป็นคนในครอบครัวแล้วคนที่ถูกขโมยไม่ติดใจเอาความ ตำรวจก็สามารถสั่งถอนฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 71 ประกอบ 334 ( ลักทรัพย์ )

มาตรา 71 เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 334 ถึงมาตรา 336 วรรคแรก และมาตรา 341 ถึงมาตรา 364 นั้น ถ้าการลักทรัพย์เป็นการกระทำที่สามีกระทำต่อภริยา หรือภริยากระทำต่อสามี ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ

ความผิดดังระบุมานี้ ถ้าเป็นการกระทำที่ผู้บุพการีกระทำต่อผู้สืบสันดาน ผู้สืบสันดานกระทำต่อผู้บุพการี หรือพี่หรือน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกระทำต่อกัน แม้กฎหมายมิได้บัญญัติให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ก็ให้เป็นความผิดอันยอมความได้ และนอกจากนั้น ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
...................................................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 175 วันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2556


กำลังโหลดความคิดเห็น