xs
xsm
sm
md
lg

“นางสาวไทย 55” สั่งสาวงามต้องเป็นกุลสตรี ห้ามผ่ากระโปรงสูงยกขาแบบเวทีอื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นางสาวไทย 55” เริ่มแล้ว หลังงดไป 1 ปี บอกปีนี้จะคัดโดนมีเกณฑ์สำคัญ 3 ข้อ คือ ความสามารถ สวย และ มีใจช่วยเหลือสังคม อีกทั้งยังเปิดเฟซบุ๊กให้สาวงามสร้างฐานแฟนคลับด้วยตัวเอง พร้อมเผยไฟเขียวให้ศัลยกรรมได้แต่พองาม สั่งเข้มระหว่างประกวดต้องเป็นกุลสตรีไทย จะผ่ากระโปรงสูงยกขาแบบเวทีอื่นไม่ได้ หลังรับตำแหน่งก็ห้ามถ่ายเซ็กซี่เด็ดขาด

พักการประกวดไป 1 ปี สำหรับเวที “นางสาวไทย” ที่ติดเรื่องของวิกฤตน้ำท่วมและการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ล่าสุดทางสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บมจ.อสมท ได้ร่วมกันจัดกาประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2555 ขึ้น โดยนาย “เขมทัตต์ พลเดช” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ได้กล่าวถึงการจัดการประกวดครั้งนี้ว่ามีกฎระเบียบความเข้มขึ้นที่มากขึ้นกว่าในทุกๆ ปีที่ผ่านมา

“เราเองว่างเว้นจากการจัดการประกวดมาปีนึง ปีนี้ก็คงจะต้องทำให้เข้มข้นขึ้น ความเข้มข้นตรงนี้จะประกอบด้วย 2-3 ประการ อย่างแรกคือเรื่องของแคนดีเดทในการเลือก เราจะเลือกความสามารถพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะติดตัวเขาไปตลอด แล้วก็ความสวยแน่นอนที่จะติดตัวเขาอยู่เหมือนกัน และสุดท้ายคือให้เขามีจิตใจช่วยเหลือสังคม ซึ่งจะแตกต่างจากเวทีอื่นตรงที่เรามีอินเนอร์ด้วย ในแต่ละ 3 ประการจะอยู่ในเรื่องของการเก็บตัว การเทรนนิ่งมากกว่าเวทีอื่น”

“ที่เข้าประกวดเรากำลังดูว่า 3 คนแรกนางสาวไทยและรองต่างๆ จะได้รับการเซ็นสัญญา นอกจากกองประกวดจะมองรางวัลให้เป็นล้านๆ แล้ว ทั้งเงินสด มงกุฎเพชร ส่วนที่เหลือเราจะมีการเทรนนิ่งดูด้วย ซึ่งเราอาจจะเก็บทั้ง 10 คน ก็ได้ให้มาเซ็นสัญญากับทาง อสมท 1 ปีไปแล้ว เราก็จะมาดูว่าน้องทั้ง 10 คน และ 3 คนจะเข้ามาอยู่ในวงการมวลชนได้หรือไม่”

“ผมไม่ได้หมายความถึงวงการบันเทิงอย่างเดียว ผมหมายถึงวงการสื่อสารมวลชน เขาอาจจะไม่ได้เป็นดาราก็ได้ อาจจะเป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว หรือเป็นวิทยากรอะไรต่างๆ ซึ่งเรามีเอ็มคอทอะคาเดมี่ที่รองรับอยู่ แล้วก็ยังมีเรื่องของละครอีก เราได้คุยกับทางผู้จัดละครในเครือ อสมท ไว้แล้วว่าถ้าได้ 3 คนเข้ามาก็จะจัดส่งไปออดิชั่นดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง”

