“ป๊อก” น้ำตาคลอ ซึ้งใจ “ตั๊ก” ทุ่มเทจัดงานแต่งให้อย่างดีที่สุด ประทับใจงานออกมาธีมไทยสวยงามมาก ด้านเจ้าบ่าว เผย อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ เพื่อแสดงถึงความรักที่ตนมีให้ป๊อก พร้อมมอบเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ ทั้งแต่งเพลงให้ ร่วมแสดงโขน และโชว์รำฉุยฉายทศกัณฐ์ เป็นของขวัญวันแต่งงาน ทำเอาเจ้าสาวปลื้มสุดๆ
เป็นอีกหนึ่งวันชื่นคืนสุขของ “ป๊อก ปิยธิดา” และ “ตั๊ก นภัสกร มิตรเอม” คู่รักมาราธอนที่รักกันมายาวนานกว่า 11 ปี หลังทั้งคู่จูงมือกันจัดพิธีหมั้นหมายและเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระราชวังสวนจิตรลดา ไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (22 ธ.ค.) ป๊อกและตั๊กก็ได้จัดงานฉลองมงคลสมรสพระราชทานขึ้นที่สนามสังคีตศาลา ด้านข้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภายใต้ธีมงานเป็นชุดไทยร่วมสมัย ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นไทย มีผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ในวงการมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ประวิทย์ มาลีนนท์, เศรษฐา ศิระฉายา, กอบสุข จารุจินดา, กล้วย ปรารถนา, ก้อย ปาริฉัตร, สมมาตร ไพรหิรัญ ฯลฯ โดยมีประธานในงาน คือ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ขณะที่ ผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี รับหน้าที่พิธีกร ซึ่งก่อนที่พิธีการต่างๆ จะเริ่มขึ้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้เปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองถึงงานในวันนี้ว่า…
ป๊อก : “อยากจะบอกว่าในส่วนของป๊อก นอกจากการเตรียมตัวแล้วไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ เพราะว่าพี่ตั๊กเป็นคนจัดการให้หมดเลย สบายๆ ให้เราไม่ต้องกังวล”
ตั๊ก : “คือ หลังจากที่เราได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพฯแล้ว ก็มาทำเรื่องขอสถานที่จากผู้ใหญ่ ที่ทำการขอไว้นานมากแล้ว นานมากเลยกว่าผู้ใหญ่จะอนุญาตให้ใช้สถานที่ และเรามีเหตุและผลที่ดี ท่านเจ้ากรมศิลปกรเลยอนุญาตให้เราใช้สถานที่ครับ อนุญาตในก่อนหน้านี้แค่ 2 เดือน”
“จริงๆ ต้องขอบคุณหลายๆ ส่วนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักหลายท่าน ท่านช่วยเราในหลายเรื่องเลย ต้องไล่ยาวจากเล็กไปจนถึงท่านอธิบดิกรมศิปลปากรเลยครับ หลายท่านเยอะมากครับ ถ้าให้ผมพูดถึงตรงนี้คงเป็นชั่วโมงครับ แต่ถ้าให้พูดถึงความรู้สึกในวันนี้ ผมดีใจมาก มีความยินดีมาก แล้วจริงๆ น้องบอกผมทำคนเดียวจริงๆ ผมไม่ได้ทำคนเดียว มีคนอื่นมาช่วยผมเยอะมาก มีคนเมตตาเยอะมาก ต้องบอกว่าเป็นความดีใจมาก”
ป๊อก : “งานออกมาสวยงามมากค่ะ ก็รู้สึกดีใจค่ะ ทุกอย่างออกมาสวยงามกว่าที่เราตั้งใจไว้ ซึ่งเราเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าที่กว่าพี่ตั๊กจะทำอะไรให้เรามากเท่านี้ เราผ่านอะไรกันมาเยอะมาก จนได้มาเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็ทำให้เราเยอะมาก ให้เกียรติเราอย่างเต็มที่ (น้ำตาคลอ)”
ตั๊ก : “ยังครับ ยัง งานยังไม่เริ่ม (ยิ้ม)”
