“เก๋” รูดซิปปากข่าว “บ๊วย” เตรียมแต่งงานใหม่ แต่แง้มอีกฝ่ายจะมีคำตอบให้สังคมเร็วๆ นี้ แจงเรื่องไหนที่จะไม่เป็นผลดีกับบ๊วย ตนขอไม่พูดดีกว่า พร้อมเผยตอนนี้ “ตุ๊ก” สบายใจขึ้นแล้ว ส่วนตนก็โล่งใจที่เพื่อนไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป แต่ก็อดเสียดายความเป็นครอบครัวไม่ได้
ด้วยความที่เป็นเพื่อนรักของ “ตุ๊ก ชนกวนันท์” ที่คอยรับรู้ปัญหา และอยู่เคียงข้างตุ๊กในยามทุกข์ยามสุขมาตลอด ทุกครั้งที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับตุ๊กเกิดขึ้น สาว “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” ก็เลยเป็นคนแรกๆ ที่คอยช่วยรับหน้าแทน เช่นกันกับครั้งนี้ หลังมีข่าวลือว่า “บ๊วย เชษฐวุฒิ” เตรียมแต่งงานใหม่กับ “โม นภัสนนท์” ทายาทร้านทอง ทั้งที่เพิ่งหย่าได้ไม่ถึงเดือน เกี่ยวกับเรื่องนี้เก๋ออกตัวไม่ขอพูดถึง ก่อนจะแง้มว่า เร็วๆ นี้ บ๊วยจะมีคำตอบให้กับทุกประเด็นที่มีออกมา และอยากให้รอฟังจากปากของเจ้าตัวเองดีกว่า
“อย่างที่บอกว่าประเด็นพ่อแม่ลูก มักจะเป็นประเด็นใหญ่ ตุ๊กก็ได้เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว สภาพจิตใจก็ตามที่ตุ๊กสัมภาษณ์ไปนะคะ ก็คือ ตุ๊กพูดทุกอย่างชัดเจน ตุ๊กก็สบายใจ แล้วก็โล่งใจ สิ่งที่ติดค้างหรือข้องใจกัน ตอนนี้ก็ถือว่าเขาได้เคลียร์ตรงนั้นไปเรียบร้อยแล้ว”
“ตุ๊กผ่านเรื่องราวนี้มาได้ ก็จริงๆ แล้วใจนึงก็โล่งใจมากๆ อย่างที่บอกนะคะ ว่าสบายใจมาก คือสบายใจแทนเขาแล้ว ก็ไม่ต้องรับฟังความทุกข์ทรมานที่เพื่อนเป็น หรือไม่ต้องได้รับโทรศัพท์ตอนกลางคืน ที่แบบเพื่อนไม่สบายใจ นอนไม่หลับ อันนี้ก็คือผ่านตรงนั้นไปแล้ว ก็ดีใจนะคะ ก็ถือว่าเป็นความทุกข์ทรมานของเพื่อน ซึ่งใช้ระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน ก็คือเกือบ1ปีเต็ม ที่ต้องเห็นเพื่อนไม่สบายใจมา”
“แต่อีกใจหนึ่งลึกๆ ก็ยังยืนยันคำเดิม ว่า เสียดาย เสียดายความเป็นครอบครัว ก็คือ อย่างที่บอกแล้ว ว่าท้ายที่สุดแล้วก็เป็นหน้าที่ของคนสองคนตัดสินใจ แล้วตุ๊กก็พูดประโยคนึงไว้ เก๋อ่านแล้วเก๋รู้สึกว่าตุ๊กพูดชัดเจน แล้วก็เคลียร์มากๆ เลย จริงๆ ชีวิตคู่มันเป็นความร่วมมือกันระหว่างคนสองคน คือ หน้าที่สามีและภรรยา ถ้าเกิดคนๆ นึงที่คิดว่าอยากจะยกเลิกการทำหน้าที่ตรงนั้นไป อีกคนนึงก็คงทำคนเดียวไม่ได้ ซึ่งตุ๊กก็พูดได้ชัดเจนมากๆ ค่ะ”
“ก็อย่างที่บอกแล้วว่าใจนึงก็สบายใจแทนเพื่อนว่าเออ ทุกข์ที่ผ่านมาเนี่ย เขาก็เห็นทางออกแล้ว การแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาเลือกก็จบลงแล้ว แล้วอีกใจนึงก็เสียดายความเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก ของเพื่อนเท่านั้นเอง”
เผยตอนนี้ “ตุ๊ก” พาลูกๆ ไปเที่ยวเกาหลี
“ตุ๊กไปเกาหลี เราก็คุยกันตลอดเลยค่ะ คือ ตอนแรกอยากจะบอกว่า ตุ๊กชวนไปด้วยกันนะคะ ว่าอยากให้ไปด้วย เพราะจริงๆ ก็ถือว่าตุ๊กกับครอบครัว ก่อนหน้านี้เองก็ตาม อันนี้คือบ้านตุ๊กจะไปเที่ยวต่างประเทศเองค่อนข้างจะบ่อย บ่อยนี่คือหมายความว่า ทำเป็นกิจจะลักษณะ 1 ปี พักผ่อน รวมตัวกันทั้งคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่พี่บ๊วยก็ไปด้วย”
