“มิ้นต์” ยันสัมพันธ์ “ภูผา” ยังแค่เพื่อน รับมีเจอกันบ้างแต่เป็นโอกาสๆ ไป บอกยังไม่อยากมีใครอยากทำงานก่อน แม่หวงใครจะจีบต้องผ่านด่านก่อน
มีข่าวมาตลอดว่า นางเอกสาว “มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” กิ๊กกั๊กอยู่กับไฮโซหนุ่มทายาทเจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่ “ภูผา เตชะณรงค์” แถมยังมีภาพไปไหนมาไหนด้วยกันหลุดออกมาบ่อยๆ ล่าสุดก็มีภาพไปงานปาร์ตี้ด้วยกันตอกย้ำสัมพันธ์อันใกล้ชิดกัน กับภาพชุดดังกล่าวมิ้นต์ก็ได้แจงว่า…
“เป็นรูปชุดเดียวกับที่ไปงานก่อนที่จะกินเลี้ยงส่งเพื่อนไปเมืองนอก ตอนไปก็ไม่ได้ไปสองคน คุณแม่ก็ไปด้วย ความสัมพันธ์ก็ปกติธรรมดาค่ะ อย่างที่บอกเป็นเพื่อนกันไปก่อนค่ะ จะเจอกันก็เป็นโอกาสๆ ไปค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยทุกเดือน และเขาก็ไม่ได้ตามรับ-ส่งด้วยคะ เพราะคุณแม่คอยรับส่งอยู่แล้ว”
“ก็ไม่ได้ว่าถ้าว่างแล้วจะเจอกันค่ะ ยกเว้นเพื่อนๆ นัดถึงจะได้เจอกันค่ะ เจอกันก็ไม่เกร็งอะไรถึงคนจะจับตามองเยอะก็ทำอะไรตามปกติค่ะ เหมือนเจอกันตามกลุ่มเพื่อนก็เจอได้ ไม่ใช่ว่ากลัวจะเป็นข่าว เพราะเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่”
“ถามว่า สนิทมากแค่ไหน ก็เหมือนเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในบางกลุ่ม ซึ่งหนุ่มก็มีเพื่อนหลายกลุ่ม แต่ถ้าสนิทมากขึ้นกว่าเดิมไหม จริงๆ เราก็สนิทกันในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มากอะไรถึงขนาดจะต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ตอนนี้อยากทำงานให้เต็มที่ก่อน”
“หนูไม่มีสเปก อยู่ที่คุยแล้ว นิสัยคลิกกันได้มากกว่า เขาก็ไม่ใช่เพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดอะไร อย่างที่บอกหนูมีเพื่อนหลายกลุ่ม ไม่ได้สนิทกับพี่มากที่สุด แค่อยู่กลุ่มเดียวกันเฉยๆ ส่วนอนาคตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งค่ะ”
แจงไม่ได้ช่วยดูธุรกิจหมวกให้ “ภูผา” บอกเป็นธุรกิจของญาติตัวเอง
“ไม่ใช่ค่ะ ธุรกิจทำหมวกเป็นของญาติหนู พอดีว่าญาติและเพื่อนของพี่ภูผาสั่งหลายใบ เขาก็มาเอาหมวกพอดี ก็เลยมาช่วยหนูแต้มสี แต่ก็ไม่มีอะไรค่ะ กับข่าวที่ออกมาหนูก็มีโอกาสได้คุยกับเขาค่ะ ก็ยังขำๆ วันนั้นคุณแม่ไปด้วย เพื่อนก็อยู่แต่โดนถ่ายมาแค่ 2 คน แม่ก็ขำๆ เพราะว่าพี่ภูผาก็รู้จักกับที่บ้านหนูอยู่แล้วด้วย เพราะญาติๆ หนูเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่เขา”
ใครเข้ามาเป็นแฟนต้องผ่านด่านแม่
“เรื่องที่เป็นข่าวคุณแม่ก็คอยบอก เตือน สอนเราเพราะเขาก็ไปไหนมาไหนกับเราตลอด คุณแม่ก็ค่อนข้างหวงเพราะหนูเป็นลูกสาวคนเดียว คุณแม่และน้องๆ ค่อนข้างที่จะหวงมาก ใครจะเข้ามาต้องผ่านด่านคุณแม่ก่อนค่ะ แต่คุณแม่ไม่ถึงกับกั๊กเรื่องความรักนะคะ ด้วยความที่หนูทำงานหนัก ถ่ายละครสองเรื่อง เราอยากทำงานให้เต็มที่เพราะละครที่รับก็ต้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม”