xs
xsm
sm
md
lg

“ศุ บุญเลี้ยง” กับ “ทุ่งแสงตะวัน อันรวม” เพลงดีๆที่เป็นมากกว่าเพลงเด็ก/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ทุ่งแสงตะวัน รายการเด็กที่อยู่ยืนยงมากว่า 20 ปี
แม้จะไม่ใช่รายการที่ “ดัง” แต่รายการ"ทุ่งแสงตะวัน"ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ว่าเป็นรายการที่ “ดี” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจำนวนเพียงน้อยนิดของรายการทีวีมีคุณภาพในบ้านเรา

แม้จะไม่ใช่รายการที่ “ดัง” แต่รายการทุ่งแสงตะวันก็สามารถยืนหยัดฟันฝ่าอยู่ในวงการทีวีเมืองไทยมาได้อย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว(ออกอากาศครั้งแรก ปี 2534) ตั้งแต่พิธีกรคนเดินเรื่อง“นิรมล เมธีสุวกุล” ยังเป็น“พี่นก”ผู้สดใสน่ารักของน้องๆ(และคนดูอย่างผม) จนเวลาล่วงเลยผ่านมาเป็น“ป้านก” ผู้ใจดีของเด็กๆ

เสน่ห์ของรายการทุ่งแสงตะวัน นอกจากการนำเสนอมุมมองของโลกอันบริสุทธิ์ใสซื่อน่ารักของเด็กๆ ผ่านภาพถ่ายสวยๆและคนเดินเรื่องที่มีลีลาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของรายการนี้ที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือ เรื่องของเพลงประกอบรายการ ซึ่งนอกจากเพลงธีมที่มีชื่อเดียวกับรายการแล้ว ยังมีเพลงประกอบของแต่ละตอนที่ต้องแต่งให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ในตอนนั้นๆ นั่นจึงให้กว่า 20 ปีที่ผ่านมารายการทุ่งแสงตะวันมีบทเพลงประกอบมากมาย(ตามคอนเซ็ปต์ในแต่ละตอน) จนน่าคิดว่านี่อาจจะเป็นรายการที่มีเพลงประกอบมากที่สุดในเมืองไทยก็ว่าได้

ด้วยเพลงประกอบที่มากมายทำให้ทางรายการได้คัดเพลงเด็ดๆมารวมเป็นแผ่นไว้หลากหลายชุด ทั้งงานตามคอนเซ็ปต์ของชุดหรืองานที่เป็นการรวมเพลงของคนแต่งนั้นๆ
ปกหน้าอัลบั้ม ทุ่งแสงตะวัน อันรวม
สำหรับผลงานอัลบั้มไฮไลท์ในอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น งานเพลงชุด “ทุ่งแสงตะวัน” โดยกลุ่ม“กะทิ-กะลา”และ“พี่จุ้ย-ศุ บุญเลี้ยง” ที่เป็นดังการรวมเพลงฮิตของรายการทุ่งแสงตะวัน แต่ไม่ฮิตในวงการเพลงบ้านเรา

อัลบั้มทุ่งแสงตะวันเคยทำออกจำหน่ายเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นเทปคลาสเซ็ทโน่น ครั้นเมื่อได้ฤกษ์ครบรอบกว่า 20 ปี จึงมีการนำมาผลิตใหม่อีกครั้ง ในชื่อชุด “ทุ่งแสงตะวัน อันรวม” ซึ่ง 9 ใน 10 เพลงของอัลบั้มที่เป็นเทปนั้นถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้มนี้ที่มีบทเพลงทั้งหมด 15 เพลงด้วยกัน โดยมีพี่จุ้ย ศุบุญเลี้ยง เป็นโปรดิวเซอร์ ร่วมร้องนำและแต่งเพลงอีกจำนวนหนึ่ง

ทุ่งแสงตะวัน อันรวม เปิดตัวกันด้วยเพลง “ทุ่งแสงตะวัน” เพลงธีมหลักของรายการ ร้องนำโดยพี่จุ้ย ต้อง จ๋า และเด็กๆที่มาส่งเสียงใสๆน่ารักๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นเพลงที่ดังที่สุดของรายการทุ่งแสงตะวัน เนื้อหาท่วงทำนอง ดนตรี น่ารัก สดใส ฉายให้เห็นภาพของรายการเด็กได้เป็นอย่างดี