เมื่อถามถึงความรู้สึกว่าตื่นเต้นมั้ย เจ้าสาวก็อธิบายความรู้สึกว่า…
ป๊อก : “จริงๆ มีคนถามว่ามันจะเหมือนฉากในละครไหม เหมือนฉากแต่งงานหรือเปล่า ป๊อกก็เลยบอกว่าความรู้กสึกมันต้องพิเศษกว่า เพราะว่าวันนี้อาหารในงานทานได้จริง (หัวเราะ) ไม่เหมือนตอนถ่ายละคร ซึ่งอาหารในงานทานไม่ได้ ได้แต่มองอย่างเดียว ทุกอย่างมันเป็นของจริง แล้วความรู้สึกมันมากกว่านั้นเยอะ เลยรู้สึกว่าคนที่เขาผ่านงานแต่งงานที่ดี ที่ครบ ที่สมบูรณ์แบบนี้ เขามีความอิ่มเอมใจแบบนี้นี่เอง”
เจ้าบ่าวบอกมีเซอร์ไพรส์เจ้าสาวแน่นอน
ตั๊ก : “ถ้าถามว่ามีไหม ก็มีครับ เพราะว่าจิรงๆ แล้วผมไม่ค่อยมีอะไรให้เขามากในฐานะที่ผมเป็นคนที่เรารักกัน คือผมก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจะโรแมนติก ออกไปทางบทโหดซะมากกว่า วันนี้เพิ่งจะมาโกนออก คิดว่าวันนี้น่าจะมีของขวัญให้เขาสักชิ้นนึง ซึ่งเป็นการแสดงเล็กๆ น้อยๆ จากผมเอง”
“ในงานเป็นไทยหมดเลย เราตั้งใจให้เป็นธีมการแต่งชุดไทยร่วมสมัย มีหลายคนถามว่าไอ้ชุดไทยร่วมสมัยมันเป็นยังไง ผมเลยบอกว่า ผมยังไม่ตอบแล้วกัน เดี๋ยวผมจะไปถามเอาในงานถามไปเรื่อยๆ เพราะตั้งแต่แจกการ์ดไป มีแต่คนถามว่าชุดไทยร่วมสมัยมันเป็นยังไง”
ป๊อก : “คือ ที่ถามเพราะว่าเราอยากจะแชร์ความเป็นไทย ว่าชุดแบบนี้มันเป็นแบบไหน คือการมาแชร์ความคิดกันมากกว่า เป็นการถามความคิดเห็นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นชุดแบบนี้ๆ ความเป็นไทยมันอยู่ตรงไหน มีความเป็นอิสระมาแลกเปลี่ยนความคิดกันมากกว่า”
เห็นบอกว่าในงานมีการลอดซุ้มกระบี่แบบไม่เคยมีมาก่อน?
ตั๊ก : “ใครบอกเนี่ย”
ป๊อก : “คือ อยากจะบอกว่าเป็นเจ้าสาวที่ไม่รู้อะไรเลย ได้แต่แต่งตัวอย่างเดียว พี่ตั๊กบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้หมดเลย ป๊อกแค่จัดการในเรื่องส่วนตัว คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าสาวที่มีความรับผิดชอบน้อยที่สุด”
ตั๊ก: “ในงานมีการแสดงโขน เป็นการแสดงในชุดหนึ่งครับ มีให้เห็นแน่นอนครับ มีบางส่วนที่ผมจะแสดงเองครับ เราก็เป็นนักแสดงถือว่าเราก็ได้ศึกษามา มีความรู้ ผมคิดว่าถ้ามีความสามารถเราก็น่าจะแสดงให้เขาด้วย ผมบอกว่าคนอื่นช่วยผมเยอะมาก แล้วผมทำนิดเดียว ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย แล้วผมจะบอกเขาได้ยังไงว่าผมรักเขา”
พร้อมย้อนความหลังให้ฟังว่าพบรักกันที่แห่งนี้ก็เลยให้เป็นสถานที่จัดงานฉลองมงคลสมรส
ตั๊ก : “เราเจอกันแถวๆ นี้”
ป๊อก : “คือ ตอนที่เราคบกัน เราจะทำตัวเป็นชาวญี่ปุ่น มาดูละคร มาเที่ยววัดพระแก้ว มาทำอะไรให้มันเหมือนนักท่องเที่ยว จริงๆ จีบกันโดยอิงศิลปวัฒนธรรม”
ตั๊ก : “เราเจอกันอีก 2 ล็อกถัดไปจากสถานที่จัดงานวันนี้ เราเลยเลือกสถานที่นี้ในการจัดงาน จริงๆ เราเรียกสถานที่นี้รวมๆ เรียกกันเองนะครับว่าวังหน้า”
ทั้งยังได้เผยถึงความรู้สึกหลังได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ตั๊ก : “มันต้องแบ่งกันครับ ต้องแบ่งรับแบ่งสู้กัน เป็นการใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเป็นใหญ่ซะคนเดียว ซึ่งจริงๆ มันก็ใช่ (หัวเราะ) อย่างงานวันนี้มันก็เป็นเครื่องเตือนใจสอนผม อีกทางหนึ่งเหมือนกัน ว่าการที่เราจะมีครอบครัว เราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อครอบครัวดูบ้าง เพื่อที่เราจะได้อะไรที่เหมาะสมและดีที่สุดกับคนที่จะเป็นคู่ครองและเป็นครอบครัวของผมครับ”
