xs
xsm
sm
md
lg

‘กังนัม สไตล์’ ปรากฏการณ์เอเชียตบหน้าฝรั่งของ ‘ไซ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

‘ปาร์ก แจ ซอง’ หรือ ‘PHY (อ่านว่า ไซ)’  ศิลปินนักร้องชาวเกาหลีดังข้ามโลก
277,747,573 เพจวิวคือจำนวนยอดคนคลิ๊กเข้ามาชมมิวสิกวิดีโอเพลงกังนัม สไตล์ ของ ‘ปาร์ก แจ ซอง’ หรือ ‘PSY (อ่านว่า ไซ)’ ศิลปินนักร้องชาวเกาหลีโดยใช้เวลาเพียงแค่สองเดือนเศษๆ ความแรงของเพลงกังนัมสไตล์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ยอดผู้ชมในยูทิวบ์หรือการขึ้นไปครองอันดับหนึ่งของ YouTube 100 ซึ่งเป็นการจัดอันดับเพลงที่มีคนเข้ามาชมมากที่สุดของยูทูปเท่านั้น แต่เพลงสนุกๆ ที่สื่อสารด้วยภาษาเกาหลีล้วนๆ เพลงนี้ยังได้รับความนิยมมากในหมู่ศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลงทั่วโลก ลามไปถึงดาราฮอลลีวูดอีกด้วย

เขาชื่อ ‘ไซ’
ท่ามกลางการถาโถมของคลื่นศิลปินเกาหลีที่สาดซัดเข้ามาทำเงินในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ‘ปาร์ก แจ ซอง’ หรือ ‘ไซ’ เป็นศิลปินเพียงคนเดียวที่มีรูปสมบัติต่างไปจากศิลปินเกาหลีพิมพ์นิยมที่ต้องหน้าเป๊ะหุ่นเป๊ะ ใบหน้าของไซไม่ได้ผ่านมีดหมอเพื่อทำให้ตากลมโต จมูกเป็นสัน หรือคางเรียวยาว หุ่นของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยมัดกล้ามตรงกันข้ามร่างกายของเขาพอกพูนไปด้วยไขมันจนทำให้ไซมีรูปร่างตุ้ยนุ้ยจ้ำม่ำ เท่านั้นยังไม่พอปัจจุบันไซยังมีอายุถึง 35 ปีแล้วซึ่งถือว่ามากกว่าอายุเฉลี่ยของศิลปินเค-ป็อปคนอื่นๆ ไปมากเลยทีเดียว

เหตุผลเดียวที่ทำให้ไซได้กลายเป็นศิลปินก็คือความรักความชอบในด้านเสียงเพลงที่มีมาตั้งแต่เขายังเล็ก ด้วยเซ้นส์ทางด้านดนตรีที่ติดตัวมาตั้งแต่จำความได้ผนวกกับจุดยืนที่ชัดเจน ไซศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยบอสตัน และไปศึกษาต่อทางด้านดนตรีโดยตรงที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์คลีย์

ไซเริ่มต้นเดบิวต์งานเพลงอัลบัมแรก ‘PSY from the PSYcho World’ ในปี ค.ศ. 2001 ซึ่งเป็นเพลงป็อปเนื้อหาเสียดสีสังคม ก่อนจะปล่อยซิงเกิลที่สอง Sa 2/Adult only ที่แรงกว่าเก่าจนถูกผู้มีอำนาจที่เกาหลีสั่งแบนด้วยเหตุผลที่ว่าเพลงนี้ได้รับการโปรโมตไม่เหมาะสมกับเยาวชน

หลังจากนั้นไซก็ซุ่มเก็บตัวเพื่อทำเพลงซิงเกิลต่อไปและใช้เวลานานถึงหนึ่งปีเต็มก่อนที่จะมีผลงานซิงเกิลที่ชื่อ Champion เผยแพร่ในโลกออนไลน์และได้รับความนิยมที่สูงมาก ด้วยท่วงทำนองและเนื้อหาที่กินใจทำให้เพลงแชมเปี้ยนของไซถูกนำไปใช้ประกอบการแข่งขันเวิลด์คัพที่กรุงโซล หลังจากนั้นมาก็แทบไม่มีใครได้ฟังผลงานใหม่ๆ ของไซอีกเลย

เวลาผ่านไปหลายปี แฟนเพลงได้ข่าวว่าไซได้รับการติดต่อเซ็นสัญญากับค่ายวายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีที่มีศิลปินดังๆ อย่างบิ๊กแบงอยู่ และที่ค่ายนี้เองที่ไซนืได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงฝีมือดีมากมายจนทำให้เขาสามารถบ่มเพาะประสบการณ์ทางดนตรีจนกลายเป็นไซที่มีผลงานเพลงฮอตฮิตติดหูจนถึงทุกวันนี้

กังนัมสไตล์เป็นซิงเกิลในอัลบัมชุดที่ 6 ของไซ ซึ่งถือเป็นการใช้หลักสูงสุดคืนสู่สามัญนั่นคือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านจังหวะคึกครื้นผสมผสานเสียงหัวเราะที่เขาถนัด และท่าเต้นที่ใครๆ ก็สามารถเต้นตามได้โดยง่าย ทั้งเนื้อร้องและท่าเต้นเหล่านี้เองที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้กังนัมสไตล์ของไซน์บุกเอาวัฒนธรรมแบบเกาหลีสไตล์ไปตีวัฒนธรรมของคนฟังเพลงได้ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ซูเปอร์สตาร์
ตบหน้าฝรั่ง

‘ร็อบบี้ วิลเลียมส์’ นักร้องชื่อดังเคยแชร์มิวสิกวิดีโอเพลงกังนัมสไตล์ลงบนบล็อกส่วนตัวของเขา พร้อมทั้งเขียนข้อความชวนให้คนดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ตั้งแต่มันยังไม่โด่งดังเปรี้ยงปร้างเท่านี้ว่า “ลองดูนี่สิ แล้วถ้าคุณไม่ยิ้ม ผมให้เตะเลย!!”

ศิลปินฮิปฮอปชื่อดัง T-Pain ก็เคยพูดถึงมิวสิกวิดีโอเพลงกังนัมสไตล์เอาไว้ว่า “ผมไม่รู้ว่าจะสรรหาถ้อยคำไหนมาอธิบายว่ามันช่างสุดยอดจริงๆ” ส่วน Josh Groban นักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน กล่าวถึงมิวสิกวิดีโอเพลงนี้สั้นๆ ว่า “Amazing Video” มาจนถึง Scooter Braun บุคคลสำคัญของวงการเพลงซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ Justin Bieber ก็พูดถึงไซน์หลังจากที่ได้ชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ว่า “ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะไม่เซ็นสัญญากับนายคนนื้” และจากประโยคนี้ของ Braun ก็ทำให้ล่าสุดไซได้จรดปากกาเซ็นสัญญากับค่าย Schoolboy Records ในเครือ Universal ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่ผ่านมารายการโทรทัศน์ชื่อดังจำนวนไม่น้อยของอเมริกา แดนดินที่ถือว่าตัวเองเป็น “บิดา” ของทุกๆ ประเทศในโลกให้พีธีกรและแขกรับเชิญออกมาเต้นท่ากังนัมสไตล์ เรื่อยลามไปจนถึงวงการกีฬาที่นักกีฬาหลายคนเต้นท่ากังนัมสไตล์โพสต์เป็นคลิปทั้งที่ถ่ายทำกันเล่นๆ ไปจนถึงการเต้นออกสื่อ และดูเหมือนว่ากังนัมสไตล์จะไม่ยอมหยุด เพราะล่าสุดศิลปินเพลงป็อปชื่อดังของอเมริกาอย่าง “บริทนีย์ สเปียร์” ก็ได้แชร์มิวสิกวิดีโอเพลงกังนัมสไตล์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งยังได้แนบข้อความเกี่ยวกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เอาไว้ว่า “ฉันชอบ MV ตัวนี้มากๆ มันตลกมาก ว่าแล้วฉันก็อยากจะลองหัดเต้นท่านี้ดูนะ จะมีใครอาสาสอนฉันเต้นบ้างไหมเนี่ย ฮ่าๆๆ”

ทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ความแรงของหนัง เพลง หรือรายการอะไรก็ต้องมีคลิปลอกเลียนสิ่งนั้นเกิดขึ้นทุกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ากังนัมสไตล์จะเป็นปรากฏการณ์ที่รุนแรงมากกว่าทุกปรากฏการณ์ที่ผ่านมา เพราะเวลาแค่สองเดือนที่ผ่านไปนี้มีคลิปวิดีโอเลียนแบบเกิดขึ้นมากมาย ทั้งแบบที่อุตสาหะตั้งใจทำมิวสิกวิดีโอให้คล้ายต้นฉบับเด๊ะๆ กับแบบที่แค่นำเพลงมาเต้นประกอบกันในสไตล์ต่างๆ รวมไปถึงการทำ MV เลียนแบบประเภทแปลงเนื้อหาตามแต่จะสร้างสรรค์ ซึ่งนับจำนวนแบบประมาณคร่าวๆ ก็เกือบ 200 คลิปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้นบางคลิปเลียนแบบยังมียอดเพจวิวสูงเป็นหลักล้านเลยทีเดียว

แรงเพราะอะไร?
คงไม่มีใครตอบได้ว่าเพราะเหตุใดกังนัมสไตล์ถึงแรงไปทั่วโลกขนาดนี้ โดยเฉพาะกับชาติที่นิยมในความเป็นตัวเองและปิดกั้นวัฒนธรรมจากเอเชียสุดๆ อย่างอเมริกา แต่ถ้าจะวิเคราะห์จากมิวสิกวิดีโอที่ทุบสถิติเพลงเกาหลีที่มียอดผู้ชมสูงสุดในรอบ 10 ปีของยูทิวบ์ก็ต้องยอมรับว่าหัวใจสำคัญที่ทำให้กังนัมสไตล์แหกทุกค่ายทลายทุกด่านมาจาก “ความตลก” “ท่วงทำนองที่ป็อปสุดๆ” และ “การที่มันวางตัวให้คนสัมผัสได้”

นักวิจารณ์เพลงหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ตั้งแต่ได้ชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ในครั้งแรกก็แทบจะทุบโต๊ะฟันธงได้เลยว่ามันต้องโด่งดัง”

ถ้าเจาะลึกลงที่เนื้อหาของเพลง คำว่า “กังนัม” นั้นเป็นศัพท์ที่ถูกบัญญัติโดยคนเกาหลีรุ่นใหม่ กังนัมเป็นย่านของคนรวยในเกาหลี ที่นั่นจะเต็มไปด้วยที่พักของคนรวย แหล่งชอปปิ้งแบบไฮโซฟู่ฟ่า รถสปอร์ตวิ่งกันขวักไขว่ กังนัมจึงได้รับการบัญญัติให้หมายถึงความร่ำรวยหรูหรา ฉะนั้น “กังนัมสไตล์” ก็หมายถึง “สไตล์คนรวย หรูหรา ฟู่ฟ่า” นั่นเอง

เมื่อดูที่เนื้อหาของเพลงที่สื่อถึงชีวิตคนรวยแบบกังนัมสไตล์ที่ตอนกลางวันก็ทำงานเต็มที่ แต่พอตกกลางดึกก็ออกไปสังสรรค์เริงร่ากับเพื่อนฝูง ก็ยิ่งไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเนื้อหาแบบนี้จะทำให้เพลงกังนัมสไตล์โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อมันสื่อสารกันแคบๆ เฉพาะกับคนเกาหลีเท่านั้น