“แล้วก็อย่างที่หลายๆ ท่านทราบว่า น้องแพรว กับ น้องภูมิ ได้รับการเลี้ยงดูเป็นหลักสูตรของวอลดอร์ฟ คือ เด็กอายุเท่าไหร่ ต้องเดินทางขึ้นรถครั้งแรก ต้องไปสัมผัสธรรมชาติ ต้องนั่งเครื่องบินอายุเท่าไหร่ กี่เดือน ซึ่งตอนนี้น้องภูมิ ก็ปีนึงแล้ว ก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่น้องภูมิต้องไปสัมผัสชีวิตบนเครื่องบินได้แล้ว”
“คือหลักสูตรการเลี้ยงลูกเขาจะมีหลายๆ แบบ ซึ่งตุ๊กเองเขาก็ติสต์มากเลย ตอนน้องภูมิ 1 ปี 1เดือน ตุ๊กก็เลยคิดว่าได้เวลาที่ต้องพาน้องภูมิขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวแล้ว แล้วเขาก็ชวนเก๋เหมือนกัน ว่า เก๋ไปด้วยกันมั้ย แต่คือสัปดาห์นี้ เก๋มีภารกิจเยอะมากเลย ทั้งเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ก(พ็อกเกตบุ๊ก ชื่อ รักสวยรักงาม) ช่วงนี้ก็ต้องวิ่งทำข่าว”
“ต้องบอกว่า งานนี้ก็ต้องรอตุ๊กเหมือนกันนะ ตอนแรกจะเปิดตัวตั้งแต่สัปดาห์นี้แล้ว คือ วันที่ 19 แต่ตุ๊กก็บอกว่าไหนๆ ตุ๊กก็เขียนคำนิยมให้แล้ว แล้วตุ๊กก็เป็น 1 ในตัวละครของพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้ด้วย มีการกล่าวถึง ตุ๊กก็บอกว่ารอเขาได้มั้ย ก็เลยมีการเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ก คือ วันที่ 24 กรกฎาฯอังคารหน้า รอเพื่อนกลับมาก่อน”
“ตุ๊ก” ทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ได้เป็นคนบอกเลิกก่อน อย่างนี้จะเป็นการมองว่าจบไม่ดีหรือเปล่า?
“ไม่หรอกค่ะ คือ จริงๆ แล้วเก๋เชื่อนะคะ ว่า ทั้งพี่บ๊วยทั้งตุ๊กเขาค่อนข้างจะคุยกันเยอะอยู่แล้ว ช่วงหลังนี้แล้วเขาก็คงได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ว่า จะสัมภาษณ์ แล้วก็ไปในทิศทางเดียวกัน แล้วก็อย่างวที่บอก ว่าเหนือสิ่งอื่นใดคำสัมภาษณ์ของตุ๊ก คือ คำสัมภาษณ์ คือไม่ต้องมีการเตรียมกันระหว่างเก๋กับตุ๊ก คือเป็นความจริงล้วนๆ”
“อย่างที่บอกว่าเก๋อยู่ในเหตุการณ์กับตุ๊กทุกวัน แล้วตัวตุ๊กเองเราก็เป็นคนเผชิญปัญหานี้อยู่แล้ว เก๋ว่าจริงๆ แล้วเรื่องจบไม่ดีเนี่ย การแยกทางกันก็เป็นการจบไม่ดีอยู่แล้ว ส่วนพี่บ๊วยจะเข้าใจตรงนี้หรือเปล่า เก๋ เชื่อว่า พี่บ๊วยใจกว้างพอ ตุ๊กก็ได้ตอบชัดเจนแล้วในการแก้ข่าวเรื่องของพี่บ๊วยว่ายังไง คือ เก๋ เชื่อว่า ตรงนี้ ทั้งตุ๊กกับพี่บ๊วยเองคงไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องข่าวอีกแล้ว ก็เลยตรงนั้นมาแล้ว”
ด้วยความที่ “เก๋” เป็นเพื่อนรักของ “ตุ๊ก” รับรู้ปัญหา อยู่เคียงข้างในยามทุกข์และสุขมาตลอด จึงอดถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า “บ๊วย” เตรียมไปขอ “โม” ลูกสาวทายาทร้านทอง แต่งงาน เก็มีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งเก๋บอกว่า...
