xs
xsm
sm
md
lg

"คงเลิก(ดื่ม)ไม่ได้..." คำสารภาพจาก "โอ วรุฒ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ว่ากันว่าชัยชนะที่ได้มายากที่สุดก็คือชัยชนะที่ได้มาจากการเอาชนะใจตัวเอง

หนึ่งในคนที่น่าจะเข้าใจประโยคดังกล่าวได้เป็นอย่างดีในช่วงเวลานี้คงหนีไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อ "โอ วรุฒ วรธรรม"

ย้อนไปในอดีตลูกชายนักแสดงอาวุโส "แรม วรธรรม" คนนี้แจ้งเกิดเป็นที่รู้จักขึ้นมาด้วยการรับบท "โกโบริ" ในภาพยนตร์เรื่อง "คู่กรรม" ประกบคู่กับ "จินตหรา สุขพัฒน์" ซึ่งด้วยความสำเร็จของหนังเรื่องดังกล่าวส่งผลให้เขามีงานภาพยนตร์ตามออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง เขาชื่อกานต์, โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ฯลฯ งานละคร และบทบาทหน้าที่ในการเป็นพิธีกรหลายต่อหลายรายการ

หากวัดกันที่คุณภาพของเนื้องานแล้วต้องบอกว่า โอ วรุฒ ไม่เป็นสองรองใคร

แต่ทุกคนย่อมมีจุดอ่อนเป็นของตนเอง

ความรักการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นชีวิตจิตใจคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตของนักแสดงหนุ่มต้องพลิกผัน ทั้งเรื่องการขาดความรับผิดชอบในหน้าที่กระทั่งนำมาซึ่งฉายา "เจ้าชายสายเสมอ" ปัญหาครอบครัว รวมถึงเรื่องของสุขภาพร่างกายที่นับวันจะแย่ลงๆ ส่งผลให้ชื่อเสียงของโอ วรุฒค่อยๆ จากหายไป

หลังถูกทีวีธันเดอร์แบนงานนานร่วม 2 ปี วันนี้นักแสดงหนุ่มเริ่มกลับมาทำงานวงการบันเทิงอีกครั้ง ซึ่งแม้เจ้าตัวจะได้รับอะไรมากมายจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต โดยเฉพาะผลพวงความเลวร้ายจากฤทธิ์น้ำเมา แต่กระนั้น โอ วรุฒ ก็ยังคงเป็น โอ วรุฒ ผู้ที่ไม่เคยโกหกตนเองด้วยการยอมรับว่าเขายังไม่สามารถจะเลิกความรักในการดื่มได้แต่อย่างใด

"ก็ยอมรับว่ายังดื่มอยู่ ทุกๆ ครั้งที่ให้สัมภาษณ์ไปผมไม่เคยบอกว่าจะเลิกดื่ม แค่บอกว่าดื่มน้อยลง เพราะถ้าเลิกดื่มถ้าสื่อไปออกอากาศแล้วมีประชาชนเกิดไปเห็นผมดื่มอยู่ที่ไหน ก็จะมาชี้หน้าผมมาด่าว่าไอ้ตอแหล วันนั้นกูดูมึงในรายการนั้น มึงบอกมึงเลิกดื่มนี่ มึงโกหกประชาชนน ผมแค่ดื่มน้อยลงมากๆ ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เสียงานและไม่เสียภาพพจน์"

ไม่คิดที่จะเลิกดื่ม?
"ยอมรับตรงๆ ครับว่าคงเลิกไม่ได้ อย่างเวลาไปงาน ถ้าเราไม่ดื่มก็จะนั่งเฉยๆ เพื่อนๆ ก็จะทักว่าทำไมไม่ดื่ม เพราะเวลาเราดื่มแล้วเราเป็นคนสนุก ทุกคนอยากให้เราดื่ม"

ลือว่าเป็นแอลกฮอล์ลิซึ่ม?
"ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่าผมไม่ได้เป็นครับ ไม่มีการบำบัดอะไรทั้งสิ้นหลังจากวันที่ผมบอกว่าผมจะดื่มน้อยลง ผมก็หยุดดื่มไป4เดือน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ไปงานวันเกิดก็จิบๆ บ้างหรือเบียร์สักขวด สำหรับสุขภาพของผมตอนนี้ผ่านทุกอย่างครับ มีโรคอย่างเดียวคือเบาหวาน”

ไม่ปิดบังเรื่องชีวิตคู่ เผยตอนนี้ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูอดีตภรรยาและลูกชายแล้ว ยอมรับไม่มีปัญญา
"หลังจากแยกทางกันไป 2 ปีผมก็บอกตรงๆ ว่าผมไม่มีเงินที่จะส่งเสียแล้วนะ ตัวผมเองมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ผมเลยไม่สามารถแบ่งปันให้ได้ แฟนก็ทำงานและก็มีแฟนใหม่น่าจะส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายได้ เมื่อสองวันที่แล้วที่คุยกัน ก็คุยกันว่าคงไม่มีการเลี้ยงดูอะไรกันแล้วแต่คงได้พบเจอกันบ้าง เราไม่ได้ทะเลาะกัน เพราะยังพูดคุยกันอยู่ อาทิตย์หน้าเขาจะมากรุงเทพและจะพาลูกชายมาเยี่ยม”