ป๊อก : “อย่างน้อยมันก็เป็นความอบอุ่นอีกอย่างหนึ่ง เป็นความอุ่นใจที่มีเพื่อนคอยยืนอยู่ข้างๆ คอยเป็นเกราะกำบังให้เราเวลาที่เรายังไม่อยากจะเจอกับอะไร เขาก็จะคอยให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เรื่องจิปาถะตั้งแต่ปลายเท้าจรดปลายหัว ช่วยดูแลหมดทุกอย่าง คือเขาเป็นเหมือนแฝดของป๊อกอีกคน เป็นแฝดที่เราไม่ต้องรู้สึกลำบากใจที่เรามีเขาอยู่ข้างๆ เราจะไม่รู้สึกว่าเราเหนื่อยหรือว่าเราภาระ แต่เรากลับรู้สึกว่ามีเขาแล้วทุกอย่างมันเต็ม ทุกอย่างมันใช่ เลยรู้สึกว่ามันเป็นส่วนที่ดีที่สุดที่เราหาเจอ”
ตั๊ก : “คำสัญญายังไม่มีครับ แต่วันนี้จะบอกให้ฟัง บอกคืนนี้ ขอยังไม่บอกตอนนี้ บอกบนเวทีครับ”
ต่อคำถามที่ว่า “ป๊อก” ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดไหม? เจ้าสาวก็บอกว่า…
ป๊อก : “ผู้หญิงทุกคนจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดได้ทุกคน ในเมื่อมีสติในการเลือก และต้องใช้เวลา ถ้าทุกอย่างมันเหมาะเจาะในเวลา มันจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด และป๊อกเชื่อว่าทุกคนจะเป็นได้”
“เรื่องลูกยังค่ะ ยังทำงานยังทำอะไรมากมาย ยังมีหลานมาทดลองอยู่ เราเลยคิดว่าพอเถอะไว้ก่อน เอาไว้เป็นเรื่องของในอนาคต ใช้คำว่าอาจจะมีแต่ตอนนี้ยังค่ะ ฮันนีมูนวันอังคารที่ 25 ธันวาฯค่ะ ไปภูฏาน ป๊อกยังไม่เคยไป เพราะพี่ตั๊กไปมาแล้ว แล้วบอกว่าน่าไปจังเลย แต่ว่ามันติดลบอยู่ตอนนี้ แล้วมันต้องเดินเที่ยวเราจะไปเที่ยวที่ไหนได้ เราก็เลยคิดว่าเราไปญี่ปุ่นค่ะ ไปกันเอง”
ตั๊ก : “ผมเลยขอว่าถ้าไปญี่ปุ่นก็จะไปเที่ยวกันแบบวัฒนธรรม ผมยังไม่เคยไป”
ป๊อก : “เราอยากไปดูกลองอยากไปดูอะไรทำนองนั้น ก็เลยกะว่าเดี๋ยวจะแบกเป้ไปกัน ไปเคาท์ดาวน์ที่โน่น เพราะว่าถ้าเผื่อไม่ได้ไปตอนนี้หลังจากนี้เราจะไม่มีโอกาสได้พักเลย เพราะเราทำงานกันตลอดเวลา ก็เลยถือโอกาสช่วงนี้เลยว่าขอฮันนีมูนก่อน ซึ่งมันเป็นข้ออ้างในการหยุดพักที่ดีมาก (หัวเราะ) ไป 10 วันค่ะ”
ตั๊ก : “กลับจากฮันนีมูนผมกลับมาก็มีงานละครเวทีเรื่อง นางเสือง เลยครับ เล่นเดือนมกราคม ตอนนี้อยู่ในช่วงซ้อมละคร พอกลับมาก็ต้องซ้อมเลยเพราะมีหลายคนรอซ้อมอยู่ครับ”
ป๊อก : “ตอนนี้ถ้าถ่ายอยู่ 2 เรื่อง กลับมาก็ต้องถ่ายกันต่อ แล้วก็เปิดละครของพี่ต้อ มารุต อีกเรื่องหนึ่ง เป็น 3 เรื่อง แล้วตอนนื้หนังเรื่อง Together เพิ่งเข้าเพิ่งโรงค่ะ”
ซึ่งหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นก็จะเป็นขั้นตอนของพิธีการ บรรยากาศในงานนอกจากหนุ่มตั๊กจะร้องเพลงที่แต่งเองเซอร์ไพร์สป๊อกแล้ว ยังมีการแสดงโขนอสุรพงศ์ โชว์รำฉุยฉายทศกัณฐ์ โดยตั๊กร่วมแสดงด้วย พร้อมกับการแสดงหุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง โชว์ตีกลองชัยมงคล ทั้งหมดเป็นการเซอร์ไพรส์ของเจ้าบ่าวที่เจ้าสาวไม่รู้มาก่อน งานนี้ก็เลยทำเอาสาวป๊อกประทับใจสุดๆ