เพลงนี้พี่จุ้ยผู้แต่งเนื้อร้อง ถ่ายทอดโลกแห่งจินตนาการ โลกอันสวยงาม สดใสของเด็กๆผ่านบทเพลง โดยมีแง่งามในแนวคิดของผู้ใหญ่แอบแฝงอยู่ ด้วยหวังว่าจะให้เด็กๆที่ไร้เดียงสาพวกนี้ได้เป็นนักค้นหาเพื่อเป็นผู้รู้เดียงสาที่มีความฝันอันแข็งแรง เมื่อถึงเวลาอันควร
นิรมล เมธีสุวกุล หรือพี่นกของน้องๆแห่งทุ่งแสงตะวัน
แทรคต่อมาเป็น “ฝากนก” บทเพลงเนิบช้าชวนเศร้าสร้อยกับเรื่องราวของนกเป็ดน้ำที่ถูกผู้ใหญ่ใจร้าย ยิง ฆ่า พวกมัน จนลูก แม่ พ่อ ต้องถูกพรากจากกัน โดยมีเสียงวิงวอนของเด็กๆฝากไปถึงผู้ใหญ่ว่า อย่าได้รังแกทำร้ายพวกนกเหล่านั้นอีกเลย ซึ่งเสียงร้องใสปนโศกของน้องแจ้นั้นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ชนิดที่บางคนฟังแล้วถึงกับน้ำตาซึม

ส่วน“เพื่อน” เป็นเพลงกลิ่นคันทรีสนุกๆ บอกเล่าเรื่องราวของเด็กๆกับ “เพื่อน” ซึ่งไม่ใช่คน หากแต่เป็นสรรพชีวิตในผืนป่าใหญ่ทั้งฝูงปลา นกน้อย ต้นไม้ และสัตว์น้อยใหญ่ ที่ต้องช่วยกันรักษาเอาไว้ให้ดี

โรงเรียนเรือนแพ” สะท้อนเรื่องราวของคนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน จากบ้านบนดินต้องกลายมาเป็นบ้านเรือนแพ แต่เด็กๆที่นี่ยังไม่หมดหวังและกำลังปรับตัวกับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ที่ผูกพันกับสายน้ำ พร้อมด้วยปณิธานที่จะรักน้ำดังที่เคยรักดิน ก่อนตามต่ออารมณ์แห่งสายน้ำกันด้วยเพลง “แม่น้ำ” ที่บอกเล่าวิถีที่ผูกกันกับสายน้ำ กับบทเพลงช้าๆหวานซึ้ง
โลกน่ารัก ใสซื่อของเด็กๆที่ถูกนำเสนอผ่านรายการ
จากนั้นเป็น “แม่โพสพ” บทเพลงใสๆน่ารัก จังหวะสนุกชวนขยับแข้งขยับขา บอกเล่าวิถีอันสวยงามของชาวนา(ที่มันอาจจะสวนทางกับความจริงในชีวิตจริงของผู้ใหญ่) ต่อเนื่องกันด้วย “ขวัญข้าว” นำเสนอความเชื่อพื้นบ้านกับพิธีขวัญข้าว อันเชิญ บูชา แม่โพสพ ที่สะท้อนว่าในความเชื่อ(ที่บางคนมองว่างมงาย)มีสิ่งที่สวยงามดีงามแฝงอยู่ในนั้น

แล้ง” เพลงเศร้าเล่าเรื่องภัยแล้งในภาคอีสานที่ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต้องเข้าแถวรอน้ำกินจากบ่อน้ำบ่อสุดท้ายของหมู่บ้าน ซึ่งในบทเพลงต่อยอดด้วยการสะท้อนปัญหาให้เห็นถึงการาตัดไม้ทำลายป่า ทำลายธรรมชาติจากฝีมือมนุษย์ได้อย่างแยบยล “...เขาว่าคนแกล้งป่า ฟ้าจึงแล้วแกล้งคน”