เป็นโสดแฮปปี้ไหม?
"ไม่นะครับเพราะเหงา หาไหมก็หานะ แต่หาไม่ได้หรอกปูนนี้แล้ว (หัวเราะ) บอกตรงๆ ว่าตอนนี้มองผ่านๆ ไม่ไปหลีหรือแจกเบอร์แล้ว คนเราต้องเจอทั้งลำบาก ดี ชั่ว ที่ผ่านมาไม่ได้ถือว่าเป็นบทเรียนด้วย ถือไม่ได้ เพราะว่าภายหน้าจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ตอนนี้รายจ่ายมากกว่ารายรับ เราก็เซฟมากกว่าปกติ สมมุติว่าจะทานอาหารญี่ปุ่นต้องขับรถไป สุขุมวิท ตอนนี้ก็กินบะหมี่หมูแดงหน้าหมู่บ้าน แล้วก็ไม่ใช้ของแพงไม่ทานของแพงๆอะไรแบบนี้ครับ”

ผลงานล่าสุดรับเล่นเป็นกะเทยในภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตกแหกมว๊ากมว๊าก” ของ “พจน์ อานนท์”
“ที่ผมตัดสินใจรับหนังหอแต๋วแตก เพราะส่วนนึงพี่พจน์แกคงเห็นว่าเราเองไม่มีงาน ด้วยความเอ็นดูเลยชวนมาเล่น และพอดีตรงกับคาเร็กเตอร์ที่ต้องเป็นกะเทยเหนือพูดช้า มันก็หายากสำหรับนักแสดงที่เป็นคนเหนือและเล่นกะเทยเป็น"

"หนักใจไหมที่เล่นเป็นกะเทย ไม่ครับ ปกติก็เล่นอยู่แล้วแต่ก็ไม่เหมือนกับหนังเรื่องนี้ คือจะมีการพูดเป็นภาษาเหนือเลยครับ เราต้องแต่งหญิงใส่วิกใส่ยกทรง หน้าหลังเป็นสิวหมดเลยเพราะมันร้อนแล้วก็ถอดไม่ได้ ตีสองตีสามก็ต้องใส่ทั้งวัน ถือว่าตีบทแตกไหมก็ไม่นะเพราะไม่ได้เป็นกะเทยแรงๆ เป็นแค่นิ่งๆ”

มีงานอื่นอีกมั้ย?
"ตอนนี้ก็มีซิทคอมนัดกับนัดแล้วก็ละครเรื่องหลานสาวนายพล ของพี่กอบสุขออกทางช่อง 3 เร็วๆ นี้"

เหมือนผู้ใหญ่ให้โอกาสมากขึ้น
"ก็คิดว่าผู้ใหญ่คงให้ความเมตตาครับเพราะว่า ตัวเราเองก็ปรับปรุงตัวแล้วผู้ใหญ่บางท่านคงจะดูอยู่ว่ามันจะทำตัวอย่างนี้อีกนานไหม ถ้ามันยังทำตัวเหมือนแบบนี้อยู่ก็คิดว่าคงได้มีโอกาสได้กลับมาทำงานในวงการบันเทิง อย่างละครของพี่กอบสุข คือพี่เขาติดต่อมาหาผม เพราะก่อนหน้านี้ที่จะถูกพักผมเคยเล่นละครของพี่กอบสุขมาก่อน พอเขาเห็นว่าผมดีขึ้น ทำงานได้แล้วไม่เกเรก็เลยชวนมาเล่นเรื่องนี้”

ได้คุยกับต้นสังกัดเก่าอย่าง ทีวีธันเดอร์หรือยัง?
"กับทีวีธันเดอร์คงไม่ทราบครับแล้วแต่ผู้ใหญ่ครับ ที่ผ่านมาก็ไม่มีติดต่อมาเลย แต่ผมก็เข้าไปหาผู้ใหญ่บ่อยๆ แต่ไม่ได้คุยเรื่องงานกัน ล่าสุดก็เข้าไปคุยกับพี่สมพงษ์ (สมพงษ์ วรรณภิญโญ - อดีตผู้บริหารค่ายคีตาฯ ผู้ก่อตั้งทีวีธันเดอร์) เรื่องตึกใหม่ นายก็ไม่คุยเรื่องงานเลย (หัวเราะ) แกคงดูอยู่ว่ามันคงทำตัวอย่างนี้ไปอีกนานไหม ถ้ายังทำตัวดีแบบนี้เดี๋ยวเขาก็คงให้งานเรา ก็คิดถึงทีวีธันเดอร์ถึงเข้าไปบ่อยๆ พนักงานก็สนิทกันแบบพี่น้องๆ เราก็เลยเข้าไปบ่อยครับ”



กำลังโหลดความคิดเห็น