“คือ เก๋เคารพการตัดสินใจของเพื่อน อันนี้ขอพูดตามเพื่อนดีกว่า ก็คือ บอกแล้วว่า เราไม่ขอตอบคำถามดีกว่า ก็อย่างที่บอกตุ๊กกับพี่บ๊วยเป็นสามีภรรยากัน เก๋เป็นเพื่อนรักตุ๊ก พี่บ๊วยเป็นสามีเพื่อนเก๋ ตอนนั้นเรายังมีสายใยความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน ณ วันนี้พี่บ๊วยกับตุ๊กไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ยังคงเป็นพ่อเป็นแม่ของหลานเก๋อยู่ดี เพราะฉะนั้นสิ่งอะไรก็ตาม ที่จะเป็นเรื่องไม่ดีกับพ่อของหลานเก๋ เก๋ขอไม่พูดดีกว่า”
แต่ยอมรับว่าเคยได้ยินข่าวมาเหมือนกัน
“ก็มีได้ยิน พอวันนั้นสัมภาษณ์เสร็จ ก็มีนักข่าวบางคนก็โทร.มาถามมาเล่าให้ฟัง เก๋บอกว่าอันนี้ไม่ทราบจริงๆ นะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวพี่บ๊วยแล้ว เก๋ไม่สามารถไปถามพี่บ๊วยได้แล้ว แล้วก็ไม่สามารถไปหวงแทนเพื่อนได้แล้ว เพราะเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เค้าก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นเพียงพ่อของหลานเก๋”
ส่วนกรณีที่ “บ๊วย” โดนด่าค่อนข้างแรงมาก “เก๋” ก็แจงว่า เพราะเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนแย้มเร็วๆ นี้ ฝ่ายชายคงมีคำตอบให้สังคมในทุกประเด็น
“ต้องบอกจริงๆ ว่า สังคมไทยเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่ใหญ่ เก๋ เชื่อว่า พี่บ๊วยต้องจัดการกับเรื่องนี้ได้ดี ในฐานะที่พี่บ๊วยเป็นผู้ชาย และคงจะเข้มแข็งพอ เก๋ เชื่อมั่นว่า พี่บ๊วยคงจะมีคำตอบให้กับสังคมในเร็วๆ นี้ หรือแม้กระทั่งข่าวอะไรก็ตามที่ถามมา สมมติว่าเป็นเรื่องจริง ทุกวันนี้พี่บ๊วย ก็ต้องรู้อยู่ดี ใช่มั้ยคะ ของอย่างนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย เก๋ไม่ใช่หมอดูฟันธง (หัวเราะ) ก็อย่างที่บอกแล้วว่า อะไรจะเป็นอะไรก็เดี๋ยวต้องรอดูกันก่อนดีกว่า”
เคลียร์เรื่อง “ตุ๊ก” เพื่อนรักไปแล้ว คราวนี้ “เก๋” ขอเคลียร์ข่าวเกาเหลากับ “ทาทา ยัง” เพื่อนรักอีกคน เพราะตอนที่เก๋ทำโครงการช่วยน้องหมา มีดารามาช่วยกว่าครึ่งร้อย แต่กลับไม่มีชื่อทาทา
“อ๋อ ไม่ได้เกาเหลาเลยค่ะ อย่างที่บอกไปแล้ว ทาทาก็เป็นน้องสาวเสมอ คือ จริงๆ ชวนทุกครั้ง ชวนทุกคน แล้วก็อย่างที่บอกแล้วว่าทาทาเดินทางไปต่างประเทศ คือ ทาทาก็มีส่วนในการบริจาคอาหารสุนัขให้เรา ตอนนั้นพาไปทัวร์ที่เวียดนามค่ะ แล้วก็ใครที่มาร่วมงานได้ ก็อย่างที่บอกแล้วว่างาน the voice เนี่ยเป็นงานอาสาสมัคร คือ ใช้ระบบที่ว่าไม่มีทีมงาน หรือออแกไนเซอร์ หรือใครก็ตามโทร.ไปตามใครเลย ส่วนตัวทาทาเองเขาก็บีบีข้ามประเทศมาเลย ว่า จะบริจาคอาหารสุนัขให้นะ 20 ถุง แล้วให้พี่ไปรับที่บ้าน เพราะตอนนั้นน้องทัวร์คอนเสิร์ตอยู่”