“ตั๊ก” เลื่อนฉลองแต่ง “ป๊อก” จาก พ.ย.เป็น ธ.ค.ปีนี้ แง้มจัดกลางแจ้ง ในงานมีการแสดงโขน เจ้าตัวฟุ้งชีวิตคู่มีความสุขมากกว่าตอนเป็นแฟนกัน ความรู้สึกลึกซึ้งขึ้น และเปิดใจกันมากขึ้น ส่วนเรื่องมีลูกคงต้องคุยกับป๊อกก่อน
จัดพิธีหมั้นและจดทะเบียนสมรสไปแล้วเรียบร้อย ล่าสุด หนุ่ม “ตั๊ก นภัสกร มิตรเอม” ก็ได้มีโอกาสเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงเรื่องงานฉลองสมรสพระราชทานกับสาว “ป๊อก ปิยธิดา มิตรเอม” ว่า ได้เลื่อนจากเดือนพฤศจิกายน เป็น ธันวาคม ปีนี้ เนื่องจากความจำเป็นเรื่องสถานที่และแขกเหรื่อ
“ที่คุยกันเราเลื่อนวันจัดงานจากเดือนพฤศจิกายน เป็น ธันวาคม ครับ เพราะเดือนพฤศจิกายนสถานที่ที่เราขอจัดงานเราเกรงว่าครูบาอาจารย์หลายท่านที่เราเคารพจะมาไม่ได้ เพราะเดือนพฤศจิกายนจะติดงานหลายงานเลย ก็เลยขออนุญาตเลื่อนเป็นเดือนธันวาคม เพราะเดือนนั้นทุกคนจะโล่งหมด แต่เดือนธันวาคม สถานที่ที่เราขอไว้แถวๆ สนามหลวง ก็มีงาน 5 ธันวาฯ เราก็ต้องขอแทรกเป็นช่วงปลายๆ เดือนครับ ก่อนปีใหม่ครับ ก็ค่อยๆ เตรียมงานกันไปครับ”
“ถ้าพูดถึงในเรื่องการเตรียมงานผมทำให้เพราะเรามีครูบาอาจารย์ มีน้อง มีคนที่เรารักอยากจะช่วยเราในเรื่องโขนก็อยากให้เขาช่วย ในงานผมก็จะมีโชว์โขนเป็นส่วนหนึ่งครับ อาจจะเป็นชุดเล็กๆ ชุดหนึ่ง แล้วอาจจะมีการแสดงชุดอื่น แต่ที่เราตั้งไว้สนุกๆ อาจจะมีวรรณคดี สำหรับสถานที่จัดงานของผมกลางแจ้งครับ”
“คู่อื่นอาจจะมีการขัดแย้งกันบ้างในช่วงเตรียมงาน แต่ของผมไม่ค่อยมีนะครับ เพราะป๊อกเขาจะปล่อยเลย ให้เราจัดการเต็มที่เลย ซึ่งผมจะถามเขาเองว่าชอบแบบไหน ผมก็เตรียมช้อยส์ไว้ให้เขาเลือกเลย เพราะถ้าเราปรึกษากันแต่ต้นแล้วไม่มีไอเดียมันค่อนข้างอันตรายกับการที่เราไม่รู้อะไร ถ้าเกิดเราเตรียมข้อมูลให้เขา เขาจะได้คิดตาม”
เผยยิ่งแฮปปี้เข้าไปอีก หลังจากใช้ชีวิตคู่ในสถานะคู่หมั้น แม้จะเป็นแฟนกันมากว่า 10 ปีแล้วก็ตาม บอกคุยกันลึกซึ้งมากกว่าเดิม บางเรื่องไม่เคยเปิดก็มาเปิดเอาตอนเป็นคู่หมั้นกันแล้ว
“ต้องบอกว่ามันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ ความรู้สึกที่เปิดกันมากขึ้น เดิมทีเราคิดว่าเราเปิดกันอยู่แล้ว ก็ยิ่งเปิดเข้าไปอีก เปิดทุกอย่างแบ่งปันกันทุกเรื่อง มันเหมือนได้เข้าไปสู่ในห้องโถงแห่งใหม่ ความรู้สึกก็แปลกดีครับ จากเมื่อก่อนที่เราคิดว่าอยู่กัน 10 ปีแล้ว มันน่าจะหมดแล้วนะเรื่องราว แต่ปรากฏว่ามันก็ยังมีบางเรื่องที่เปิดเผยขึ้นมาอีก เปิดใจถึงกันอีก มีความสุขมากกว่าเดิม”
“ถามว่าแตกต่างก่อนที่จะแต่งงานใช้ชีวิตคู่หรือเปล่า แตกต่างครับ ในความลึกๆ ของมัน ผมว่ามันลึกซึ้งมากขึ้น เรื่องของความรู้สึกยิ่งมากขึ้นไปอีก บางทีเราเคยพูด แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึกเราไม่เคยเปลี่ยน แต่พอแต่งงานแล้ว มันมีบางอย่างที่เปิดได้มากขึ้น หรือบางอย่างที่เคยคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็คุยกันรู้เรื่องมากขึ้น”
บอกเปลี่ยนใจเปิดโอกาสอยากมีลูกแล้ว แต่ยอมรับว่าส่วนตัวไม่อยากมีลูก แต่กลัวสาว “ป๊อก” อยากจะมีแต่ต้องตามใจตน
“ผมไม่อยากจะบอกว่าไม่มี เพราะเราก็ไม่ทราบอนาคตได้แน่นอน ตัวผมเองยังยืนยันคำเดิม ว่าไม่อยากมี แต่ตัวป็อกผมไม่แน่ใจเขานะ เพราะมีคนพูดกับผมว่า ไม่แน่ใจว่าผู้หญิงเขาอยากมีลูกหรือเปล่า เราอาจจะเป็นตัวกำหนด ทำให้เขาไม่อยากมีหรือเปล่า แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าผมยังไม่อยากมี แต่ก็ต้องอยู่ที่ตัวเขา ถ้าเกิดป็อกอยากมีก็ต้องมานั่งคุยกันแล้ว”
“ที่ผมไม่อยากมีลูกด้วยเหตุผลเดิม คือ เราเห็นโลก โอเค ทุกคนอาจจะเห็นว่าเมื่อเรามีลูกก็ปล่อยให้ลูกโต ไปเผชิญกับสิ่งที่เขาต้องเจอ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อน ผมก็เชื่อว่าคำพูดนี้ใช้ได้ แต่สมัยนี้เด็กโตขึ้นมากับการแข่งขันสูง โตขึ้นมากับโลกเศรษฐกิจที่กำลังจะลุกๆ ล้มๆ และเราก็ไม่สามารถจะกะเกณฑ์อะไรได้”
“เราเห็นแล้วว่าชีวิตของคนบางคนไม่มีงานทำ เราเห็นชีวิตของเด็กๆ หลายๆ คนที่เรียนจบแล้วไม่มีงานทำ หลายๆ คนก็เกิดการแก่งแย่งในหลายๆ อย่าง เรารู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งเป็นลูกของเราจะเป็นอย่างไร แล้วเราจะแก้ปัญหาให้เขาได้อย่างไร อย่างผมมีหลานผมยังมีแรงที่จะเตรียมให้เขาตอนนี้ทัน ผมเตรียมให้เขาก่อนดีกว่า”