ไปสนุกกับเพลง “ผีตาโขน” ประเพณีชื่อดังของ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ในจังหวะสนุกๆ สำเนียงอีสาน ผีตาโขนเป็นผีน่ารักก่อให้เกิดประเพณีน่ารัก แต่ที่ไม่น่ารักซึ่งไม่มีพูดไว้ในบทเพลงคือ การกระทำของหน่วยงานทางการท่องเที่ยวบางหน่วย ที่มุ่งแต่เข้าไปขายงานผีตาโขนโดยอ้างรายได้เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเกินงาม จนทำให้ประเพณีนี้ผิดเพี้ยนไป
พี่นกร่วมกิจกรรมกับน้องๆ
ฝนตก” บทเพลงสนุกๆ นำเสนอเรื่องราวโลกสวยของหน้าฝน ซึ่งเด็กๆในเพลงนี้อาจมองเห็นความงามเมื่อยามหน้าฝนมาเยือน แต่เรื่องจริงก็คือยามฝนตกหนัก พายุเข้าที่ไร รัฐบาลนี้สะดุ้งทุกที กลัวว่าปีนี้จะ“เอาไม่อยู่”

เมื่อฝนตกลงมา น้ำหลาก ก็ตามต่อกันด้วยเพลง “ลอยกระทง” บอกเล่าเรื่องราวของประเพณีลอยกระทง โดยแรงบันดาลใจมาจากชุมชนต้นเรื่องที่ริมแม่น้ำนครชัยศรี ใน จ.นครปฐม ที่เด็กร่วมแรงร่วมใจกันทำกระทงขึ้น เพื่อตอบแทนพระคุณของแม่น้ำ

ทุ่งแห่งความฝัน” บทเพลงสอนใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ให้คนเรารู้จักต่อสู้ เรียนรู้คุณค่าของการทำงาน ส่วน “ลูกผู้ชาย” เป็นเรื่องราวการบวชสามเณรภาคฤดูร้อนของเด็กๆที่ อ.จุน จ.พะเยา เนื้อหาเพลงนี้สอนใจดีทีเดียว

“ชีวิตเยาว์วัยในครั้งหนึ่ง ได้ไปถึงซึ่งความหมาย
ของความเป็นลูกผู้ชาย จุดหมายชีวิตกว้างไกล
ตั้งใจใฝ่หาความรู้ เชิดชูปัญญาสะสม
บ่มเพาะค่าความเป็นคน เวลาผ่านพ้นจนดีงาม...”

ลูกผู้ชายตัวจริงมันควรเป็นแบบในเพลงนี้ ไม่ใช่ไอ้พวกลูกผู้ชายจอมปลอมที่ตีรันฟันแทง ฆ่ากันเหมือนกับวัยรุ่นไทยจำนวนหนึ่ง ไอ้พวกนั้นไม่ควรค่าแก่การเรียกว่าลูกผู้ชาย แต่น่าจะเหมาะกับคำว่า “อันธพาล” หรือ “หมาหมู่” มากกว่า
ปกหลังอัลบั้ม ทุ่งแสงตะวัน อันรวม
หนาวป่าสน” เป็นดนตรีอะคูสติก เสียงกีตาร์ใสๆเล่นปิ๊กกิ้งไปคู่กับเสียงร้อง ออกแนวเพื่อชีวิต วิงวอนให้ช่วยกันรักษาธรรมชาติป่าไม้

จากนั้นปิดท้ายกันด้วย “ทุ่งแสงตะวัน(แปลง)” เพลงทุ่งแสงตะวันในอีกหนึ่งเนื้อร้อง ที่ยังคงมากไปด้วยจินตนาการ
15 เพลงผ่านไปแบบฟังเพลินกับ “ทุ่งแสงตะวัน อันรวม” อัลบั้มรวมบทเพลงใสๆ ดนตรีเพราะ ภาษาสวย เนื้อหาดี ที่ไม่ได้นำเสนอ บอกเล่า หรือสอนใจเฉพาะกับเด็กๆเท่านั้น หากแต่ยังให้ข้อคิดกับผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความฝัน ความหวัง กำลังใจ คุณค่าของการทำงาน ความรักความสามัคคี

ทุ่งแสงตะวัน อันรวม แม้จะเป็นอัลบั้มรวมเพลงจากรายการเด็ก แต่หลายๆเพลงในที่นี่มีเนื้อหาและคุณค่ามากเกินกว่าเพลงเด็ก ซึ่งผมขอคัดลอกท่อนสุดท้ายในข้อความของพี่จุ้ยที่เขียนบันทึกไว้ในปกในว่า

“...บทเพลงทั้งหมดไม่ใช่บทเพลงสำหรับเด็ก แต่เป็นบทเพลงสำหรับทุกคน ที่มีหัวใจอ่อนโยน ไม่ว่าอายุจะอ่อนเยาว์หรือไม่ก็ตาม”
กำลังโหลดความคิดเห็น