“นอกจากนี้เรากำลังดูเรื่องผลโหวตป๊อปปูล่าโหวต ซึ่งล่าสุดนางสาวไทยเราเริ่มทำเฟซบุ๊ก แล้วก็จะมีแฟนคลับติดตาม คือเป็นรางวัลที่เพิ่มเข้ามาอีกสำหรับสังคมโซเชียลมีเดีย เพราะกำลังเข้มแข็งมาก มันเป็นการทำให้คนดูที่นิยมบิวตี้คอนเทสต์เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จะไม่เป็นการโหวตธรรมดา แต่จะเป็นวันทูวัน หรือเป็นบิ๊กโหวตเลยก็ได้ เราเองก็พัฒนาจากสิ่งที่บกพร่องในแต่ละปี ให้มีสิ่งดีๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

เปิดกว้างการมีส่วนร่วมให้สาวงามสร้างฐานแฟนคลับด้วยตัวเองจากเฟซบุ๊กกองประกวด โดยจำกัดการสร้างฐานแฟนคลับต้องงามอย่างไทย จะสร้างกระแสโชว์หวือหวานอกกรอบจากกุลสตรีไทยไม่ได้

“การเก็บตัวเรามีความเข้มงวดอยู่แล้ว หลังจากนี้ผู้สมัครก็ต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย และเรามีมิสไทยแลนด์เฟซบุ๊ก ซึ่งนางงามทุกคนสารมารถสร้างฐานแฟนคลับของตัวเองโดยการโพสต์รูประหว่างทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเก็บตัวได้อยู่แล้ว มันอาจจะเป็นสิ่งเล็กๆ แต่กลุ่มคนที่นิยมโซเชียลนั้นมีเยอะ และกำลังเป็นที่สนใจ คนที่ชอบนางงามนี่มีเยอะมาก พวกเขาก็จะสนใจกัน ก็จะเกิดการมีส่วนร่วมเกิดขึ้น”

“ในส่วนของบุคลิกภาพ ความมั่นใจของนางงามยุคใหม่ เราให้ความสำคัญกับความเป็นกุลสตรีเป็นอันดับต้นๆ แต่เราก็อะลุ่มอล่วยให้มีการแสดงออกได้มากขึ้น ถ้าหวือหวามั้ย คงไม่หวือหวา เป็นการแสดงออกที่อยู่ในกรอบที่เรารับได้ จะมาผ่ากระโปรงสูงยกขาแบบนั้น เวทีเราทำไม่ได้ครับ นางสาวไทยของเรามีกฎระเบียบ ว่าต้องมีจังหวะจะโคน ต้องมีบุคลิกภาพที่ดี อยู่ในวงสังคมที่เหมาะสมได้ พูดง่ายๆ คือนางงามไม่ใช่นางแบบ อย่างเรื่องการรับงานภายหลังจากการได้รับตำแหน่งก็เหมือนกัน จะไปถ่ายแฟชั่นหวือหวา อันนี้เราก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมนะ”

“เราไม่เหมือนเวทีอื่น เราเป็นกุลสตรีไทย เป็นตัวแทนหญิงไทยของประเทศ ก็ไม่ควรจะหวือหวา เพราะเราร่วมงานกับสภาสตรี เราร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และล่าสุดเราร่วมงานกับหอการค้า เรามองว่าต่อไปประเทศไทยจะเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน นอกจากจะมีความรู้ สวย เป็นทูตการท่องเที่ยวแล้ว คุณต้องทำการค้าได้ด้วย”

เผยเปิดกว้างทั้งสาวลูกครึ่งหรือสาวงามที่สวยด้วยศัลยกรรม สามารถเข้าร่วมประกวดได้ แต่ต้องทำแบบพอดี และมีความรู้เรื่องภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี

“นางสาวไทยของเราไม่ได้จำกัดแค่สาวไทยแท้เท่านั้น ลูกครึ่งเราก็เปิดโอกาส แต่ต้องเป็นสาวงามที่เข้าใจวัฒนธรรมไทย พูดภาษาไทยถูกต้อง เราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว อีกเรื่องคือศัลยกรรม เราก็เปิดนะ แต่ว่าอย่ามาก ขอแบบพอดี ซึ่งเรามีคณะกรรมการอีกชุดนึง ที่ดูแลตรงนี้อยู่ ถ้ามากเกินไปหรือว่าเปลี่ยนมันซะทั้งหมด ก็คงไม่ได้”
“เขมทัตต์ พลเดช” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน)

กำลังโหลดความคิดเห็น