ดังนั้น สิ่งที่เป็นสากลยิ่งกว่าเนื้อหาก็คือ จังหวะจะโคนที่เต็มไปด้วยบีตที่สนุกสนานกระแทกใจ ชวนให้ลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ยิ่งได้รับการนำเสนอผ่านมิวสิกวิดีโอที่มีท่าเต้นซึ่งคนทั่วไปสามารถที่จะลุกขึ้นมาเต้นตามได้ทันที ต่างจากท่าเต้นสวยงามและพร้อมเพรียงกันของบอยแบนด์เค-ป็อปวงอื่นๆ ที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและความชำนาญส่วนบุคคล ด้วยปัจจัยที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้นี่เองที่ทำให้กังนัมสไตล์กลายเป็น Our Style หรือสไตล์ของพวกเราทุกคน

ยิ่งเมื่อถูกนำเสนอผ่านมิวสิกวิดีโอที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันชนิดที่ใครดูก็ต้องยิ้มเหมือนกับที่ร็อบบี้ วิลเลี่ยมส์บอกด้วยแล้ว กังนัมสไตล์จึงพิชิตใจคนทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกภาษาไปได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยเซ็กแอพพีลของศิลปินมาเป็นใบเบิกทางแต่อย่างใด

นอกจากถ้วยรางวัลจาก “มิวสิก แบงก์” กับ “เอ็ม เคานต์ดาวน์” สองรายการเพลงชื่อดังของเกาหลีที่กังนัมสไตล์พุ่งขึ้นไปคว้าแชมป์แบบติดต่อกันนานหลายสัปดาห์แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาไซยังได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน “mtv music awards 2012” ที่เพิ่งจัดขึ้นที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยที่ไซไม่ได้ไปในฐานะผู้ได้รับรางวัลใดใด แต่ถูกเชิญไปแบบพิเศษในฐานะศิลปินที่กำลังฮอตฮิต โดยก่อนหน้านี้ศิลปินจากเกาหลีที่ได้รับเชิญไปร่วมงานสุดยิ่งใหญ่งานนี้ก็มีเพียงศิลปินหนุ่ม “เรน” เท่านั้น ล่าสุดมีข่าวมาว่าไซได้รับการทาบทามให้แสดงภาพยนตร์เรื่องซุปเปอร์สตาร์ เค โฟร์ ของค่ายเอ็มเน็ตอีกด้วย

แรงขนาดนี้ คงต้องยอมรับแล้วล่ะว่าปีนี้คือปีของกังนัมสไตล์จริงๆ

ปิดท้าย สำหรับเมืองไทย … ว่ากันตามประสาชาวบ้านแล้ว กังนัมสไตล์มีความ “กวน” อยู่มาก แหวกกฎเกณฑ์ของบรรดาท่าเต้นทั้งหลายในลีลาละม้าย “ท้าตีท้าต่อย” แต่สำหรับเมืองไทยแล้ว ข่าวที่ปรากฏ อันมี “ท่าเต้น” นี้ไปเกี่ยวข้องเช่น กรณีวัยรุ่นเขม่นท่าเต้นที่ ซอยเอกมัย 30 จนมีการถล่มกันแบบหนังมาเฟีย ปลอกกระสุนตกกันอยู่เกลื่อนกลาด หรือแม้แต่ม็อบล่าสุด... นั้น ฝ่ายแดงก็โยกย้ายแบบกังนัมสไตล์ เร้าอารมณ์ ยั่วยุ ฝ่ายตรงข้าม จนมีเรื่องมีราว … น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกมั้งที่นำ “ท่าเต้น” มาใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์
.................................................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่156 วันที่ 39 กันยายน - 5 ตุลาคม 2555
ปรากฏการณ์ของ “กังนัม สไตล์”

ท่าเต้นที่ยอมรับกันทั่วโลก
ร็อบบี้ วิลเลียมส์’ - แชร์ MV ในบล็อก
“บริทนีย์ สเปียร์” -  ฉันอยากจะลองหัดเต้นท่านี้ดูนะ
กำลังโหลดความคิดเห็น